รั่วอินนางตื่นขึ้นมาในเวลาสายของวัน เมื่อไม่เห็นรุ่ยเผิงอยู่ภายในห้อง ความกลัวของนางก็เพิ่มขึ้น เสี่ยวซีที่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวภายในห้อง จึงร้องเรียกอยู่หน้าห้อง เพื่อบอกนางก่อนว่าเขาจะเข้ามา
เมื่อได้รับอนุญาติเสี่ยวซีก็พาสาวใช้ที่เขาไปหามาได้ ให้เข้าไปดูแลรั่วอิน เมื่อเห็นใบหน้างามยังเหลือความหวาดกลัวอยู่ก็อดมองนางอย่างเห็นใจไม่ได้
สาวใช้ที่เสี่ยวซีพามา เคยเห็นสาวงามอย่างรั่วอินเสียที่ไหน นางจ้องมองอย่างตกตะลึง มาได้สติก็ตอนที่เสี่ยวซีเอ่ยเรียกนาง บอกให้ไปเตรียมน้ำให้รั่วอินนางล้างหน้า
สาวใช้ก็จัดการงานได้อย่างดีทั้งยังเตรียมอาหารให้รั่วอินนางได้กิน แต่นางก็กินไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สาวใช้ที่มาใหม่นางไม่กล้าถามว่าเหตุใดริมฝีปากสวยได้รูปจึงได้มีบาดแผลมากมายเพียงนี้
แต่นางไปแจ้งกับเสี่ยวซีให้หายามาให้นาง เพื่อนางจะนำไปทาให้รั่วอิน เสี่ยวซีไม่อาจทิ้งรั่วอินแล้วออกห่างจากนางได้ จึงได้ให้เสี่ยวเอ้อของโรงเตี๊ยมไปจัดการเรื่องยาให้เขาแทน
ทางด้านรุ่ยเผิง เมื่อเจ้าหน้าที่ศาลกว่างหนานรู้ว่ารองตุลาการศาลต้าฉีลงมือสอบสวนคดีนี้ด้วยตนเอง
จะมีผู้ใดกล้าเพิกเฉยดั่งเช่นที่ผ่านมาได้อีก ความผิดของตู้เสียนทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมา แม้แต่บิดาที่เป็นถึงท่านเจ้าเมืองก็ไม่มีอำนาจช่วยเหลือเขาในเรื่องนี้ได้
ขุนนางขั้นเจ็ดเช่นท่านเจ้าเมืองหรือจะสู้ขุนนางขั้นสี่ที่เป็นของรุ่ยเผิงได้ เขาจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับโทษของบุตรชายในครั้งนี้
ตู้เสียนถูกโบยถึงห้าสิบไม้ ก่อนจะถูกคุมตัวไว้ในห้องขังเพื่อรับโทษที่เหลือต่อ เพราะโทษของเขามิได้จบลงเพียงแค่นี้แน่ เมื่อมีผู้เสียชีวิตมากถึงหกคน
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต่างได้รับโทษที่ร่วมกันปกปิดความผิด ทั้งยังทำลายหลักฐานที่จะสาวมาถึงตัวของตู้เสียนทิ้งอีกด้วย
รุ่ยเผิงส่งมาเร็วเข้าเมืองหลวง เพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฮ่องเต้รับรู้ แล้วตัดสินโทษลงมาด้วยพระองค์เอง
เมื่อเสร็จจากเรื่องที่ศาลกว่างหนาน เขาก็รีบกลับมาที่โรงเตี๊ยมทันที ก็ทันได้นั่งร่วมโต๊ะกินมื้อเย็นกับรั่วอินพอดี
ยิ่งเห็นนางเอาแต่เขี่ยอาหารในชามไปมารุ่ยเผิงก็ปวดใจจนมิอาจจะเอ่ยออกมาได้ เขารวบตัวนางให้ขึ้นมานั่งบนตัก ทั้งยังป้อนอาหารให้อย่างเอาใจ
“กินให้มากเสียหน่อย”
“ข้าอิ่มแล้วเจ้าค่ะ” นางก้มหน้าตอบเสียงเบา
รุ่ยเผิงจึงตักอาหารเข้าปาก ก่อนจะจับคางรั่วอินให้หันมาทางเขา แล้วก้มลงประกบริมฝีปากของนางเอาไว้ อาหารในปากของเขาถูกส่งเขาไปในปากของนาง
ก่อนจะปิดปากของนางไว้แน่น เพื่อให้นางยอมกลืนอาหารลงไป
“แล้วหากข้าป้อนเช่นนี้เล่า เจ้าจะยอมกินเพิ่มหรือไม่” รุ่ยเผิงกระซิบถามเสียงแหบพร่า
นางยังคงเป็นยากำหนัดชั้นดีสำหรับเขา ไม่ว่าจะกลิ่นกาย หรือความหอมหวานในปากของนาง ล้วนกระตุ้นให้เขาแทบคลั่งทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง
รั่วอินจำต้องยอมกินข้าวในชามเพิ่มต่ออีกสองสามคำ นางเขินอายกับวิธีที่เขาบังคับใช้กับนางจนใบหน้าแดงเรื่ออย่างน่าเอ็นดู
ตลอดเวลาที่รอจดหมายตอบกลับจากเมืองหลวง รุ่ยเผิงไม่เคยออกห่างจากรั่วอินนางเลย จนในตอนนี้ความหวาดกลัวที่นางมีเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้างามก็เริ่มมีรอยยิ้มมากขึ้น เมื่อถูกรุ่ยเผิงเอ่ยคำหวานเอาอกเอาใจ
สามวันต่อมาเมื่อคำตัดสินถูกส่งมาจากที่เมืองหลวง รุ่ยเผิงก็เปิดศาลตัดสินคดี ชาวเมืองกว่างหนานมากมายมารอรับฟัง ครอบครัวของหญิงสาวที่เสียชีวิตตะโกนด่าทออย่างโกรธแค้น
ตู้เสียนถูกตัดสินให้ประหารชีวิตทันที เพื่อชดเชยกับหญิงสาวที่เสียชีวิตไป
ท่านเจ้าเมืองตู้ถูกสั่งปลดจากตำแหน่ง ทั้งยังถูกเนรเทศไปไกลกว่าห้าพันลี้ทั้งตระกูล เพราะเขามิอาจสั่งสอนบุตรชาย ทั้งไม่ห้ามปรามจนตู้เสียนกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกินกว่าจะให้อภัย
เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องทั้งหมดถูกถอดออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งถูกส่งไปใช้แรงงานสามปีชาวเมืองต่างก้มลงคำนับไปทางเมืองหลวงเมื่อได้รับความยุติธรรมเช่นนี้ ผิดกับตระกูลตู้และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับโทษ
ต่างล้มไปกองกับพื้น บางคนถึงขั้นหมดสติไป เสียงร้องคร่ำครวญดังไม่ทั่วเมืองกว่างหนาน มีทั้งผู้ที่ยินดีกับผู้ที่โชคร้าย
รุ่ยเผิงอยู่จัดการเรื่องทั้งหมดต่ออีกหลายวัน เพราะเขายังต้องรอคำสั่งแต่งตั้งท่านเจ้าเมืองคนใหม่ ทั้งเจ้าหน้าที่ในศาลที่ต้องปรับตำแหน่งด้วย
ผ่านมานับเดือนอาการของรั่วอินนางก็ดีขึ้น ยิ่งมีสาวใช้คนใหม่ที่ช่างหาเรื่องเล่าสนุกมาพูดให้นางได้มีเสียงหัวเราะ จิตใจของนางก็นับว่าเกือบจะกลับมาปกติแล้ว
“พรุ่งนี้ข้าพาเจ้าไปเที่ยวเล่นดีหรือไม่” รุ่ยเผิงฝั่งจมูกลงกับซอกคอของรั่วอินพร้อมทั้งเอ่ยถามอย่างเอาใจ
“จริงหรือเจ้าคะ” นับตั้งแต่ที่เกิดเรื่องรั่วอินนางก็ไม่ได้ออกจากห้องในโรงเตี๊ยมเลย เมื่อได้ยินเช่นนี้อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
“ข้าเคยหลอกเจ้าหรือ” รั่วอินมองค้อนเขา
นางอยากจะพูดว่าท่านหลอกข้าอยู่ประจำ เมื่อคืนท่านก็เพิ่งหลอกข้าว่าเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่กว่ารุ่ยเผิงจะยอมให้รั่วอินนางนอนพัก ตัวเขาก็เสร็จสมไปถึงสามหน ส่วนนางนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะจำไม่ได้เสียแล้ว
รุ่ยเผิงกดจูบที่ขมับของรั่วอิน เมื่อเห็นสายตาที่มองค้อนเขาอย่างตำหนิ เขาหัวเราะในลำคออย่างเอ็นดู
รุ่งเช้ารุ่ยเผิงก็ทำตามที่เขาพูดกับนางไว้ เขาพารั่วอินไปจวนพักตากอากาศนอกเมืองที่เสี่ยวซีไปหามาให้
รั่วอินนางอดจะตกตะลึงกับภาพความงามตรงหน้าไม่ได้ จวนพักที่อยู่บนเขา ท่ามกลางต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด กลิ่นหอมของดอกไม้ทำให้นางสูดดมอยู่นานอย่างพอใจ
“มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ด้านหลัง คืนนี้ข้าจะพาเจ้าไปแช่” รุ่ยเผิงกระซิบเสียงเบาบอกรั่วอิน แววตาที่มองนางมีลึกซึ้ง ทำให้รั่วอินต้องก้มหน้าลงอย่างเขินอาย