สมรสบังคับรัก 7 : หงส์ที่ร่วงหล่นจากฟ้า

1278 คำ
เว่ย เจียอีหรือที่บุคคลภายนอกกำลังจดจำเธอในเวลานี้ก็คือผู้ได้รับฉายา ‘หงส์’ แห่งวงการบันเทิงปีนี้แทนฉัน ดารานักแสดงที่เป็นทายาทตระกูลมหาเศรษฐีไม่มีใครไม่รู้จักเธอหรอก ใบหน้าสวยที่มาพร้อมชาติตระกูล แม้ว่าความจริงหลายคนจะรู้ดีกว่าเธอดังขึ้นมาอย่างรวดเร็วได้เพราะใคร “...” ประโยคตอบกลับของฉันทำให้เจียอีเงียบไป เราสบตากันเพียงแวบหนึ่งและเป็นฉันที่ละสายตาจากใบหน้าสวย ๆ นั่นมองแก้วน้ำในมือ “มีอะไรกับฉันหรือเปล่า” เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันและงานก็จบแล้ว ยัยนี่จะมาหาฉันพร้อมแก้วน้ำทำไม? “เจียอีเอาน้ำมาให้” “ฉันร้องขอเหรอ?” เป็นคำถามที่ตรงไปและข้องใจอย่างมาก ฉันร้องขอน้ำไปตั้งแต่เมื่อไรนะ? “ไม่ แต่เจียอีมีมารยาทแล้วก็มีความเป็นห่วงเจี่ยเจีย ในฐานะที่เราสองคนเป็นพี่น้องร่วมค่ายกันก็นับถือเป็นพี่สาวในครอบครัวเสมอ และในฐานะที่เคยเป็นหงส์แห่งวงการมาตั้งนานแล้ววันนี้หลุดจากตำแหน่ง ทุกคนก็แห่มาดูแลแต่เจียอีคนเดียวจนลืมเจี่ยเจียไปหมดเลย...เจียอีก็เลยเอาน้ำมาให้ค่ะ” พูดจบแก้วน้ำในมือเธอถูกวางลงบนโต๊ะ ประโยคที่พูดออกมานั้นไม่ได้รับรู้ว่าออกมาจากใจจริงเลย เต็มไปด้วยความทับถมที่ทุเรศ “....” ฉันนั่งเงียบจ้องมองเจียอีโดยไม่แสดงออกทางสีหน้าใด ๆ รอฟังเธอจะพูดอะไรออกมาอีก “เป็นห่วงความรู้สึกเจ้หมิงค่ะ วันนี้ไม่มีนักข่าวมาสนใจเลยคงรู้สึกแปลกไปใช่มั้ยคะ” “....” นักข่าวไม่สนใจเหรอ? ฉันหลบนักข่าวจนฉันไม่มีชีวิตที่เป็นของตัวขนาดนี้เรียกว่านักข่าวไม่สนใจเหรอเนี่ย “คนที่อยู่ที่หนึ่งมาตั้งนานต้องลงมาเป็นที่สอง เสียอันดับให้กับเด็กที่มาทีหลังและเข้าวงการด้วยเวลาเพียงหนึ่งปี เห็นใจจังเลยค่ะ” “....” ยัยนี่พูดจบหรือยังยะ ฉันอยากรู้ว่าแก้วน้ำตรงหน้าถือมาทำไมมากกว่าคำพูดไร้สาระของเธอซะอีก “จะไม่พูดอะไรเลยเหรอหรือมันจุกจนพูดอะไรไม่ออกกับความจริง” “ฉันรอให้เธอพูดให้จบ แล้วในชีวิตก็พึ่งเจอพวกทำตัวบทละครนอกจอก็วันนี้เลยรู้สึกประหลาดแปลก ๆ ...ว่าแต่พูดจบยัง” ตลอดที่เจียอีเริ่มพูดฉันยังไม่ละสายตาจากเธอ สีหน้า แววตาไม่แสดงออกว่ากลัวแต่อย่างใดหรืออาจจะเพราะในหัวเอาแต่สนใจแก้วน้ำก็ไม่รู้แฮะ เอาแก้วน้ำมาทำไม? แล้วมาพูดอะไรเหมือนยั่วโมโห? ออ! นึกออกแล้ว ต้องการทำให้ฉันโมโหแล้วเอาน้ำสาดเธอ ด้านนอกก็ยังมีนักข่าวอยู่เยอะจำได้ที่เจ้ปิงบอกไว้ คนในโรงแรมและเหล่าทีมงานมากมาย มันเป็นแผนที่ทำให้ฉันโดนโจมตีนี่เอง “ทนฟังไม่ได้เหรอ” “ไม่ได้ทนฟังไม่ได้ ฉันไม่ได้ใส่ใจคำพูดเธอด้วยซ้ำ” “หึ! มันอยู่ในอก...เชื่อ” ยัยนี่มันตั้งใจมายั่วอารมณ์ฉันมาก ใครเขาจะยอมตกเป็นตัวร้ายให้เธอมิทราบ... พรึ่บ! ร่างบางลุกขึ้นจากที่นั่งหมุนตัวหันกลับไปเผชิญกับเจียอี อีกฝ่ายไม่มีท่าทีกลัวแต่อย่างใดแล้วฉันยังเห็นเธอลอบมองไปทางแก้วน้ำอีกด้วย มันอยู่ในระยะมือขวาของฉันพอดีเลยแหละ แต่เรามีวิธีพลิกสถานการณ์ให้ตัวเองได้ดีกว่าเอามันสาดใส่เธอ “ฉันรู้นิสัยเธอนะว่าเป็นพวกที่พูดอะไรไม่ได้กลั่นออกจากสมองเลยไม่เคยถือสา เกิดมาก็ไม่มีมารยาทเดินเข้าหาคนอื่นแล้วมาพูดทับถมใส่ ฉันเข้าใจว่าเธอเป็นเด็กและมีนิสัยที่ทรามยังไง เพราะถ้าเป็นฉันจะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด” “...!!” เจียอีอ้าปากค้างกับประโยคที่ได้ยิน มือทั้งสองข้างกำแน่นแต่ไม่ตอบโต้อะไรคงเพราะรอให้ฉันใช้น้ำที่เธอตั้งใจเอามาให้สาดใส่ จากนั้นก็จะวิ่งออกจากห้องนี้ไปเพื่อทำให้ทุกคนเข้าใจว่าฉันแกล้งหล่อน... “ฉันเข้าใจเธอนะ เกิดมาในครอบครัวที่ตามใจเลยสันดานต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้...เข้าใจ” คำสุดท้ายฉันตั้งใจกระแทกเสียงใส่เจียอี รอดูปฏิกิริยาอีกฝ่ายที่ยังคงยืนอยู่กับที่กำมือแน่นจนตัวสั่น ยัยเด็กนิสัยเสียนี่ถ้าไม่ได้มีแผนอะไรที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นแต่แรก คงยกมือขึ้นตบหน้าฉันไปแล้ว...แต่บังเอิญว่าเธอมี “ทำตัวไม่เป็นรุ่นพี่ในวงการเลยนะ เธอแค้นที่ฉันเข้ามาเอาทุกอย่างไป เลยเกลียดฉันใช่มั้ย” “อย่าสำคัญตัวฉันไม่เกลียดเธอหรอก จะไปเกลียดคนที่ไม่ได้เข้ามาด้วยฝีมือทำไม ไม่มีอะไรดีเลยนอกจากตระกูลหนุนหลัง มีอะไรที่เหนือกว่าฉันที่มาด้วยฝีมือเหรอ ให้เป็นเธอฉันยังไม่เอาเลยเจียอี กลัวสันดานทรามแบบนี้!” พูดจบมือเล็กยื่นไปคว้าเอาแก้วน้ำนั้นมาเปิดฝาออก ความเย็นในมือรับรู้ได้ว่าต่อให้สาดใส่คนตรงหน้าก็ไม่เกิดผลเสียอะไรกับร่างกาย เพราะฉะนั้น... ซ่า! ของเหลวในแก้วนั้นถูกเทราดลงบนหัวของฉันด้วยฝีมือตัวเอง จากนั้นก็ทิ้งแก้วลงกับพื้นท่ามกลางสายตาตะลึงของเจียอี เมื่อเธอได้สติกลับมาฉันก็วิ่งผ่านตรงไปทางประตูทำให้อีกฝ่ายพยายามจะคว้าจับแขนเอาไว้แต่ก็ไม่ทัน เรามันเป็นพวกสื่อให้ความสนใจ ถ้าอย่างนั้นก็เชิญมาสนใจฉันกับแม่นี่ได้เลยให้เต็มที่! “ชีหมิง!” เสียงของเจียอีตะโกนตามหลังในขณะที่เธอก็วิ่งตามมา ประตูห้องแต่งตัวเปิดออกท่ามกลางสายตาของทีมงานทุกคนต่างจ้องมายังเราด้วยความตกใจ ทันทีที่ฉันวิ่งออกมาพ้นทางก็เจอเข้ากับแขกในโรงแรมที่มาร่วมงาน สื่อจากหลายสำนักข่าวมากมายต่างหันมามองเป็นตาเดียวเพราะเสียงโหวกเหวกของเจียอีตะโกนเรียกชื่อฉันไม่หยุด เราทั้งคู่หยุดชะงักต่อหน้าทุกคนและสภาพของฉันในตอนนี้ก็พอจะทำให้เข้าใจได้ไม่ยากนักว่าเรามีปัญหากัน แชะ! แชะ! แชะ! เสียงชัดเตอร์กดรัวเก็บภาพ ในขณะที่เจียอีดูตกใจและทำอะไรไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนฉันที่คุ้นชินกับสื่อจำนวนมากขนาดนี้ปล่อยให้นักข่าวบันทึกภาพตัวเองออกไปทั้งหัวยังเปียกชุ่ม หยดน้ำไหลลงไปตามขมับ ข้างแก้มจนถึงปลายคาง และในจังหวะนั้นเองที่สายตาดันเห็นเข้ากับผู้ชายสูงโดดเด่น เขาหยุดยืนอยู่ด้านหลังฝูงชนของนักข่าว หันมองมาสบตากับฉัน ใบหน้าหล่อเหลาราวกับภาพวาดเหมือนไม่มีอยู่จริง พาให้ต้องมนต์สะกด นัยน์ตาคมอยู่ภายใต้แว่นสายตาคู่นั้นทำให้ฉันละสายตาจากเขาไปไม่ได้ ความคุ้นเคยในใบหน้าที่ไม่เคยได้เห็นมันชัด ๆ สักครั้งในวันนี้ฉันเจอเขาซึ่งหน้าแล้ว... จาง เฟยหลิง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม