Chapter 5

2277 คำ
Chapter 5 ต้องลอง สามวันต่อมา… @ห้างสรรพสินค้า “นู่นไง...ยัยแพรมานั่งรอแล้ว” สปายบุ้ยปากไปที่ร้านไอศกรีมแบรนด์ดัง เมื่อเห็นแพรดาวนั่งกินไอศกรีมรออยู่ภายในร้าน ซึ่งในวันนี้พวกเธอได้นัดกันหลังเลิกงานมานั่งกินนั่งเมาท์ตามประสาเพื่อนสนิท “หูย...นางมานั่งรอคนเดียวด้วย ฉันก็นึกว่าเฮียเวย์จะไม่ปล่อยให้นางมาคนเดียวซะอีก” มัดหมี่แซวแพรดาวขำๆ ในขณะที่เธอและสปายกำลังเดินเข้าไปในร้านไอศกรีม “นางไปแผลงฤทธิ์อะไรใส่เฮียเวย์มาล่ะ เฮียเวย์ถึงได้ปล่อยนางมา” สปายหันไปยกยิ้มให้มัดหมี่อย่างรู้กัน “เดินยิ้มอะไรมากันสองคนยะ พวกแกนินทาฉันเหรอ?” แพรดาวตวัดตามองเพื่อนสาวคนสนิทด้วยสายตาจับผิด เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะเดินมาถึงโต๊ะ แพรดาวก็เห็นมัดหมี่และสปายหัวเราะคิกคักกันอยู่สองคนแล้วมองมาที่เธอ “พวกฉันก็กำลังสงสัยว่า เฮียเวย์ปล่อยแกมาคนเดียวได้ยังไง” สปายเอ่ยถามแพรดาว เพราะทุกครั้งถ้ามีแพรดาวอยู่ที่ไหน มักจะเห็นรันเวย์ที่นั่นเสมอ “เฮียก็ไม่ได้หวงฉันขนาดน้านนนน” แพรดาวพูดลากเสียงยาว “เหรอจ๊ะ ไม่หวงเลยเนอะ ไม่หวงเล้ยยยย” สปายตอบกลับแพรดาวเสียงยาวเช่นกัน เพราะอย่างที่รู้กันว่ารันเวย์ทั้งห่วงและหวงแพรดาวเป็นอย่างมาก “แกก็อย่าเอาแต่แซวฉันนะยัยปาย พี่บิ๊กบอสก็โคตรจะหวงแกเลย...” แพรดาวตอบกลับสปายอย่างไม่ยอมแพ้ “สรุปคือคนโสดอย่างฉัน ต้องมานั่งฟังพวกแกเถียงกันเรื่องหลัวใครหวงใครมากกว่ากันงั้นเหรอ?” มัดหมี่กลอกตามองบนให้เพื่อนสาวคนสนิทของเธอทั้งสองคนอย่างเอือมระอา “แหม...เดี๋ยวแกก็จะไม่โสดแล้วปะยัยมัด” สปายเอ่ยพูดอย่างมีเลศนัยพร้อมเหล่ตามองมัดหมี่ด้วยรอยยิ้มกริ่ม เมื่อเธอแอบเชียร์ใครบางคนให้จีบเพื่อนสาวคนสนิทของเธอ “แกเป็นหมอดูหรือไงกันยัยปาย ถึงได้รู้ว่าฉันจะไม่โสดแล้ว” มัดหมี่มองสปายและแพรดาวสลับกัน เมื่อเห็นสปายและแพรดาวเหมือนกำลังส่งซิกอะไรบางอย่างให้กันอยู่ “อาจจะเจอเนื้อคู่เป็นท่านประธานหรือเปล่าน้า” แพรดาวตอบแทนสปายด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ “ถ้าฉันเจอเนื้อคู่เป็นท่านประธานแบบพี่ใหญ่นะ ฉันขอขึ้นคานดีกว่า บึ๋ย!” มัดหมี่ยกมือขึ้นปฏิเสธเป็นพัลวัน อีกทั้งใบหน้าสวยหวานก็ส่ายไปมาอย่างไม่เห็นด้วยกับคำพูดของแพรดาว “อะแฮ่ม...ฉันก็ยังไม่ได้พูดถึงพี่ใหญ่สักคำเล้ยยย” แพรดาวทำท่ากระแอมในลำคอ แล้วทำสีหน้าบ้องแบ๊วใส่มัดหมี่ “คิดอะไรอยู่ในใจหรือเปล่าน้า ถึงได้เผลอคิดไปถึงพี่ใหญ่เข้าอย่างจัง นั่นก็ท่านประธานตัวพ่อเลยน้า ดีกรีก็เริ่ดมาก” ประโยคหลังสปายแอบสปอยพี่ชายแฟนให้เพื่อนสาวคนสนิทของเธอฟัง เผื่อมัดหมี่อาจจะคล้อยตามคำพูดเธอบ้าง “...” มัดหมี่นิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรออกมา “เอ๊ะ? จะว่าไปแกชอบผู้ชายตัวสูง มาดอบอุ่นใช่ไหม?” สปายเอ่ยถามมัดหมี่พร้อมทำท่าครุ่นคิดไปด้วย เมื่อคิดถึงสเป็กที่มัดหมี่เคยพูดไว้ “ตะ...แต่ฉันไม่ได้หมายถึงพี่ใหญ่ซะหน่อย” มัดหมี่รีบเอ่ยพูดขึ้น เมื่อคิดว่าสปายกำลังพูดถึงไอศูรย์ “แกหมายถึงพี่ใหญ่หรือเปล่ายัยปาย” แพรดาวเอ่ยถามสปายพร้อมกับลอบยิ้มมุมปากที่มัดหมี่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ซึ่งท่าทางของมัดหมี่ในวันนี้ก็ทำให้แพรดาวรู้แล้วว่าหัวใจของมัดหมี่ตอนนี้ไปอยู่กับใคร... “ก็เจ้าของเรื่องเขาพูดออกมาแบบนั้น ก็ต้องเป็นพี่ใหญ่แล้วแหละ” สปายตอบกลับแพรดาวด้วยสีหน้ายิ้มๆ อย่างมีเลศนัย “สเป็กที่ฉันเคยพูดไว้ ฉันหมายถึงพี่นัมจุน วงบีทีเอส ย่ะ” มัดหมี่ตอบกลับเพื่อนสนิทของเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “อ๋อเหรออออ จ้ะๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ไหนดูซิ...แขนถลอกหรือเปล่า” สปายเอ่ยถามพร้อมกับจับแขนมัดหมี่ไปด้วย แล้วชำเลืองมองแขนด้วยสีหน้าล้อเลียน “ทำไมแขนฉันต้องถลอกด้วยล่ะ?” “ก็ฉันเห็นแกแถไปเรื่อยไงจ๊ะเพื่อนรัก คิกๆ...” สปายหัวเราะร่วนออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ “ฉันจะงอนพวกแกแล้วนะ” มัดหมี่ทำใบหน้างอง้ำเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ “โอ๋ๆ น้องมัดของพี่แพรอย่าหงุดหงิดสิ เดี๋ยวฉันสั่งไอศกรีมดับร้อนในใจให้แกดีกว่า” แพรดาวง้องอนมัดหมี่อย่างน่ารัก เมื่อเห็นว่ามัดหมี่เริ่มงอแง “โอ๋ๆ ใจเย็นน้า” สปายเอามือลูบแผ่นหลังบางของมัดหมี่เบาๆ “เอาไอติมโคนไหมยัยมัด แกจะได้ฝึกตวัดลิ้นไปด้วย” เมื่อแพรดาวพูดจบ ปลายลิ้นเล็กก็ตวัดเลียขอบปากตัวเองด้วยท่าทางยั่วยวน “แกพูดอะไรของแกเนี่ยยัยแพร” ใบหน้าสวยหวานแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอาย เมื่อแพรดาวพูดวนไปเรื่องสิบแปดบวก อีกทั้งท่าทางประกอบการพูดก็ทำให้เธอคิดไปถึงเรื่องบนเตียง “สั่งมาให้ฉันอันหนึ่งนะโคนน่ะ ฉันจะซ้อมตวัดลิ้น เดี๋ยวคืนนี้จะปฏิบัติจริง” ว่าแล้วสปายก็แลบลิ้นเลียขอบปากตัวเองเหมือนแพรดาว ราวกับต้องการแกล้งมัดหมี่ เมื่อเห็นมัดหมี่ใบหน้าแดงซ่านอย่างเขินอาย “โอ๊ยพวกแกพูดอะไรเนี่ย” มัดหมี่ยกมือปิดหน้าตัวเองด้วยใบหน้าร้อนผ่าว “หื้ม...หน้าแดงเชียวนะแก ฉันแค่พูดเล่นๆ เอง ทำไมถึงเขินขนาดนั้นเนี่ย...” สปายยกมือลูบหัวมัดหมี่อย่างเอ็นดู “เขินขนาดนี้ ต้องรีบสั่งโคนมาให้ลอง” พูดจบแพรดาวก็สั่งไอศกรีมที่เป็นโคนทันที และเพียงไม่นานพนักงานก็เอาไอศกรีมมาเสิร์ฟ “โอ๊ยพวกแกแกล้งฉัน~” มัดหมี่โอดครวญ เมื่อพนักงานในร้านยื่นไอศกรีมแบบโคนมาให้เธอ ตอนแรกคิดว่าเพื่อนสนิทของเธอแค่พูดเล่นขำๆ ไม่คิดว่าจะสั่งมาให้เธอจริง เธอน่ะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการกินไอศกรีมเลยนะ แต่พอเพื่อนของเธอพูดไปถึงเรื่องสิบแปดบวก มันดันทำให้เธอคิดไปเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ไอศกรีม “ฮ่าๆ” สปายและแพรดาวหัวเราะออกมาพร้อมกัน เมื่อเห็นใบหน้าของมัดหมี่ในตอนนี้ที่แดงราวกับลูกพีช “ก็แค่ไอศครีมโคนเอง แกอะคิดลึกเกินไปหรือเปล่ายัยมัด ถ้าไอติมแท่งของแท้ มันจะไม่เย็นหรอกนะ แต่มันจะอุ่นๆ แข็งๆ แล้วมันจะอ่อนยวบตอนพ่นน้ำกะทิออกมาสองสามครั้งน่ะ คิกๆ” แพรดาวพูดเล่าเป็นฉากๆ จนมัดหมี่คิดภาพออกทันที “พูดซะเห็นภาพเลย ว่าแต่มันฟินไหมอะ” มัดหมี่เอ่ยถามด้วยความอยากรู้ทั้งที่ใบหน้าของเธอก็แดงซ่านด้วยความเคอะเขิน “อะไรฟินของแกยะยัยมัด” สปายเอ่ยถามมัดหมี่ทันที เพราะเธอรู้ว่ามัดหมี่กำลังหมายถึงอะไร “ฉันรู้ว่าแกรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร อยากพูดให้ฉันรู้นักไม่ใช่เหรอ หื้ม” มัดหมี่ตอบกลับสปายด้วยรอยยิ้มมุมปาก “อ๊ากกก...เขินอะ ยัยปายแกเล่าเลย” แพรดาวยกมือบางแนบที่แก้มนุ่มนิ่มของตัวเองอย่างกระดี๊กระด๊า “ครั้งแรกมันก็เจ็บนะแก แต่แบบโดนบ่อยมันก็ฟินอะ” สปายเอ่ยบอกมัดหมี่แล้วหลับตาพริ้มทำท่าฟิน ก่อนจะหันไปเออออกับแพรดาว “ใช่ไหมยัยแพร...” “ฟินยันเช้า คิกๆ” แพรดาวยักไหล่ขึ้น แล้วขยิบตาส่งจุมพิตให้มัดหมี่ “แกต้องลองยัยมัด แล้วจะรู้ว่ามันฟิน~” สปายเอามือแตะไหล่มัดหมี่เบาๆ “ยัยบ้าปาย แกจะให้ยัยมัดไปลองกับใคร” แพรดาวหัวเราะร่วนออกมา เมื่อสปายเอ่ยพูดบอกมัดหมี่โดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ทั้งที่มัดหมี่ยังไม่มีแฟนเลยด้วยซ้ำ “ฮ่าๆ จริงด้วย” สปายหัวเราะคิกคักพร้อมกับใช้ปลายลิ้นตวัดเลียกินไอศกรีมด้วยท่าทางยั่วยวน “ท่าตวัดลิ้นชำนาญมากแม่” มัดหมี่เอ่ยพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ ก่อนที่เธอจะเอาปากงับไอศกรีม “ฮ่าๆ ก็บอกแล้วไงว่าฉันซ้อม คืนนี้ฉันต้องปฏิบัติจริง” สปายเอ่ยพูดออกมาตรงๆ เพราะแก๊งเธอพูดเล่นแบบนี้ตลอดอยู่แล้ว “จริงจังมว้าาก...” ว่าแล้วแพรดาวก็อ้าปากกว้างกินไอศกรีม “แกก็อ้าปากกว้างเกิน ปากก็เล็กนิดเดียว” มัดหมี่เอ่ยพูดเมื่อเห็นแพรดาวทำท่าทางทะเล้นออกมา “ปากเล็กแต่คอลึกนะจ๊ะ” “โอ๊ยยยย...พอเถอะเพื่อนรักจ๋า สงสารฉันเถอะ...” มัดหมี่เอาใบหน้าแนบลงกับโต๊ะทันที เพราะยอมแพ้ให้กับเพื่อนสนิทของเธอทั้งสองคน แต่สปายและแพรดาวก็ยังตามมากระซิบไม่หยุด และจากนั้นทั้งสามสาวก็คุยกันไปเรื่อย จนกระทั่งพากันแยกย้ายกลับที่พัก @บ้านมัดหมี่ 21.00 น. ร่างบางหุ่นดีนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับ และเพียงไม่นานหญิงสาวก็หยัดตัวลุกขึ้นนั่ง ปากเล็กยกยิ้มมุมปากและสะบัดขาลงจากเตียงไปที่ห้องแต่งตัว “ไปนั่งชิลฟังเพลงดีกว่า” เมื่อมัดหมี่แต่งตัวเสร็จ เธอก็หมุนตัวรอบกระจก ก่อนจะไปหยิบกุญแจรถและขับรถออกไปจากบ้านทันที สัปดาห์นี้ทางสะดวก เพราะคุณพ่อคุณแม่ของเธอบินไปร่วมงานการกุศลที่พัทยาหนึ่งอาทิตย์ @คลับหรู เมื่อขับรถมาถึงคลับหญิงสาวร่างเล็กหุ่นดีในชุดเดรสรัดรูปสีพีช ความยาวของชุดเดรสปิดแก้มก้นนิดหน่อย ขาเรียวยาวเดินสับขาราวกับนางแบบไปโซนมุมที่นั่งโต๊ะกลมตรงบาร์เทนเดอร์ “พายครับ จัดน้ำพั้นซ์ผสมแอลให้เจ๊หน่อย” มัดหมี่เอ่ยสั่งบาร์เทนเดอร์ด้วยน้ำเสียงหวาน ซึ่ง ‘พาย’ เป็นน้องรหัสของเธอที่ทำงานพาร์ตไทม์เป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ในคลับแห่งนี้ “อย่าเมานะเจ๊ ขี้เกียจแบกกลับ” รุ่นน้องเอ่ยบอกมัดหมี่ “นานๆ เจ๊จะมาให้แกแบกกลับ แกจะดูแลเจ๊หน่อยไม่ได้หรือไงจ๊ะน้องชาย” มัดหมี่หัวเราะร่วนตอบกลับรุ่นน้องคนสนิท เธอก็พูดเล่นกับรุ่นน้องไปแบบนั้นเอง เพราะเธอรู้ลิมิตของตัวเองดีว่าเธอดื่มได้ขนาดไหน “อะๆ ยอมๆ เต็มที่เลยเจ๊ แต่ดื่มแถวนี้นะเจ๊” รุ่นน้องเอ่ยบอกพี่รหัสด้วยความเป็นห่วง “รับทราบค่าน้องชาย” มัดหมี่ตอบกลับอย่างว่าไปที ช่วงนี้เธอมาดื่มที่คลับคนเดียวบ่อย เพราะเพื่อนของเธอก็มีแฟนกันหมดแล้ว เธอเลยไม่อยากชวนเพื่อนของเธอมาด้วย เพราะเกรงใจเหล่าบรรดาแฟนของเพื่อน มัดหมี่นั่งจิบน้ำพั้นซ์ผสมแอลกอฮอล์ครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตากลมโตยกมือเท้าคางจ้องมองนักร้องหนุ่มบนเวทีด้วยสายตาหวานเยิ้ม มิหนำซ้ำยังยกแก้วเหล้าชูขึ้นราวกับจงใจโปรยเสน่ห์ให้นักร้องหนุ่มบนเวทีที่จ้องมองเธออยู่เหมือนกัน และด้วยอาการที่เริ่มเมากรึ่มหน่อยๆ ทำให้คำพูดเพื่อนสนิทผุดขึ้นมาในความคิดของเธอ “ครั้งแรกมันก็เจ็บนะแก แต่แบบโดนบ่อยมันก็ฟินอะ” “ฟินยันเช้า ฮ่าๆ” “แกต้องลองมัดหมี่” @ชั้น 2 โซนห้องกระจกทึบวีไอพี “แจ่มว่ะ แม่กวางน้อย...” สิงห์ผู้เป็นเพื่อนสนิทของไอศูรย์เอาลิ้นสากกระทุ้งแก้มอย่างหื่นกระหาย เมื่อสายตาแหลมคมสะดุดเข้ากับหญิงสาวร่างเล็กหุ่นดีที่สวมชุดเดรสรัดรูปสีพีชนั่งอยู่โซนโต๊ะกลมหน้าบาร์เทนเดอร์ สีชุดตัดกับสีผิวที่ขาวเนียนผ่อง ทำให้หญิงสาวร่างเล็กคนนั้นดูเย้ายวนตา จนสิงห์อยากขยำเนื้อนวลให้มานอนครวญครางใต้ร่างของเขา แต่ในขณะที่สิงห์กำลังตกอยู่ในภวังค์ความหื่นกระหายของตัวเอง เขากลับต้องละสายตาจากแม่กวางน้อย เมื่อจู่ๆ เพื่อนสนิทของเขาเอ่ยพูดขึ้นฉุนเฉียวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “แรด! สอนเท่าไรก็ไม่รู้จักจำ!” ไอศูรย์จ้องมองเด็กฝึกงานของเขาที่หนีเที่ยวคลับเพียงลำพัง มิหนำซ้ำยังชูแก้วเหล้าให้นักร้องหนุ่มบนเวทีอย่างยั่วยวนราวกับต้องการโปรยเสน่ห์ และเพียงไม่นานนักร้องหนุ่มคนนั้นก็เดินเข้าไปหาเด็กฝึกงานจอมยั่วของเขา “ไอ้เชี่ยเสือ ไอ้น้องเวร ตัดหน้ากูจนได้” สิงห์สบถขึ้นอย่างหงุดหงิดพร้อมหยัดตัวลุกขึ้นจะเดินออกไป เมื่อเห็นเสือผู้เป็นน้องชายของเขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่เขาหมายตาเอาไว้ในคืนนี้ “มึงนั่งลงซะไอ้สิงห์ ถ้ามึงไม่อยากโดนตีนของกูเหมือนน้องของมึง” “มึงอย่ามาตัดหน้ากูไอ้ใหญ่ กูเห็นเธอก่อนมึง” “จะเห็นก่อนเห็นหลังกูก็ไม่สน เพราะเธอเป็นเด็กฝึกงานของกู!” พูดจบไอศูรย์ก็เดินออกไปจากห้องด้วยอารมณ์หงุดหงิด “มันไปมีเด็กฝึกงานตอนไหนวะ...” สิงห์เอ่ยพูดไล่หลังไอศูรย์ด้วยสีหน้างุนงง เพราะเท่าที่สิงห์รู้มาไอศูรย์ไม่เคยรับเด็กฝึกงานมาทำงานข้างกายสักคน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม