1 | AVA - ผู้หญิงไม่สวยแต่โชคดี

1530 คำ
1 [AVA] ผู้หญิงไม่สวยแต่โชคดี จริงๆชีวิตฉันมันโคตรเศร้า โคตรดราม่า ถ้าเป็นคนอื่นคงร้องไห้ขี้มูกโป่งไปพบจิตแพทย์ แต่เผอิญว่าฉันเป็นคนตลก จะเศร้าก็เศร้าไม่นาน เส้นตื้นหัวเราะจนได้ แต่ฉันก็ไม่ได้โลกสวยเข้าวัดถือศีล ฉันยังมีความโลภ ความหลง ฉะนั้นก็อย่าคาดหวังกับชีวิตของฉันมาก ถ้าฉันเป็นนางเอกนิยายสักเรื่อง คงเป็นนางเอกสีเทา ที่นักอ่านอาจจะด่าถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และไม่เหมาะที่จะเป็นนางเอก หนึ่ง... สอง... สาม... สี่... (นับทำไม?) แต่เริ่มเลยแล้วกัน... ที่พูดอยู่ตอนนี้คือ เอวา เอวาที่เกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง เพราะแม่ฉันจากไปตอนที่ฉันลืมตาดูโลก ชีวิตของฉันค่อนข้างลำบาก เติบโตมาในครอบครัวบ้าบอคอแตกอะไรก็ไม่รู้ พ่อเกลียดฉัน เกลียดที่ทำแม่ตาย ทั้งที่ตอนนั้นฉันแค่ร้องได้แค่อุแว้ๆ กินนมเองไม่ได้ด้วยซ้ำ ความประสาทแดกมีทุกหย่อมหญ้าโดยเฉพาะข้าราชการระดับสูงที่สอนคนอย่างพ่อฉัน นอกจากจะมีตรรกะแปลกๆ ยังโง่เชื่อเมียใหม่ที่เป็นแม่เลี้ยงฉันอยู่ตอนนี้ เฮ้อ~ ขอถอนหายใจหน่อย มันเหนื่อย ก่อนจะด่ายับเยินฉันเจอมาเยอะมาก คนเราความอดทนมีจำกัดจริงๆ บ้านหลังนั้นทำให้ฉันกลายเป็นเอวาขี้ขโมย เอวาเด็กเปรต ไม่มีสิ่งดีๆให้จดจำทั้งที่ฉันไม่เคยเป็นแบบนั้นเลย ฉันก็สู้ได้เท่าที่ไหว เพราะถ้าฉันไม่ปกป้องตัวเอง ก็ไม่มีใครปกป้องฉันแล้ว ทนเข้มแข็งอยู่นาน ดูเข้มแข็งกับทุกอย่าง แต่ใครจะไปรู้ว่าฉันเหงา ฉันโดดเดี่ยว ไร้ความอบอุ่น ไร้ที่พึ่ง กลายเป็นเด็กที่โซซัดโซเซไปทางตามทิศทางลม และประคับประคองไม่ให้ตัวเองล้มด้วยรากฐานที่ไม่มั่นคงเลยสักกะอย่าง แม่ไม่มี เพื่อนมีหนึ่งคนถ้วน มีแฟนก็ไม่มีวันได้สัมผัสเขา เพราะเรื่องของเรามัน 'หลอกลวง' ทั้งนั้น บอกแล้วไง... ชีวิตของฉันไม่ได้ขาวสะอาดไปซะทุกเรื่อง ฉันมันก็ไม่ต่างจากคนขี้โกหก คนหลอกลวง และตอแหลแถมหน้าตาก็ไม่ได้ดีอะไร ที่ทำทุกอย่าง ที่ฝืนไปวันๆ เพื่อรักษาผู้ชายคนหนึ่งที่เจอกันในโลกออนไลน์ไว้ เพราะเขาเป็นที่พึ่งทางใจเพียงหนึ่งเดียวของตัวเอง เวลาที่โดนทำร้ายจากคนรอบตัว ด้วยการใช้รูปคนอื่นหลอกให้เขารัก... และใช้เสียงน่ารักทำให้เขาอยากมีฉันอยู่ แต่เวลามันกลับล่วงเลยจนถอนตัวไม่ขึ้น ในวันที่เด็กบ้านนอกต้องเข้ากรุง และเจอกับสังคมไฮโซที่ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน ใช่ ฉันได้เจอเขาคนนั้น... คนที่ฉันหลอกให้รักเขาเป็นผู้ชายที่ฉันเกินไขว่คว้าจริงๆ ฉันเกาะเสาโผล่แค่ตาออกไปมองเขา ร่างสูงโปร่งเดินหน้าตรง ตามหลังด้วยบอดี้การ์ดหกเจ็ดคน ทุกคนใส่สูทเนี้ยบอย่างเป็นทางการยกเว้นเขาที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนเสื้อขึ้น ไม่มีใครกล้าสบตา ใบหน้านิ่งเรียบสายตาที่มองตรงคู่นั้นเย็นชายิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็งเดินได้ แต่ตอนที่เขาคุยกับฉัน... 'เธอขาทำอะไรอยู่ครับ' 'เธอขากินอะไรรึยัง' 'เธอขานอนได้แล้ว' โอ๊ยนี่มันเขาจริงๆเหรอ หรือใครเอารูปเขามาหลอกฉันอีกที ไม่อยากจะเชื่อเลยโว้ยยยย! ••• ก่อนจะเริ่ม 'หลอกลวง' "ได้เอาไปรึเปล่า" คำถามนี้เจอทุกสามวันหลังจากที่กลับจากโรงเรียน และคนที่ถามฉันและถือไม้เรียวรออยู่ตอนนี้คือคนที่ฉันเรียกว่า 'พ่อ' "เอาอะไรไปเหรอคะ?" "ต่างหูของเมียฉันหาย" "อ้าว แล้วเกี่ยวอะไรกับเอวาคะ" ไม้เรียวที่พ่อถือชี้หน้าฉันควับอีกนิดเดียวจะเฉี่ยวตา ฉันยืนตัวแข็งกอดกระเป๋าแน่นทั้งตกใจและกลัว เมื่อก่อนไม่เห็นจะมีพร็อพวันนี้มีไม้เรียวแล้วเหรอ "ถ้าไม่ใช่แกใครจะเอาไป ฉันส่งเสียให้เรียนโรงเรียนดีๆแทนที่จะดีขึ้นนับวันยิ่งเหมือนโจร แล้วนั่นอะไร? ของที่หายบ่อยๆเอาไปขายซื้อของพวกนี้ใช่ไหม" ฉันถอยหลังทันที มือรีบกำพวงกุญแจไว้ "ไม่ใช่นะคะพ่อ พวงกุญแจนี้ครูให้มา" "ครูที่ไหนจะแจกของแพงขนาดนั้น" "ก็แค่พวงกุญแจเงินไหมล่ะ" ฉันหันไปเถียงกับเมียแม่เลี้ยงตัวเองที่เป็นตัวต้นเรื่องทุกครั้ง และไอ้พวงกุญแจนั่นฉันก็ได้มันมาในคาบภาษาไทยเพราะเขียนเรียงความได้ที่หนึ่งของห้อง จนพ่อสรุป "ถ้าไม่ใช่ก็คืนต่างหูมา" "ก็บอกว่าไม่ได้เอาไปไงคะ" "ไม่ใช่เราแล้วจะเป็นใครล่ะ ไหนขอค้นหน่อย" แม่ภาแม่เลี้ยงของฉันเดินปรี่มากระชากกระเป๋า ก่อนจะรูดซิปเปิด และเทกระจาดลงพื้นจนหนังสือเรียนของฉันตกกระจาย ที่ฉันยอมให้ค้นไปง่ายๆเพราะฉันบริสุทธิ์ใจ ถึงจะได้เงินไปโรงเรียนแค่สี่สิบบาท กินข้าวได้มื้อเดียวกับน้ำเปล่าสองขวด ฉันก็ไม่เคยคิดจะขโมยของใครหรือต้องการอะไรที่มากกว่านั้น เพราะฉันรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นที่รักของพ่ออยู่แล้ว เลยทำตัวให้ดีเผื่อท่านจะแบ่งความรักมาให้บ้าง แต่ก็ไม่... ตั้งแต่เด็กจนโตฉันไม่เคยสัมผัสความรักหรือความอบอุ่นจากพ่อเลย เพียงเพราะวันเกิดฉันเป็นวันตายของแม่ หมาที่เลี้ยงไว้พ่อยังใส่ใจมันมากกว่าฉันอีก "นี่ไง" ฉันมองของในมือแม่ภาทันที ต่างหูไข่มุกแกว่งไปมา และคนถือก็เผยยิ้มเยาะ "มันมาอยู่ในกระเป๋าหนูได้ไง" "ยังจะโกหกอีก! เลี้ยงไม่เชื่อง!" "พ่อ!" และวันนี้ก็เป็นวันที่ความอดทนฉันขาดสะบั้นลง ความน้อยใจที่สะสม ความโกรธที่พ่อไม่เคยรับฟังและสายตาของแม่เลี้ยงที่จ้องฉันอย่างเย้ยหยันฉันเหนื่อยกับมันเต็มทีแล้ว "จะปรักปรำกันให้ได้ใช่ไหม? ได้ งั้นหนูขอไม่อยู่บ้านหลังนี้ต่อแล้วกัน" "เชิญ" พ่อผายมือไปที่ประตูทันที "ไปเก็บของและออกไปซะสิ สร้างแต่ปัญหาฉันก็ไม่อยากเลี้ยงแกแล้วเหมือนกัน" ฉันรีบหันหน้าไปที่บันได เร่งฝีเท้าเดินไปเก็บของในห้องที่ตัวเองนอนกับแม่บ้าน ไดอารี่ของแม่ หนังสือเรียน ชุดนักเรียน เสื้อผ้าลำลองห้าชุด มือถือง่อยๆที่ใช้เงินรางวัลจากการแข่งขันเขียนบทความไปซื้อมา ฉันยัดมันใส่กระเป๋าเป้ใบใหญ่แบกขึ้นหลัง ยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหน แต่ฉันไม่อยากอยู่แล้ว สุขภาพจิตของฉันสำคัญกว่าพ่อที่ไม่เห็นค่าฉันแบบนี้ 'ตึก ตึก ตึก' เสียงเท้าฉันวิ่งลงบนบันไดไม้บ้านพักครูเดินผ่านพ่อกับแม่เลี้ยงที่ยืนอยู่ไปใส่รองเท้า "อย่าให้ฉันเห็นว่าซมซานกลับมานะ" "อย่าให้หนูเห็นว่าพ่อโดนปอกลอกจนหมดตัวและถูกทิ้งเหมือนกัน" "เอวา!" พ่อง้างไม้เรียวเตรียมฟาดฉัน แต่คนหน้าเนื้อใจเสือข้างๆคว้าแขนไว้ก่อน "อย่าเลยค่ะพี่วุฒิ นี่เอวามีเงินไหม อยู่ข้างนอกต้องใช้เงินนะ แม่ให้จ้ะ" พูดจบก็เปิดกระเป๋าหยิบเงินแบงค์ยี่สิบให้ฉันหนึ่งใบ ฉันมองเงินนั้นและมองหน้าแม่เลี้ยงตัวเอง ริมฝีปากอาจจะประดับประดาด้วยรอยยิ้ม แต่สายตามีแต่ความเย้ยหยันและรังเกียจฉัน เมื่อก่อนมันลับหลังพ่อฉันพอทน แต่ตอนนี้อยู่ต่อหน้าพ่อก็ไม่มีใครปกป้องฉันได้ ฉันเห็นแบบนี้บ่อยมาก ทนมานานมาก คิดว่าอยู่เงียบๆมันจะดีขึ้น แต่วันนี้จะลาจากกันแล้วขอสักทีเถอะ "หุบปาก อีแก่บ้าน้ำลาย" "อ๊ายอี... อีเด็กบ้า!" ใช่ค่ะ ฉันมีเวลาสะใจแค่เสี้ยววินาทีไม้เรียวของพ่อก็ตวัดฟาดบนตัวไม่ยั้งมือ ถ้าเป็นหนังจังหวะที่ไม้เรียวตวัดตีคงเป็นภาพสโลว์โมชั่น ฉันกระโดดหลบไม้เรียว หน้าพ่อโกรธจัด หน้าแม่เลี้ยงที่ฉันเพิ่งทำสงครามมีแต่ความสะใจ มันเป็นช็อตต่อช็อตที่ฉันรับรู้ได้ ว่าถ้าฉันอยู่ที่นี่ต่อ หรือซมซานกลับมาอีกฉันเละเป็นโจ๊กแน่ และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้... ฉันออกมาเติบโตเองตั้งแต่อายุ 16 ปีจนได้เจอกับเขา และกล้าพูดได้เต็มปากว่า 'เขาเป็นผู้ชายที่ฉันรักที่สุดในชีวิต ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียเขาไป' _____________________________ 🖋️ คอมเมนท์ + กดเข้าชั้น = กำลังใจนะคะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม