สมรสบังคับรัก 8 : คนที่เป็นที่หนึ่ง

1580 คำ
(จาง เฟยหลิง) “ตรงนั้นมีอะไร” ประโยคคำถามที่ทำเอาเลขากับผู้จัดการโรงแรมหันมองหน้ากันอย่างพยายามหาคำตอบ แต่ไม่รู้จะหาคำตอบได้ยังไงในเมื่อพวกเขาก็เดินมาพร้อมกันและเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าในเวลาเดียวกัน ความวุ่นวายภายในโรงแรมมักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพียงแค่มันไม่เคยเกิดขึ้นต่อหน้าเขาแบบนี้ก็เพียงเท่านั้นเอง นักข่าวต่างรุมล้อมใครบางคนและทุกคนล้วนยกกล้องจับภาพเธออย่างพร้อมเพรียง ไหนจะเสียงที่ดังเกินกว่าจะเชื่อได้ว่าเป็นการพูดคุยกันอย่างปกตินั่นอีก “เดี๋ยวให้คนไปจัดการตรวจสอบให้ครับคุณหลิง แล้ววันนี้ส่วนพื้นที่ Meeting rooms มีงานเปิดตัวสินค้าและมีคุณหลี่ ชีหมิงกับคุณเว่ย เจียอีมาร่วมงาน ผมคิดว่าไม่น่ามีอะไรร้ายแรงเพียงแค่ได้รับความสนใจจากนักข่าวมากกว่าปกติก็เพียงเท่านั้นครับ” ผู้จัดการโรงแรมอธิบายยาวเหยียดแต่เพียงเท่านั้นไม่ได้พอให้เขาเลิกสนใจได้หรอก “ส่งคนไปดูให้แน่ชัดอย่าสรุปเอาตามความคิดตัวเอง แล้วมารายงานผม” สิ้นเสียงร่างสูงก็ก้าวเดินไปจากจุดนั้นเพื่อขึ้นประชุม ปล่อยให้ผู้จัดการไปหาคำตอบตามคำสั่ง ระหว่างยืนรออยู่หน้าลิฟต์ ภายในหัวกลับมีแต่ภาพดวงตาคู่หนึ่งที่จ้องหน้าเขาจนมันฝังอยู่ในหัวไปชั่วขณะ ไม่น่าร้ายแรงอย่างนั้นเหรอ…ทำไมผู้หญิงคนนั้นผมเปียกสภาพก็เหมือนลูกหมาตกน้ำแบบนั้น และที่สำคัญเธอจ้องหน้าเขาไม่ละสายตา ทั้งที่มั่นใจได้ว่าเราไม่รู้จักกัน (หลี่ ชีหมิง) วันต่อมา ณ เพนต์เฮาส์ส่วนตัว เวลา 08.15 น. ‘อดีตหงส์แห่งวงการหลี่ ชีหมิงกับเจ้าของฉายาหงส์ในปีนี้เว่ย เจียอีเกิดการกระทบกระทั่งหลังจบงาน ณ โรงแรม ISC ท่ามกลางแขกผู้เข้าพักของโรงแรมช่วงเย็นเมื่อวานนี้ จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เว่ย เจียอีเข้าไปในห้องแต่งตัวของหลี่ ชีหมิงพร้อมแก้วน้ำ’ ติ้ด! ‘เรื่องที่ทำให้เกิดปัญหาอาจจะมาจากฉายาหงส์ และมันก็น่าคิดนะคะทำไมเว่ย เจียอีเป็นฝ่ายกระทำกับหลี่ ชีหมิงทั้งที่เธอขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งแล้ว หรือว่านี่คือนิสัยจริง ๆ ของธะ!’ ติ้ด! ‘เว่ย เจียอีเป็นฝ่ายเข้าไปหาเรื่องหลี่ ชีหมิงก่อน ช่างเป็นการกระทำในฐานะรุ่นน้องในวงการที่ไม่น่ารักเอาซะเลยนะครับ ตอนนี้กระแสในโลกโซเชียลกำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างดุเดือด พูดถึงนิสัยจริง ๆ ของเว่ย เจียอีและสิ่งที่หลี่ ชีหมิงต้องพบเจอ เพราะยังไงประธานค่ายที่พวกเธอสังกัดนั้น ก็มีข่าวว่ากำลังคบหาดูใจอยู่กับนักแสดงสาว ที่เป็นฝ่ายเข้าหาเรื่องในครั้งนี้ด้วย’ ติ้ด! ‘กลุ่มแฟนคลับบางส่วนของเว่ย เจียอีจำนวนมากรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเธอกล่าวขอโทษคุณหลี่ ชีหมิงและประกาศตัวไม่สนับสนุนเจียอีอีกต่อไป’ “สะใจจัง...โคตรสะใจ” เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองพร้อมริมฝีปากบางเคลือบลิปสติกสีสวยเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า ดวงตากลมโตจ้องมองภาพข่าวที่กำลังรายงานอยู่ในเวลานี้ ยกรีโมตกดเลื่อนทีละช่องก็พบแต่ข่าวของตัวเองกับเว่ย เจียอี นักข่าวประโคมใส่ทุกช่องทางกับนิสัยของเว่ย เจียอีจริง ๆ จนเกิดคำถามมากมายว่าฉายาที่เธอเข้ามาแทนที่นั้น มันเหมาะสมจริงหรือไม่ ทุกคนตั้งคำถามใส่ต้นสังกัดและใส่ตัวศิลปินที่เวลานี้ยังคงปิดปากเงียบ ส่วนฉันได้รับความเห็นใจคำปลอบโยนกับสิ่งที่ต้องเจอ แม้ว่าจะมีเสียงส่วนเล็กคิดว่าฉันยั่วยุเจียอี แล้วโดนยัยนั่นเอาน้ำสาดใส่ ทั้งที่ว่าความจริงแล้วฉันเอาน้ำราดตัวเองก็ตาม... “จะเป็นลมอยู่แล้ว จะบ้าตาย...” แต่อารมณ์ของฉันช่างแตกต่างกับพี่สาวสิ้นเชิง แม้จะรู้ความจริงทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบและจนสิ่งที่ฉันอยากให้มันเกิดขึ้น เจ้ปิงก็ยังไม่หยุดทำตัวเหมือนคนจะสิ้นใจ “จะบ้าตายอะไร ไม่เห็นเหรอว่าหมิงพลิกเกมได้เยี่ยมมากแค่ไหน” และวันนี้ฉันจะเริ่มเดินเกมแบบไม่สนใครหน้าไหนอีกแล้ว “แล้วไม่เข้าใจเลย เวลาเจ้ไม่อยู่จะเกิดเรื่องตลอด มันอะไรกันเนี่ย!” เจ้ปิงยกมือกุมหัวตัวเองทิ้งตัวนอนราบไปกับโซฟา ในขณะที่ฉันยังคงให้ความสนใจกับข่าวด้วยความรู้สึกสนุก “จะโวยวายทำไม เดี๋ยวบ่ายนี้หมิงต้องไปแถลงข่าวใช่มั้ย” “อือ ซานฉีมันบอกให้เรารับผิดชอบเรื่องทั้งหมด ในฐานะที่เป็นคนทำให้ต้นสังกัดเสียหาย เพราะหมิงเดินออกมาให้นักข่าวจับภาพ ทุกคนเลยรู้เรื่องที่เกิดขึ้น” ไอ้เวรนี่มันทำอะไรได้บ้าง แต่ก็ดี...ขอบคุณที่เอาโอกาสมายัดใส่มือฉัน “รำคาญไอ้นี่จริง ๆ ...เออนี่เจ้ เมื่อวานหมิงเห็นคุณจาง เฟยหลิงด้วยพึ่งรู้ว่านั่นเป็นโรงแรมในเครือตระกูลจาง เห็นตัวจริงแล้วหล่อมาก! หล่อกว่าพระเอกที่เคยร่วมงานมาอีก ถ้าเป็นนักแสดงนะ...แต่เขาจะมาทำอะไรที่ลำบากชีวิตทำไม เกิดมาก็มีเงินใช้ไปสิบชาติยังไม่หมด” แขนเรียวยกขึ้นกอดอกและคิดทบทวนกับคำพูดของตัวเอง ภาพใบหน้าของเขายังติดตาอยู่ไม่เลือนหายไป แม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเห็นตัวเองเหมือนที่เห็นเขาไหม แต่เดี๋ยวเราได้เห็นกันแบบเต็ม ๆ ตาแน่... “หยุดคิดเรื่องคนตระกูลจาง แกไม่มีทางเข้าถึงเขาได้ยัยหมิง! สนใจเรื่องการแถลงข่าวบ่ายนี้ก่อน!” เจ้ปิงส่งเสียงพูดเฮือกสุดท้ายออกมา พูดจบก็ทิ้งตัวนอนหงายกลับไปสภาพเดิม เหมือนคนแก่ใกล้หมดลมหายใจยังไงก็ไม่รู้ “เดี๋ยวจัดการเอง เจ้ปิงเอาผ้ามาคลุมหมิงภาพนี้ไม่สวยเลย ดูสิมันบังหน้าสวย ๆ ของหมิง” แทนที่ฉันจะเครียดกับการแถลงข่าวบ่ายนี้ แต่กลับมาโวยวายใส่พี่สาวกับภาพของตัวเองบนจอ แล้วเอาผ้าอะไรมาคลุมให้ฉันเนี่ย! มันเหมือนผ้าปูโต๊ะเลย! “ความดันจะขึ้น...ถึงเวลาแถลงข่าวตอบดี ๆ นะตอบจริงบ้างโกหกบ้าง เจ่เจ้มั่นใจว่าน้องสาวคนสวยของเจ้สามารถจัดการทุกอย่างให้กลับมาสงบได้อย่างเดิม ตอบดี ๆ นะหมิง เอาแบบทีเดียวจอดจบทุกปัญหาเลย” เจ้ปิงยังโหยหวนอยู่ข้างตัวไม่ยอมสงบ กำชับฉันด้วยน้ำเสียงที่อ้อนวอนสุดความสามารถ ต้องอ้อนวอนเพราะกลัวว่าน้องสาวจะแหกคำสั่งสร้างเรื่อง ก่อปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีก “โอเค...นั่นมันผ้าคลุมรถเข็นนี่เจ้!” นิ้วเรียวยกชึ้ไปยังหน้าจอโทรทัศน์ เมื่อภาพที่นักข่าวฉายขึ้นด้านหลังเห็นเข้ากับจังหวะที่ผ้าถูกดึงออกด้วยฝีมือของพี่สาวตัวเองพอดี ฉันว่าแล้วไงว่าทำไมตอนที่เจ้ปิงเอาผ้ามาคลุมเพื่อพาออกจากวงล้อมนักข่าวมันถึงเปียก ๆ ชื้น ๆ ที่แท้ผ้าคลุมรถเข็นอุปกรณ์ทำความสะอาดของโรงแรมนี่เอง! ณ งานแถลงข่าว เวลา 15.00 น. “ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องผู้เป็นเจ้าของฉายาหงส์แห่งวงการปีนี้หรือเปล่าคะ คุณหลี่ ชีหมิงเกิดความไม่พอใจที่คุณเว่ย เจียอีที่เด็กกว่าและพึ่งเข้าวงการมาแย่งที่ยื่นช่วงชิงอันดับไป” นักข่าวตั้งคำถามใส่ฉันไม่หยุดตั้งแต่การแถลงข่าวเริ่มได้เพียง 15 นาที จุดสนใจก็ยังคงเป็นเรื่องปัญหาไม่ลงรอยของเรา แต่ก็มีนักข่าวหลายสำนักที่ตั้งคำถามที่อยากจะให้ฉันเป็นฝ่ายผิด ทั้งที่ภาพมันก็ฟ้องอยู่ว่าฉันนั้นหัวเปียกเพราะถูกราดน้ำและในห้องนั้นพยานก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เจียอีเข้าไปในพื้นที่ส่วนของฉันเอง “เรื่องนั้นไม่เกี่ยวค่ะ ของแค่นี้ชีหมิงไม่ได้ยึดติดเลย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นก็ด้วยนิสัยมารยาทและการวางตัวของอีกฝ่าย บางคนอาจจะแสดงออกต่อหน้าผู้อื่นอีกแบบ แต่กับหมิงเขาแค่แสดงออกในแบบที่เป็นตัวเองก็เท่านั้น” ประโยคที่พูดออกไปนั้นทำเอาได้ยินเสียงซุบซิบจากนักข่าวนับร้อยชีวิตตรงหน้า “ขออนุญาตค่ะ...แบบนี้คุณหลี่ ชีหมิงจะพูดว่าอันดับที่หนึ่งของวงการไม่ได้จำเป็นอีกต่อไปเหรอคะ ไม่ต้องการเป็นที่หนึ่งอีกต่อไป” และในที่สุดก็มีนักข่าวยิงคำถามเข้ามือฉันสักที... “คนที่เป็นที่หนึ่งไม่ได้จำเป็นจะต้องครอบครองอันดับในวงการอย่างเดียวนิคะ บางทีการเป็นที่หนึ่งคือหมายถึงการครอบครองทายาทตระกูลอันดับหนึ่งของจีน” ประโยคที่พูดออกไปนั้นทำเอานักข่าวทุกคนอ้าปากค้าง ตกใจไปตาม ๆ กันไม่เว้นแม้แต่เจ้ปิงที่ยืนฟังอยู่ด้วยและยังรวมไปถึงเหล่าผู้บริหารโดยเฉพาะไอ้ซานฉี ทายาทตระกูลอันดับ 1 ของจีนก็มีแค่...สกุลจางเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม