“อลิชา” อลิชาหันไปเลิกคิ้วมอง แต่เสียงห้าวทุ้มดังขึ้นก่อนที่มุกระวีจะพูด “ฉันฟังออก” ชารีฟมองเขม้น และแปลให้พี่ชายฟังคำต่อคำ โดยไม่ทันสังเกตรอยยิ้มที่มุมปากของฟาริส “ผมฟังออก” ชีคฟาริสเริ่มทำธุรกิจกับนักธุรกิจชาวไทยตั้งแต่ประเทศมีดิสเปิดประเทศจึงทำให้พูด อ่าน เขียน ภาษาไทยออก เรื่องนี้แม้แต่ชีคชารีฟเองก็เพิ่งรู้วันนี้ คราวนี้สองสาวจึงหน้าซีดเผือด แต่ก็ยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ พวกเธอไม่ได้เอ่ยถึงใครสักหน่อย ใครร้อนตัวอยากรับก็รับไป ชารีฟจึงปรับทัศนคติกับเมียจ๋าด้วยการลากไปหลังร้านสักครู่ พอทั้งสองโผล่หน้ากลับออกมา ชีคฟาริสก็ทักน้องชาย “ทำไมปากนายแดงจัง” “กระหม่อมเพิ่งจูบเมียพ่ะย่ะค่ะ” โอเค ชัดเจน...ชีคฟาริสพยักหน้าและทำท่าจะเอาบ้าง แต่มุกระวีถลึงตาใส่เสียก่อน เขาจึงหัวเราะร้ายๆ ในลำคอแล้วผายมือไปยังเพชรพลอยที่วางโชว์ในตู้นิรภัย “อยากได้อะไรก็เลือกเลย ผมซื้อให้” “ไม่เอา ไม่ต้องมาทำ