8
[AVA]
พื้นที่สบายใจ
(เป้าหมายของเธอขาคืออะไร)
"เค้าอยากมีตัวเองอยู่แบบนี้ อยู่คุยกันทุกวัน แล้วของตัวเองล่ะ?"
(อยากให้เธอขามีความสุขบ้าง...) ฉันยิ้มจนแก้มตุ่ย
"ตัวเองทำสำเร็จแล้วล่ะ"
(ถ้าอย่างนั้นฉันต้องหาเป้าหมายใหม่สินะ)
ฉันนั่งดึงหญ้าเล่นเขินเขาแทบบ้าเลย เสียงของเขา คำพูดเนิบๆของเขามีเสน่ห์มาก
"เป้าหมายใหม่ของตัวเองคืออะไร"
(อยู่กับเธอขาไง...)
><
อยากจะกรี๊ดดังๆแต่กลัวยามคิดว่าผีเข้า
หัวใจฉันพองโตเป็นลูกโป่งเลย ถึงแม้จะคิดว่าไม่มีวันเป็นไปได้ แต่มันก็จุดประกายอะไรบางอย่างในใจฉันได้มากทีเดียว ฉันอยากสวย อยากดีขึ้น และต้องมั่นใจขึ้นเผื่อสักวันหนึ่งจะกล้าไปเจอเขา
"ตัวเองรอหน่อยนะ เค้ายังไม่พร้อม"
(รอได้)
"สักสามสี่ปีรอได้ไหม?"
(อืม รอได้ แต่เจอกันแล้วต้องแต่งงานกันเลยนะ)
"..."
ตะ แต่งงาน...
มือที่ดึงหญ้าอยู่ชะงักไปทันที แก้มฉันร้อนผ่าวไปถึงหู เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนฉันสลัดความคิดเก่าๆออกไปจากหัวเลย เขาหลงเข้ามาไม่นานเดี๋ยวก็ออกไป... รวมถึงคำพูดปุยฝ้ายที่บอกว่าเขาอาจจะพูดไปงั้นๆให้ฉันเชื่อว่าเป็นรูปเขาจริงๆก็ได้
เรื่องนั้นฉันก็ถมดินกลบมิด
คิดว่าตอนนี้มันคือความเรียล เป็นรักแท้ ฉันชอบเขามาก ทั้งการพูด จังหวะเข้าหาที่ไม่หวือหวา ทุกๆอย่างฉันไม่ได้หลงแค่รูป ถ้าเขาเอารูปใครมาหลอกฉันก็พร้อมยอมรับ
ฉันบอกเขาว่าอายุสิบแปดนับไปสามสี่ปีฉันก็เรียนจบพอดี แต่ความจริงแล้วน่าจะเพิ่งปีหนึ่งปีสอง ถ้าอนาคตเจอกัน เรื่องนี้โป๊ะแล้วหนึ่ง
"อยากแต่งงานกับเค้าเหรอ เพิ่งคบกันเอง"
(ถ้าตอนนี้ก็ใช่)
ฉันจะบ้า ถอนหญ้าจนหญ้าเตียนหมดแล้ว
"เขินจัง"
(เป็นห่วงทุกวัน อยากให้มาอยู่ด้วยกัน ดีไหม?)
โอ๊ย ออสตินอ่าาา
"เค้าก็อยากอยู่กับตัวเองเหมือนกัน รอเค้าหน่อยนะ"
(ครับ)
จะเป็นจะตายกับผู้ชายคนนี้
ถลำลึก โงหัวไม่ขึ้น บานปลายชนิดที่ดึงตัวเองกลับมาไม่ได้ แน่นอนฉันไม่กล้าตัดสัมพันธ์กับเขาเลย ทุกๆอย่างไปตายเอาดาบหน้า เพราะเขาเป็นความสุขเดียวที่มีอยู่ตอนนี้
หลังวางสายจากคุณออสตินฉันก็ลุกขึ้นปัดกระโปรงเดินกลับบ้านทันที เพราะมองรอบๆอีกทีหน้าโรงเรียนก็แทบจะร้างและไม่มีคนอยู่แล้ว สมควร เพราะฉันคุยโทรศัพท์เกือบสองชั่วโมงแหนะ
แต่ขณะที่เดินดี๊ด๊าก็มีรถวีออสสีดำคันหนึ่งขับมาจอดข้างๆและเลื่อนกระจกลง
"เอวารินทร์ทำไมยังไม่กลับบ้าน"
ฉันยกมือไหว้ครูเจนทันที
"สวัสดีค่ะครูเจน พอดีหนูนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ค่ะ"
"คุยโทรศัพท์?"
"คุยกับแฟนน่ะค่ะ ครูเจนไปไหนมาเหรอคะ? ลืมของเหรอ"
"ครูไปซื้อของทำกับข้าวมา" ฉันหันมองเข้าไปในโรงเรียน เออว่ะ บ้านพักครูครูเจนอยู่หลังโรงเรียนและอยู่ในรั้วโรงเรียน ขับรถเข้าไปเวลานี้ไม่แปลก
"ไปกินข้าวเย็นบ้านครูไหม เดี๋ยวครูไปส่ง"
"คือหนู..."
"นะ ครูเหงามากเลย กินข้าวคนเดียวมาจะห้าปีแล้ว"
"ก็ได้ค่ะ"
สุดท้ายฉันก็ยอมเพราะเอ็นดูครูเจน ก้มหน้าเดินอ้อมรถไปเปิดประตูขึ้นอีกฝั่ง ครูเจนหันมามองฉันด้วยรอยยิ้มแล้วออกรถขับเข้าไปในโรงเรียน ผ่านตึกหนึ่ง ตึกสอง ตึกสาม ตึกศิลปะ ไปจนหลังโรงเรียนที่มีบ้านพักครูที่หน้าตาไม่ต่างจากบ้านพ่อฉันหกหลังเรียงกัน
แต่ละบ้านมีครูในโรงเรียนอาศัยอยู่กับครอบครัว ตอนลงจากรถครูเจนทักทายนิดหน่อย ฉันก็ยกมือไหว้ด้วย ฉันจึงไลน์ไปบอกแฟนไว้ว่ามากินข้าวที่นี่ ซึ่งเขาก็ไม่ว่าอะไร บอกให้ฉันดูแลตัวเองให้ดี
แต่ที่ทำให้หดหู่ใจและสงสารครูเจนมากขึ้นคือ... ในบ้านมีรูปลูกสาวครูเต็มไปหมด
ครูเจนวางของที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะและเริ่มล้าง ฉันจึงไปช่วยล้างและหั่นผักช่วย ก่อนที่ครูเจนจะเป็นฝ่ายชวนคุย
"เอวารินทร์ชื่อเล่นชื่อเอวาใช่ไหม ครูจะได้เรียกถูก"
"ค่ะครูเจน ชื่อเอวาค่ะ"
"ชื่อน่ารักจัง ใครตั้งให้?"
"แม่ตั้งให้ค่ะ ตอนตั้งท้องแม่เขียนไว้ในไดอารี่ว่าหนูชื่อเอวา" ครูเจนเผยยิ้มบางๆ มองไปที่รูปลูกสาวตัวเองที่อยู่ในกรอบรูปตรงผนัง
"นี่แหละความรักของแม่ แล้วเรื่องมาอยู่กับครูเอวาว่าไง ตัดสินใจได้รึยัง วันนี้ครูจะได้พาดูบ้านเลย"
ฉันมองรอบๆบ้านครูเจน บ้านครูเจนน่าอยู่กว่าบ้านพ่อฉันอีก ตกแต่งตามประสาผู้หญิงที่อยู่คนเดียว ของไม่เยอะอะไรมาก มีชั้นหนังสือนิยาย ผ้าคลุมหลังตู้เย็นและคลุมหลังตู้ล้วนเป็นผ้าที่ถักโครเชต์
"ได้ค่ะ หนูก็พูดกับปุยฝ้ายไว้แล้ว บ้านครูน่าอยู่ดีนะคะ" ครูเจนยิ้ม ก่อนจะเอาไก่ที่หั่นแล้วใส่ในหม้อไปตั้งบนเตาแก๊ส คั่วให้หอมกับพริกแกง
"เสาร์อาทิตย์นี้ก็ย้ายมาเลยแล้วกัน ถ้าอยากให้ครูช่วยย้ายของยังไงบอกได้เลยนะ"
"ขอบคุณค่ะครูเจน"
ไม่นานแกงไก่ใส่ฟักแบบอีสานกับส้มตำไก่ย่างที่ครูซื้อมาก็ถูกจัดง่ายๆอยู่บนโต๊ะกินข้าว ความประทับใจที่สองที่มาบ้านหลังนี้คือครูเจนทำกับข้าวได้นัวมาก ถึงเครื่องแตกต่างจากบ้านปุยฝ้ายที่กินกันรสจืด
"เอวามีแฟนด้วยเหรอ?"
"มีค่ะ แต่ไม่เคยเจอกัน"
"อ้าว แล้วไปเจอกันได้ไง"
"เจอในเน็ตค่ะ แต่เขายังไม่เห็นหน้าหนูเลยค่ะ หนูยังไม่กล้าส่งรูปให้ดู ยังไม่สวย" ครูเจนมองหน้าฉันทันที
"น่ารักออก ดูแลตัวเองอีกนิดก็สวยสะพรั่งแล้ว"
"จริงเหรอคะ" ฉันถามทวนด้วยความดีใจ
"จริงจ้ะ เอวามีเสน่ห์มากเลยนะ ตอนมีงานแห่เทียนพรรษารอบจังหวัด ครูนาฏศิลป์อยากได้เอวาแต่งชุดไทยไปนั่งบนรถเหมือนกัน แต่ครูโทรไปขออนุญาตผู้ปกครอง ตอนนั้นผู้ปกครองหนูไม่อนุญาต"
พ่อนะพ่อ
แต่ช่างหัวพ่อเถอะ ตอนนี้ฉันมีกำลังใจพัฒนาตัวเองแล้ว ตัดเรื่องเสียเงินเช่าห้องออกไปเพราะจะมาอยู่ที่นี่ ก็เหลือค่ากินค่าใช้แต่ละวัน และเงินซื้อโน้ตบุ๊ก แบ่งๆมาซื้อครีมทาบ้างดีกว่า
ฉันต้องสวยขึ้นให้ได้!
หลังกินข้าวเสร็จฉันก็ขอล้างจานให้ครูเจน ตอนแรกครูบอกว่าไม่เป็นไร แต่ฉันขอทำตื๊อจะทำให้ได้ ไว้ใจเถอะเรื่องแบบนี้ฉันถนัดมาก เพราะทำจนชินแล้ว งานบ้าน ซักผ้ารีดผ้าเอวายืนหนึ่ง
พอทำอะไรเสร็จครูเจนก็พาฉันขึ้นไปดูบ้านชั้นสอง
แบบแปลนไม่ต่างจากบ้านพักครูทั่วไป ห้องนอนใหญ่จะอยู่ขวามือ ห้องนอนเล็กขึ้นบันไดมาก็มองเห็นประตูเลย แต่ห้องนอนนั้นฉันมองผ่านช่องประตูด้านล่าง เห็นไฟเปิดอยู่ด้วย
"เอวานอนห้องลูกสาวครูได้ไหม"
ตอนแรกฉันคิดว่าครูเจนนอนห้องนอนเล็กเพราะไฟเปิดอยู่ แต่พอครูเจนเดินไปเปิดประตูและบอกว่าห้องลูกสาวเท้าฉันก็หนักขึ้นมาดื้อๆ
ถามว่ากลัวผีไหม กลัวดิ! ผีนะเว้ยไม่ใช่มังคุด
แต่จะหลอกกันตั้งแต่เริ่มก็ใจร้ายไป
"เอ่อ ครูเจนเปิดไฟไว้เหรอคะ?"
"ใช่ ครูเปิดไว้เอง" โล่งอก
"ครูเข้ามาห้องนี้ทุกวัน และเปิดทิ้งไว้ให้เหมือนว่าลูกยังอยู่"
คำตอบครูเจนทำให้ฉันอึ้ง นอกจากมันจะสื่อถึงความคิดถึงที่มากมายของคนเป็นแม่ เสียงครูก็แอบสั่นจนใจฉันห่อเหี่ยวตาม เราสองคนเดินเข้าไปในห้องนั้นที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ของทุกอย่างยังจัดไว้ราวกับเจ้าของห้องยังอยู่ดี
"ขะ ของทุกอย่างเอวาใช้ได้เลยนะ ไม่ต้องกลัวเรื่องผีหรือวิญญาณ ตั้งแต่แจนเสียไปไม่เคยกลับมาหาครูเลย มันคงถึงเวลาของเขาจริงๆ ครูเข้าห้องนี้ทุกวันและได้แต่คิดว่าแจนแค่ไปต่างประเทศ เปิดไฟทิ้งไว้ เปิดแอร์ทิ้งไว้เหมือนลูกยังอยู่"
ฉันมองรอบๆห้องน้ำตารื้น
"ที่ครูเจนให้หนูมาอยู่ห้องนี้ ครูอยากให้มีเสียงเหมือนตอนที่ลูกครูยังอยู่ใช่ไหมคะ?"
ครูเจนพยักหน้าช้าๆแล้วหันมามองฉัน น้ำตาใสๆคลอเอ่อท่วมตา และหยดเผาะลงมาอย่างสุดกลั้น
"อื้ม... ครูจะพูดตามตรง บอกเอวาตรงๆนะ"
"ค่ะ"
"ครูอยากให้เอวามาเป็นตัวแทนแจน มาเป็นลูกสาวครู ฮึกๆ ครูอยู่ไม่ได้จริงๆถ้าต้องอยู่คนเดียวแบบนี้ ชีวิตครูไร้จุดหมาย อยู่ไปวันๆ ความสุขเดียวของครูคือลูก ฝันที่วางไว้อยากให้ลูกเรียนมหาลัยดีๆ เก็บเงินให้เขาเรียนมันสูญเปล่าไปหมด ครูเหงามาก คิดถึงลูกมาก เราสองคนอยู่ด้วยกันตั้งแต่แจนยังจำความไม่ได้ ครูอยากมีลูกอีกครั้งและเอวาก็คล้ายแจนกว่าใคร จนบางครั้งครูมองผิดว่าเป็นลูกครู"
ฉันทนไม่ไหวรีบยกมือไหว้ครูเจนทันที
"หนูขออนุญาตกอดครูนะคะ"
ครูเจนยังไม่ได้เอ่ยอนุญาต ฉันก็สวมกอดครูหลวมๆแล้ว วงแขนนั้นกอดฉันกลับและร้องไห้ออกมา เสียงสะอื้นครูเจนบอกทุกอย่างว่าที่ผ่านมาครูอดทนและเสียใจมากแค่ไหน
ซึ่งตอนนี้ตาฉันมองเห็นกรอบรูปลูกสาวครูอยู่บนโต๊ะพอดี รูปนั้นน่าจะเป็นรูปก่อนเสีย เธอใส่ชุดนักเรียนถักเปียยิ้มหวาน จะว่าไปก็คล้ายฉันจริงๆ เวลาฉันยิ้มตาฉันก็เป็นสระอิแบบนี้ ความสงสารและเห็นใจมีมากกว่าจะคิดเล็กคิดน้อย ครูเจนเป็นอีกคนที่ดีกับฉันมาตลอด หวังดีกับฉันมากกว่าพ่อแท้ๆ
ฉันจึงผละออกมาแล้วมองหน้าครู
ครูต้องการลูก...
ฉันก็ต้องการแม่...
"หนูจะเป็นลูกสาวครูเจนเองค่ะ หนูสัญญาว่าจะเป็นลูกที่ดี เชื่อฟัง ตั้งใจเรียนไม่ทำให้ครูเจนผิดหวัง"
"โถ่เอวา" ครูเจนสวมกอดฉันอีกครั้ง
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ฉันได้รู้จักความรักของแม่... ความหวังดีที่ไร้ข้อแม้ที่ไม่เคยรับจากที่ไหนมาก่อน
ครูเจนไปคุยกับพ่อฉันส่วนตัวเพื่อขอฉันมาเลี้ยงดูเหมือนลูก
แต่รู้ไหมว่าพ่อแท้ๆที่ให้กำเนิดฉันพูดอะไรออกมา...
ด่าว่าฉันเป็นตัวกาลกิณี เลี้ยงฉันไม่มีวันเจริญหรอก ระวังของในบ้านหาย คิดใหม่ให้ดีๆ ครูเจนถือสายให้ฉันฟังฉันได้ยินทุกคำ ก็ดีแล้วล่ะที่หลุดออกมาได้ และกล้าพูดหยาบๆเลยว่าพ่อแบบนี้กูก็ไม่อยากมีเหมือนกัน
บาปมากินหัวได้เลยค่ะ
อัญเชิญ
ครูเจนจึงถูกเรียกว่าครูแม่เจน เป็นอีกคนที่เยียวยาหัวใจของฉันไม่ต่างจากเขาคนนั้น และครูแม่เจนก็ทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไปมาก ผิวที่ขาวขึ้น หน้าที่ค่อยๆเป็นผู้เป็นคนขึ้น ยกความดีความชอบให้เลย
ผู้หญิงด้วยกันรู้ว่าลูกสาววัยกำลังโตต้องมาสก์หน้า ขัดผิว และมีครีมใช้ ครูแม่เจนคนนี้แหละที่ช่วยหามาบำรุงให้ครบเซ็ต และคอยแนะนำทุกอย่าง