บทที่ 6 เปลี่ยนตัวคู่หมั้น 2
777 คำ
สายตาของทุกคนที่นั่งอยู่มองเด็กสาวด้วยความชื่นชมแกมเอ็นดู ยกเว้นเพียงวิชาญที่ไม่ใคร่พึงใจเท่าไรนัก เขามองออกว่าเป็นเพียงละครที่ครอบครัวสรณ์สิริเขียนบทและแสดงร่วมกันเท่านั้น แต่เขาก็พูดอะไรมากไม่ได้ ใครใช้ให้ลูกชายของเขาหน้าโง่ไม่รู้จักมองคนล่ะ
ชนนท์โอบกอดแพรวาเอาไว้ด้วยความรักใคร่ เอ่ยปลอบโยนเสียงนุ่มทุ้มว่า
“เรื่องนี้ผมจะคุยกับพี่สาวของคุณเอง คุณแค่เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดของผมก็พอ”
สาวน้อยหน้าแดงระเรื่อ รีบหลบสายตาแวววาวของชายหนุ่มเป็นพัลวัน เขาแสดงความปรารถนาที่เร่าร้อนออกมาอย่างโจ่งแจ้ง เกรงว่าหากไม่ใช่เพราะมีผู้หลักผู้ใหญ่นั่งอยู่ตรงนี้ละก็ ชนนท์คงอุ้มหล่อนเดินตรงเข้าห้องนอนไปนานแล้ว
“พี่นนท์ละก็...”
ภาพเด็กสาวที่ยิ้มเอียงอาย มีชายหนุ่มคอยกระเซ้าเย้าแหย่ เป็นภาพที่น่ารักชวนให้สองบ้านยิ้มแย้มอย่างชื่นมื่น แทบอดใจรอให้คู่หนุ่มสาวจัดวิวาห์ในเร็ววันไม่ไหว
“อะแฮ่ม...” ประภากระแอมขัดจังหวะ เอ่ยสรุป “ในเมื่อตกลงกันได้แล้ว งั้นต้นเดือนหน้าก็ถือเอาฤกษ์งามยามดีเป็นวันเกิดของย่า ประกาศงานแต่งของพวกหลานเลยแล้วกัน”
“ได้ครับคุณย่า” ชนนท์ยิ้มหน้าบาน
“แล้วเราล่ะ” ประภาถามหลานสาว
“แพรแล้วแต่คุณย่ากับพี่นนท์ค่ะ”
แพรวาไม่ออกความเห็น แต่ในใจลิงโลดแทบจะลุกขึ้นกระโดดร้องกรี๊ดให้ลั่นบ้าน อยากจะสวมชุดเจ้าสาวเข้าพิธีแต่งงานกับชนนท์เสียตอนนี้
ในที่สุดฉันก็ชนะแก...นังหยา!
หล่อนลอบยิ้มอย่างสะใจ ไม่มีช่วงเวลาไหนจะหอมหวานราวกับกำลังแหวกว่ายอยู่ในทะเลน้ำผึ้งเหมือนตอนนี้แล้ว หล่อนสามารถฉกชนนท์มาจากอกของนังพี่สาวหน้าโง่ได้ อยากรู้จริงๆ ว่าถ้ามันรู้ข่าวนี้เข้า จะเจ็บจนกระอักเลือดตายเลยรึเปล่า
แพรวาดีใจจนเนื้อเต้น แทบอยากจะเจอหน้าอัยยาเสียเดี๋ยวนี้!
อัยยาคิดไม่ถึงเลยว่าการทำงานกับคนดังเช่นทีปต์ อิศราวุฒิ จะทำให้เหน็ดเหนื่อยถึงขั้นหมดแรง เธอเตรียมใจตั้งแต่ตอบรับคนที่เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วอย่างเขาแล้ว คาดว่าจะต้องทุ่มสุดตัวแทบไม่มีเวลาหายใจยิ่งกว่าตอนที่อยู่เจนวายเสียอีก
แต่นี่มันอะไรกัน?
เกือบสองสัปดาห์กับการทำงานที่อิศราคอร์ป เธอไม่ต้องอดหลับอดนอนคร่ำเคร่งกับกองเอกสาร ไม่ต้องเดินจนขาขวิดเพื่อเฟ้นหาศิลปิน ไม่ต้องเปิดมือถือเพื่อคอยแก้ปัญหาอยู่ตลอด นอกจากรอสายเขาที่มักจะโทร. มากล่าว ‘อรุณสวัสดิ์’ ทุกเช้าและ ‘ราตรีสวัสดิ์’ ทุกคืน
มีพนักงานที่ไหนทำงานสบายเท่าเธออีกไหม?
วันๆ ไม่ต้องทำอะไร ชีวิตการทำงานเหมือนเดินอยู่บนรันเวย์ ไม่มีความกดดัน แค่แต่งตัวสวยๆ ควงแขนเดินสายออกงานกับทีปต์ ส่วนงานที่ต้องดำเนินการ เธอเสนอหรือต้องการอะไร เขาจะสั่งให้ลูกน้องจัดการแทนเธอทุกอย่าง ซ้ำชื่อเสียงของเจ้านายหนุ่มก็เลื่องลือไปทั่ว พอรู้ว่าเขาขยายแวดวงงานมาที่วงการบันเทิง ดาราน้อยใหญ่ก็ตบเท้าเข้ามาหา อยากจะร่วมงานกับบริษัทอิศราคอร์ป เพราะอยากจะโกอินเตอร์กันทั้งนั้น แค่พริบตาเดียวก็มีดาราเซ็นสัญญาเข้าสังกัดนับสิบคนแล้ว
“เสร็จแล้วค่ะคุณหยา”
สไตล์ลิสต์และเมกอัปอาร์ติสต์มองเธอด้วยความชื่นชม แต่อัยยาที่นั่งหลังขดหลังแข็งให้พวกเขาแต่งองค์ทรงเครื่องอยู่สามชั่วโมงเต็มกลับถอนใจ รู้สึกเมื่อยขบไปหมดที่ต้องนั่งนิ่งๆ เสียเวลาแต่งหน้าอย่างพิถีพิถัน เพราะคำสั่งของเจ้านายใหญ่ที่กำชับว่า
คืนนี้เธอต้องเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในงาน!
วันนี้ทีปต์ต้องไปร่วมงานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ที่บริษัทเป็นนายทุน ผู้กำกับเป็นเพื่อนสนิทเขา เขาจึงทุ่มกับงานครั้งนี้มากเพราะอยากผลักดันเพื่อน เลยสั่งให้จัดงานกาลาดินเนอร์ขึ้น เชิญดาราและเซเลบริตี้ทั่วฟ้าเมืองไทยมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง แถมยังใจป้ำนำรายได้ทั้งหมดในงานมอบให้กับการกุศล สร้างทั้งชื่อและความชื่นชม
“วันนี้คุณหยาสวยมากเลยค่ะ เป็นนางเอกได้สบายๆ เลย”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ” เธอยิ้มรับอย่างเก้อเขินนิดๆ
“ผมว่าพวกเขาพูดไม่ผิดนะ”
- ผู้เขียน
