ตอนที่ 5
พ่อครูของแรง
“มึงเป็นใครกันรึ?”
ไกรศร เอ่ยถามเสียงเข้ม ดวงตาคมกริบมีแววครุ่นคิดเล็กน้อย แต่ยอมแก้ผ้ามัดของเธอให้แต่โดยดี มือหนากดข้อเท้าของเธอลงกับพื้นเรือน และคลายผ้าออกอย่างใจเย็น
“ฉันก็คือจำปาไงจ้ะพ่อครู”
จะให้ตอบว่าอย่างไร? ขืนบอกไปสงสัยเธอจะได้รับของแรงยิ่งกว่าเดิมเพราะ พ่อครูต้องคิดว่าเธอโดนผีเข้าจนกลายเป็นบ้าไปแล้วแน่นอน
“มึงต้องการอะไรรึ? ถึงต้องโกหก”
หน้าคมคายครั่นคร้ามโน้มมาใกล้ จนจมูกโด่งเป็นสันนั้นแทบจะชนกับหน้าเธอ ลมหายใจผ่าวร้อนรดรวยรินอยู่ไม่ห่าง
หล่อฉิบหาย!! ทำไมพ่อครูไกรศรถึงได้หล่อเหลาอย่างนี้
“ชะ..เชื่อฉันซิจ้ะ ตอนนี้ฉันหิวน้ำมาก”
จีรยา เอ่ยเสียงแหบพร่า มองหน้าหล่อเหลาด้วยสายตาปรือเชื่อม รู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองร้อนรุ่มและกระหายน้ำอย่างรุนแรง แม้จะเคยกินเหล้ามาหลายครั้ง แต่เหตุใดคราวนี้เธอรู้สึกเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้
“รอเสียหน่อย มึงต้องดื่มน้ำมนต์เท่านั้น ไอ้กล้ากับอีสร้อยกำลังไปเอา มันต้องลาจากหิ้งเสียก่อน”
ลา ที่ไกรศรหมายถึง คือการตั้งจิตและสวดภาวนาเพื่อขอเอาสิ่งนั้นจากที่ได้บูชาไว้ว่าจะนำเอาออกมาจากตรงนั้น
“ตะ..แต่ฉันหิวน้ำมาก”
เธอเอ่ยเสียงแห้งผาก ปรือตามองหน้าหล่อเหลาที่โน้มมาใกล้ จนเห็นหยาดเหงื่อชุ่มจากลำคอไปยังแผงอกกำยำแน่นเครียด ทำให้หญิงสาวเผลอเอื้อมมือไปลูบไล้เนินเนื้อที่โผล่พ้นสาบเสื้อสีครามอย่างแผ่วเบาและกดนิ้ววนยังรอบคอ แล้วค่อยๆยืดตัวเองขึ้นไปใกล้
“อีจำปา!มึงคิดจะทำอะไร?”
ไกรศร กัดฟันกรอด มองร่างบางที่บิดเร่าและมองเขาด้วยสายตายั่วยวน แต่มือนิ่มกลับรั้งคอให้หน้าหล่อเหลาของเขาลงชิดใกล้ จนริมผีปากอิ่มของเธออยู่ใกล้เพียงปลายจมูก
“พ่อครู ฉันขอกินน้ำหน่อย”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไป จีรยาจึงชะโงกหน้าไปใกล้และจูบยังปากหยักหวังจะดับกระหาย จนริมผีปากอิ่มเธอบดเบียดแนบแน่น ก่อนลิ้นเรียวเล็กจะดุนดันยังโพรงปากอุ่นร้อนของเขา ควานหาหยาดน้ำที่ฉ่ำชุ่ม
“อืม อื้อ..”
เสียงของจีรยา เหมือนจะขาดห้วงเมื่อลิ้นสากร้อนดุนดันลิ้นเรียวเล็กของเธอกลับ และรุกลิ้นเข้าสอดยังโพรงปากนุ่มของเธอ ดูดตวัดรัดอย่างรุนแรงจนส่งเสียงดังไปทั่วห้องเล็ก หยาดน้ำใสย้อยลงมุมปากและเธอก็ตวัดเลียมันอย่างหิวกระหาย
ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันเนิ่นนาน ไกรศรเองก็เหมือนจะเริ่มรุกเร้าหนักด้วยกลีบปากอิ่มนั้นบดเคล้าจนความอดทนของเขาเริ่มจะขาดห้วง และแม้จะดูดกินอย่างไรก็เหมือนจะไม่พอเสียที
มือนิ่มของจีรยา จึงไล้ยังสาบเสื้อหม้อฮ่อมและล้วงเข้ายังแผงอกแน่นเครียด เหมือนต้องการระบายความกำหนัดภายในตัวที่คุกรุ่นจากฤทธิ์เหล้า
เสียงฝีเท้าของ ไอ้กล้าเดินมาใกล้เรือน
“พอ! ได้แล้ว”
ไกรศร ผละตัวออกห่างและผลักไหล่บาง จนร่างของเธอ ล้มไปยังเสื่อกลางห้อง ก่อนจะเหยียดกายลุกขึ้นเมื่อเห็นลูกน้องทั้งสองเดินถือขันน้ำมนต์ขึ้นเรือนมา
อีนี่!! ทำเอาของในตัวกูปั่นป่วนไปหมด
“ฮือ เอาน้ำมาฉันจะกินน้ำ”
เธอเอ่ยเสียงออดอ้อน มองเขาด้วยสายตาปรือเชื่อม จนไกรศร ต้องขบกรามเข้าหากันแน่นจนเป็นสันนูนเด่น
“น้ำมันต์ได้แล้วจ้ะพ่อครู”
ไอ้กล้า ยื่นขันน้ำมนต์ให้ก่อนจะถอยหลังกลับไปอยู่นอกชานกับอีสร้อย ไม่กล้าจะเข้ามาในห้อง ด้วยไม่รู้ว่าผีในร่างของอีจำปา จะอาละวาดขึ้นมาตอนไหน
เพราะฟังอีสร้อยพูดแล้ว อีนี่มันน่าจะโดนผีเข้าหรือไม่ก็ต้องโดนของดำที่ลอยมาจากทางฝั่งเขมรแน่นอน
“ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญ โยจามะโน...”
พ่อครูไกรสร ยกขันน้ำมนต์ขึ้นเหนือหัวและหลับตาตั้งจิตพึมพำคาถาอีกรอบ โดยที่จีรยา กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก เมื่อจ้องมองขันน้ำมนต์นั้นอย่างหิวกระหาย
จะสวดอะไรนักหนา!! คนหิวน้ำจะแย่
“สวดเสร็จรึยังจ้ะพ่อครู?”
เธอจำต้องเอ่ยถามออกไป เพราะเห็นว่าเขาสวดภาษาไปจนเกือบจะสามบทละยังไม่เสร็จเสียที “นี่ถ้าผีเข้าฉันจริงๆ มันคงกินตับใต้ใส้พุงฉันไปหมดแล้วละจ้ะ”
“มึงอย่าริปากดีนัก!”
เสียงดุเข้มนั้นทำให้ จีรยาจำต้องหุบปากพยายามข่มความรู้สึกตัวเองไว้อย่างยิ่งยวด ด้วยเกรงว่าจะไม่ได้กินน้ำเย็นๆ จากขันให้ชื่นใจ
“อะ ฉันกินได้รึยัง?”
“หึ! กูบริกรรมคาถาอีกรอบแล้ว มึงต้องกินให้หมด แม้มันจะทรมานเพียงใดก็ตาม” มือหนาบีบท้ายทอยเธอแน่นให้ปากอ้าขึ้น เพราะเกรงว่าหญิงสาวที่โดนของเข้าจะทุรนทุรายเวลาดื่มน้ำมนต์ขันใหญ่เช่นนี้
แต่เขาก็ต้องเสี่ยง เพราะดวงจิตอีนี่มันแปลกๆ จนคาถาอาคมของเขาคล้ายจะไม่เป็นผลเลยสักนิด
“จ้ะๆๆ”
จีรยา พยักหน้าอย่างเข้าใจอ้าปากรับน้ำมนต์แสนชุ่มฉ่ำในขันที่มีหยดเทียนลอยอยู่สามสี่หยดและกลีบดอกมะลิแสนชื่นใจ ก่อนที่จะกระดกกินอย่างหิวกระหาย
“อึกๆๆ”
“ใจเย็นๆ เดี๋ยวสำลัก”
คล้ายน้ำเสียงของพ่อครูจะอ่อนลงเล็กน้อย แต่แววตาคมกริบสีดำเข้มก็ยังคงเพ่งมองเธออย่างสงสัย เมื่อมือนิ่มบีบมือที่จับขันน้ำของเขาไว้แน่น และดื่มน้ำมนต์ในขันอึกๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะร้อนรุ่มดั่งเช่นคนโดนของรายอื่นๆ
“อึกๆ อื้ม เย็นชื่นใจจัง..มีอีกขันมั้ยจ้ะ?”
จีรยา เงยหน้าขึ้นมองเมื่อดื่มน้ำมนต์ในขันจนหมด ความเย็นและหอมชื่นใจนั้น ทำให้เธอสดชื่นขึ้น เพราะตั้งแต่บ่ายเธอหิวกระหายน้ำมาตลอดหลายชั่วโมง
พ่อครูนิ่งงันไปสักพัก ก่อนจะวางขันน้ำมนต์ที่ว่างเปล่าลงกับพื้นเรือน และจ้องมองหน้าหวานของเธอนิ่งคล้ายครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
น้ำมนต์ปลุกเสกมันกินอย่างหิวกระหายโดยไม่ร้อนรุ่มเลยสักนิด แถมยังร่ำร้องขอใหม่อีกขัน
ผีตนนี้ในร่างอีจำปา ช่างน่ากลัวแท้!!
********************