“ไม่มีวันหรอก หลานรู้มั้ยยายอายุปูนนี้แล้วยายอยากเห็นอะไรมากที่สุด” คุณหญิงเบญจวรรณเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง
“อะไรล่ะครับ” ฌอร์นถามด้วยความสงสัย
“เหลนของยายไง” คุณหญิงเบญจวรรณรีบตอบทันที
“งั้นเดี๋ยวผมหาของผมเอง ผมจะรีบให้คุณยายอย่างเต็มที่ แต่ผมไม่อยากแต่งงานกับไอย์ณรา” ฌอร์นวอนขอความเห็นใจจากผู้เป็นยาย
“ไม่ได้ เจ้าสาวของหลานต้องเป็นไอย์ณราเท่านั้น ถ้าไม่ใช่ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามความต้องการของยาย” คุณหญิงเบญจวรรณยังยืนยันความต้องการของท่าน
“หลานสาวของลูกหนี้ยายเนี่ยนะ ต้นตระกูลยังกู้หนี้ยืมสินมาขนาดนี้ แล้วลูกหลานจะขนาดไหน” ฌอร์นหมิ่นครอบครัวของว่าที่เจ้าสาวเขา ทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้า เคยได้ยินแต่ชื่อเสียงเรียงนาม ที่สำคัญยายของเขาปลื้มไอย์ณรามาตั้งนานแล้ว แต่เขาไม่คิดว่าจะปลื้มขนาดอยากได้เป็นหลานสะใภ้
“อย่าไปดูถูกเขา หนูไอซ์เป็นคนดี ถึงครอบครัวเขาจะเป็นยังไงก็ช่าง ยายเชื่อสายตาของยาย หนูไอซ์จะเป็นภรรยาที่ดี และเป็นแม่ที่ดีของเหลนยาย” คุณหญิงเบญจวรรณกล่าวจริงจัง
“สายตาของคุณยายอาจจะฝ้าฟางแล้วก็ได้นะครับ แล้วไอย์ณราอาจจะเล่นละครก็ได้ เธออาจจะไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่คุณยายคิด” ฌอร์นยังพยายามคิดร้ายกับคนที่เขายังไม่เคยเห็นหน้า เพราะทุกครั้งที่เธอมาที่บ้าน จะเป็นช่วงเวลากลางวัน ซึ่งส่วนใหญ่เขาจะอยู่ที่ออฟฟิศ ก็เลยคลาดกันไปมาอยู่ตลอด
“ไม่หรอก เพชรแท้ยังไงก็คือเพชรแท้วันยังค่ำ ส่วนที่หลานควงอยู่ มันหินกรวดข้างทางทั้งนั้น” คุณหญิงเบญจวรรณกล่าวเปรียบเทียบได้อย่างเจ็บแสบ นั่นทำให้หลานชายรู้สึกไม่พอใจในตัวผู้หญิงที่ผู้เป็นยายเลือกให้เป็นคู่ชีวิตของเขามากยิ่งขึ้น
“นี่ตกลงผมจะไม่เหลือทางเลือกในชีวิตเลยใช่มั้ยครับ” ฌอร์นถอยหายใจด้วยความอึดอัดใจ การบังคับที่เขาไม่มีหนทางปฏิเสธ ต่อให้เจ้าสาวเขาพิกลพิการเขาก็ต้องแต่ง ถ้าไม่อยากเป็นผู้ชายที่มีแต่ตัว เขาก็คงต้องทำตามที่ผู้เป็นยายต้องการ
“ก็นี่ไงทางเลือก เลือกแต่งงานกับหนูไอซ์แล้วทุกอย่างจะดีเอง เชื่อยายเถอะ เพราะบนโลกใบนี้ไม่มีใครหวังดีกับหลานมากไปกว่ายายอีกแล้ว” คุณหญิงเบญจวรรณกล่าวจริงจัง ต่อให้นี่มันคือการบังคับ ท่านก็เชื่อว่าสิ่งที่ท่านทำมันถูกต้องที่สุด ไม่เช่นนั้นหลานชายของท่านก็จะลอยชายเป็นพ่อพวงมาลัย ไม่ยอมลงหลักปักฐานเสียที บั้นปลายชีวิตของท่าน ท่านไม่ต้องการอะไร นอกจากเห็นหลานชายคนเดียวของท่านมีความสุขกับชีวิตครอบครัว ท่านจะได้ตายตาหลับ