5.2 ใครจะพัง
“คนนี้ชื่อพี่ดินแดนนะจ๊ะหนูฝน เรียกพี่แดนเฉยๆ ก็ได้นะลูก”
คุณหญิงพิไลแนะนำลูกชายให้กับฝนทิพย์ ขณะร่วมโต๊ะในร้านอาหาร ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เป็นการนัดหมายเฉพาะสองครอบครัว บรรยากาศจึงไม่น่าอึดอัดเหมือนงานเลี้ยง
“สวัสดีค่ะ” ฝนทิพย์ยกมือไหว้ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาดูภูมิฐาน
“สวัสดีครับน้องฝน” ดินแดนยิ้มน้อยๆ บุคลิกค่อนข้างเงียบขรึม ไม่มีท่าทีกรุ้มกริ่มเหมือนคนที่ผ่านมา นับว่าเป็นสถานการณ์ที่ผ่อนคลายสำหรับฝนทิพย์
“แดนเพิ่งกลับจากอเมริกา ป้าเลยพามาแนะนำให้หนูรู้จัก” พิไลแสดงตนเป็นแม่สื่อ อยากเกี่ยวดองกับครอบครัวนายทหารยศพลเอก มงคลซึ่งเป็นสามีก็มียศพันตำรวจเอก จึงเห็นว่าเหมาะสมที่จะให้ลูกๆ ลงเอยกัน
“ขอบคุณพี่พิไลมากนะคะ ที่นึกถึงพวกเรา”
จรัสแสงยิ้มอย่างมีความสุข คาดหวังถึงอนาคต หากฝนทิพย์แต่งงานกับดินแดน ครอบครัวคงพ้นวิกฤติการเงิน เคยมั่งคั่งมีธุรกิจบ้านจัดสรร แต่ด้วยการบริหารงานที่ผิดพลาด สองปีที่ผ่านมาจึงขาดสภาพคล่อง มีกินมีใช้ก็เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ยังดีที่สามีมีตำแหน่ง จึงยังเชิดหน้าอยู่ในสังคมได้
“พี่ต้องนึกถึงคุณน้องอยู่แล้วค่ะ”
“อาหารมาแล้ว..ตามสบายนะครับคุณกิต มื้อนี้ผมขอเป็นเจ้ามือ” มงคลเอ่ยเชื้อเชิญ
“ขอบคุณครับ ไว้คราวหน้าผมขอเป็นเจ้ามือบ้าง” กิตติตอบรับไมตรี
“ยินดีเลยครับ”
อาหารกลางวันเต็มไปด้วยความชื่นมื่น ผู้ใหญ่คุยถูกคอ นัดแนะไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุด ฝนทิพย์นั่งกินไปเงียบๆ ส่วนดินแดนก็ยังเคร่งขรึม ไม่แม้แต่จะชวนคุย
จนกระทั่งเสียงทุ้มดังจากด้านหลัง เธอถึงกับใจเต้นระรัว เมื่อร่างกำยำนั่งลงข้างกาย น้ำหอมกลิ่นไวท์แอนด์ดาร์กฟูแชร์เล่นเอาขนลุกซู่
“บังเอิญจังเลยครับที่เจอลุงมงคลที่นี่”
ดีนไหว้ญาติผู้ใหญ่ ที่ดูแลมาตั้งแต่พ่อแม่เสียชีวิต ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนอายุสิบขวบ โดยทิ้งสมบัติไว้มากมาย เขามีชื่อเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง มีหุ้นบริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์ ถือว่ามีกินมีใช้ไปจนตายก็ไม่หมด
“อ้าว..ไปไงมาไงลูก” มงคลเอ่ยถามหลานชายแท้ๆ
“ผมพาเพื่อนมากินข้าว พอดีเห็นลุงนั่งอยู่เลยแวะมาทักทายครับ”
เพื่อนที่หมายถึงฮารุ สาวสวยที่กำลังติดพัน ดีที่จองโต๊ะไว้มุมสุด ฮารุจึงมองไม่เห็นส่วนนี้
“ป้าว่าดีนย้ายมานั่งข้างพี่แดนดีกว่า” พิไลซึ่งเป็นป้าสะใภ้เอ่ยขัด เมื่อดีนขยับเก้าอี้เข้าใกล้ฝนทิพย์จนหญิงสาวหน้าเจื่อนดูอึดอัด
“ผมสะดวกตรงนี้ครับ”
ชายหนุ่มก้มมองฝนทิพย์ที่งุดหน้าหนี ยิ้มน้อยๆ ก่อนวางมือบนหน้าขาของเธอ ลูบวนเบาๆ เพื่อยั่วยุอารมณ์ และก็ได้ผลเมื่อเธอหน้าแดงระเรื่อ โดยคนในโต๊ะไม่มีใครทันสังเกต
“คนนี้คือ..” จรัสแสงมองดีนสลับกับมองมงคล รู้สึกคุ้นหน้าเด็กหนุ่มผู้มาใหม่
“หลานชายผมเองครับ..ชื่อดีน”
“สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า ผมเป็นเพื่อนสนิทของคีย์เลยรู้จักกับฝน พวกเราเรียนมหาลัยเดียวกัน ผมเคยไปส่งฝนที่บ้านหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยได้แนะนำตัว วันนี้จึงถือโอกาสมาสวัสดีครับ”
กิตติและจรัสแสงหน้าเปลี่ยนสีทันที รับไหว้ด้วยท่าทีฝืนๆ กับดีนไม่มีอะไร เพราะระดับเดียวกัน แต่ชื่อคีรีทำให้ความรื่นรมย์เหือดหาย
“ที่แท้ก็เป็นเพื่อนนี่เอง” พิไลโล่งอก
“ครับ..เป็นเพื่อนกัน”
เพื่อน..ที่รู้แค่สองคนว่าหมายถึงอะไร
“ป้าพาพี่แดนมาแนะนำให้รู้จักกับครอบครัวคุณกิต บังเอิญมากที่หนูฝนเป็นเพื่อนกับดีน ยังไงก็ช่วยเชียร์พี่แดนหน่อยนะจ๊ะ” พิไลไม่รอช้าที่จะทำหน้าที่เป็นแม่สื่อ
“ครับคุณป้า..ผมจะช่วยเต็มที่” ดีนบีบขาฝนทิพย์สุดแรง เธอจึงเงยหน้าฝืนยิ้มให้ตามมารยาท
“จะกินอะไรก็สั่งได้เลยนะ”
ดินแดนพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขาเย็นชากับทุกคนตั้งแต่ไหนแต่ไร
“ไม่ดีกว่าครับ..ผมคงต้องขอตัวไปหาเพื่อนก่อน ไว้เจอกันโอกาสหน้านะครับ”
ดีนลุกขึ้น โค้งให้พ่อแม่ฝนทิพย์แล้วเดินออกไป ทิ้งสายตาคาดโทษไปยังหญิงสาว จากนั้นก็ส่งข้อความหาเธอทันที
DEAN: ออกมาเจอที่ลิฟต์ชั้นสาม
DEAN: ถ้าไม่มา..เราอาละวาดแน่
“มีอะไร..ว๊าย!”
ฝนทิพย์ถูกกระชากไปยังทางหนีไป แผ่นหลังแนบไปกับผนัง โดยมีสองแขนของดีนกักตัวเอาไว้ เธอแหงนมองชายหนุ่มที่ก้มลงมาหา หวาดหวั่นเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ นับวันเขาก็ยิ่งคุกคาม
“ตั้งใจจะทำอะไรวะฝน มาเจอพี่แดนเพื่ออะไร” ดีนพูดลอดไรฟัน เมื่อนึกถึงจุดประสงค์ของการนัดหมายทำนองนี้
“ฝนมากินข้าว”
“กินข้าว? พ่อแม่พามาโชว์ตัวให้ผู้ชายเลือกมากกว่ามั้ง เราไม่โง่นะเว้ยที่จะดูไม่ออก”
“ไม่ใช่เรื่องของดีนสักหน่อย”
“ว่าไงนะ!” ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กำหมัดระงับความโกรธที่พุ่งปรี๊ด
“ให้พูดอีกที”
“จะโกรธทำไม..ฝนนัดบอร์ดและก็เจอลูกชายเพื่อนๆ ของคุณแม่ประจำ..ดีนไม่รู้เหรอ”
เออ! กูไม่รู้
ห่าเอ๊ย!
“สอนให้ลูกสาวจับผู้ชายรวยๆ สินะ มิน่า..ถึงไล่ไอ้คีย์ออกจากบ้าน”
“อย่าลามปามคุณพ่อคุณแม่”
“มันคือความจริงต่างหาก”
“ที่อยากคุยมีแค่นี้ใช่ไหม ฝนจะได้ไปกินข้าวต่อ”
“ห้ามนัดบอร์ดกับใครอีก” ดีนรวบร่างบอบบางเข้ามาในวงแขน ตาคมกริบจ้องหญิงสาวด้วยแววจริงจัง
“ทำไมฝนต้องทำตาม พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“จะให้เป็นไหมล่ะ..เราพร้อมจัดให้เดี๋ยวนี้เลย”
“ดีนอย่าบ้า!” ฝนทิพย์ใช้มือข้างหนึ่งดันใบหน้าของเขาให้ห่าง ส่วนอีกข้างกำสมาร์ตโฟนไว้แน่น มองรอบตัวกลัวคนมาเห็น
“เราบ้ากว่าที่ฝนคิด!”
พรึ่บ! แผ่นหลังบอบบางถูกดันชิดผนังอีกครั้ง ดีนล็อกใบหน้าเล็กด้วยฝ่ามือข้างเดียว มอบจุมพิตแผดเผาดูดดื่ม ลิ้นสากตวัดแกว่งอยู่ในโพรงปากนุ่ม บดเคล้าหนักหน่วง จนฝนทิพย์หายใจไม่ทัน เธอดิ้นรนด้วยแรงน้อยนิดแต่สู้ไม่ได้ จึงยืนนิ่งปล่อยให้เขาดูดซับตามอำเภอใจ
“อย่านัดบอร์ดกับใครอีก ถ้าอยากนัดก็มานัดกับเรา” พูดชิดริมฝีปากบวมเจ่อ คลอเคลียไม่ห่าง ปลายลิ้นโลมเลียขอบปากบางช้าๆ
“ฝนต้องทำตามคำสั่งของคุณแม่” กลิ่นน้ำหอมของเขาอบอวล ฝนทิพย์หน้าเห่อร้อน เมื่อเห็นแววปรารถนาอยู่ในดวงตาคู่คม
“บอกอยู่นี่ไงว่าให้นัดกับเราคนเดียว ฝนก็บอกแม่สิจะไปยากอะไร”
“อย่าเอาแต่ใจ..ฝนไม่ได้อยากนัดด้วยสักหน่อย”
“อย่าทำให้โมโห..ฝนรู้ว่าเราบ้าแค่ไหน ตอนนี้เราอยากได้ฝนก็คือต้องได้!”
ดีนออกแรงบีบแก้มเนียนจนเธอหน้าเบ้ ใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำด้วยความกลัว เมื่อเห็นแววตาเจ้าเล่ห์แฝงรอยยิ้มร้ายกาจ
“ถ้าไม่ยอมก็ต้องสู้กันสักตั้ง ให้มันรู้ไปว่า ใครจะพังกว่ากัน!”