บทที่ 9 จุดเริ่มต้นกำลังจะเกิด
เวลา 18.00 น.
ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาในห้องของคูเปอร์เป็นเวลาหลายชั่วโมง เนื่องจากไม่มีอะไรทำ ก่อนหน้านี้หลังจากที่เขาพาฉันไปซื้อของใช้จำเป็นเสร็จ คูเปอร์กลับบอกฉันว่ามีธุระจะออกไปข้างนอก พอฉันถามว่าไปที่ไหน เขากลับไม่บอกเสียอย่างนั้น
ตอนนี้ได้แต่ทำหน้ามุ่ย ร้อนรนในใจแปลก ๆ ได้แต่สงสัยระหว่างฉันกับเขามีความลับต่อกันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“นี่ผ่านไป 5 ชั่วโมงแล้ว ทำไมยังไม่มาอีกนะ” ฉันพึมพำเบา ๆ พร้อมกับกลิ้งไปมาบนเตียงอย่างเบื่อหน่าย
จู่ ๆ เรื่องยัยหัวทองก็ได้แวบเข้ามาในหัว ในตอนที่ออกไปซื้อของกับคูเปอร์เมื่อตอนบ่าย ระหว่างที่ฉันไปเข้าห้องน้ำแล้วเดินออกมา ฉันเห็นยัยหัวทองนั่นกำลังควงแขนกับผู้ชายอื่นอยู่น่ะสิ แถมยังจูบกันไม่อายฟ้าอายดินด้วย เลยอยากจะไปถามพี่โยฮันหน่อยว่าสรุปแล้วผู้หญิงคนนั้นพี่โยฮันจริงจังไหม ถ้าหากว่าพี่เขากำลังตามจีบ หรือจริงจังขึ้นมาแสดงว่าถูกสวมเขาแล้วแหละ
ให้ตายสิ พี่ชายสุดหล่อของฉัน ถูกผู้หญิงสวมเขา แบบนี้…มันหมดคราบเพลย์บอยหมด
เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันหยิบคีย์การ์ดห้องของพี่โยฮันออกจากกระเป๋า จากนั้นเดินตรงดิ่งไปยังห้องของพี่ชายทันที
ฉันใช้เวลาเดินมาไม่นานก็ถึง เพราะพี่โยฮันกับคูเปอร์อยู่ชั้น40 ชั้นเดียวกัน ทว่าอยู่คนละฝั่ง ถ้าถามว่ากลัวถูกจับได้ไหมว่ามาอยู่กับผู้ชาย บอกเลยว่าไม่กลัวค่ะ เพราะฉันคิดข้ออ้างไว้หมดแล้ว
แอดด…
ฉันแง้มประตูห้องออกโผล่หัวเข้าไปในห้องทีละนิด กลัวจะเป็นแบบเมื่อวานอีก เผลอ ๆ พี่โยฮันคิดอะไรประหลาด มาทำกิจกรรมอยู่กลางห้อง แบบนี้ตาฉันไม่เป็นกุ้งยิงเหรอ
เมื่อก้าขาเหยียบเข้ามาภายในห้อง เห็นว่าไม่มีอะไรอย่างว่า ฉันก็เบาใจลง เผลอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“พี่โยฮัน…!! อยู่ห้องไหม คนสวยมาหา”
“….” เงียบกริบเหมือนคุยกับลม ภายในห้องว่างเปล่าไม่มีเสียงใด ๆ มีแต่ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศเพียงเท่านั้น คงจะอาบน้ำนั่นแหละมั้ง ไว้ฉันไปนั่งรอที่โซฟาดีกว่า
ในขณะที่ฉันกำลังจะหย่อนก้นนั่งบนโซฟา เสียงอันคุ้นเคยก็ดังมาจากทางด้านหลัง
“ยัยตัวเล็ก มาได้ยังไง”
“อ๋อ พอดีว่าผ่านทางมา เลยอยากจะมาเยี่ยมพี่เฉย ๆ น่ะ” ฉันพูดพร้อมกับหันหน้าไปหาพี่โยฮัน พี่เขาพึ่งออกมาจากห้องน้ำหมาด ๆ บริเวณช่วงล่างพันผ้าขนหนูสีขาวเอาไว้ ส่วนท่อนบนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อเป็นลอน ร่างกายของพี่โยฮันดูแข็งแรงดีนี่นา….หึ ๆ เผลอสำรวจจนลืมตัวซะได้
“กินข้าวมาหรือยัง” พี่โยฮันพูดพลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กอีกผืนเช็ดผมที่กำลังเปียก
“ยัง ว่าแต่ว่า พี่เองหุ่นดีใช่เล่นนะเนี่ย มิน่าล่ะสาว ๆ ถึงติดตรึม” ฉันพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินเข้าไปใช้นิ้วชี้จิ้ม ๆ กล้ามเนื้อหน้าท้องที่เป็นก้อน ๆ นั่น แต่ก็ถูกพี่โยฮันรวบมันเอาไว้แล้วพูดว่า
“อืม มาที่นี่คงไม่ได้มาแค่จิ้มหน้าท้องของพี่เล่นใช่ไหมตัวเล็ก มีเรื่องอะไรอยากจะถามล่ะ” พี่โยฮันพูดอย่างรู้ทัน แล้วเดินไปนั่งบนโซฟา โดยที่ยังไม่ได้แต่งตัว…ไม่อายฟ้าดินบ้างหรือไง กำลังเปลือยอยู่หน้าน้องสาวของตัวเองนะ
“ว่าไง” พี่โยฮันถามย้ำ
ฉันถอนหายใจเบา ๆ พร้อมกับทำหน้ามุ่ยลง พี่ชายของฉันแต่ละคนรู้ทันตลอด
“จะมาถามน่ะ เรื่องเมื่อวาน พี่นอนกับผู้หญิงหัวทองคนนั้น”
“อืม ฮารุเหรอ?”
“พี่จริงจังกับเธอไหม แบบว่ามีอะไรมากกว่าคู่นอนไหม” ฉันถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นไม่กล้าบอกไปตรง ๆ แอบเป็นห่วงความรู้สึกของพี่ตัวเอง
“พี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงประเภทนั้นหรอก” พี่โยฮันพูดอย่างไม่แยแส
“ผู้หญิงประเภทนั้นเหรอ?”
“อ่า เธอขายบริการน่ะ พี่ก็แค่ซื้อบริการจากเธอแค่นั้น แต่อย่าพูดไปที่ไหนกับใครล่ะ เรื่องแบบนี้เธอคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าทำงานแบบนี้”
“วางใจเถอะ เบลล์ไม่ปากสว่าง พูดไปเรื่อยหรอก มันไม่ใช่เรื่องของเบลล์สักหน่อย ที่มาถามคือพอดีวันนี้เห็นเธอไปควงผู้ชายคนอื่นอยู่ แถมยังจูบกับคนอื่นอย่างไม่อายฟ้าดิน เบลล์แค่กลัวว่าพี่โยฮันที่แสนฉลาดจะถูกสวมเขาเอาน่ะสิ”
“ฮ่า ๆ ไม่คิดว่าเจ้าหญิงน้อยของบ้าน ผู้ที่ไม่สนใจใครนอกจาก
คูเปอร์ จะมาเป็นห่วงพี่ เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับพี่หรอกครับตัวเล็ก”
พี่โยฮันพูดพลางหัวเราะ พร้อมกับยกมือขึ้นมาวางบนศีรษะของฉัน จากนั้นยีหัวเบา ๆ
“อะไร! เบลล์ไม่ได้ห่วงซะหน่อย จะมาสมน้ำหน้าต่างหาก”
ฉันพูดพลางเบือนหน้าไปอีกทาง
“ยังโกรธพี่อยู่ไหม ที่พี่ทำตัวแบบนี้”
“ไม่อ่ะ มันชีวิตของพี่ จะทำอะไรมันเรื่องของพี่ แต่พี่ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง เบลล์ไม่ยุ่ง”
ฉันพูดเหมือนคนที่มีความคิดไหมล่ะ แต่ความจริงไม่ได้คิดได้นะคะ เป็นเพราะคูเปอร์ค่ะ เขาบอกให้ฉันทำตัวดี ๆ เข้าไว้ ฉันก็จะทำ หากไม่ใช่
คูเปอร์ฉันคงอาละวาดไปแล้ว
“อืม น้องสาวของพี่โตแล้วหนิ” พี่โยฮันพูดยิ้ม ๆ
“ใช่ เบลล์โตแล้ว…เอ๊ะ…แล้วใบหน้าของพี่ไปโดนอะไรมา ทำไมมันเป็นรอยเหมือนกับโดนตบอย่างนั้น”
ฉันถามพี่โยฮันออกไป เพราะเห็นว่าใบหน้าอันหล่อเหลาเนียนกริบ ไร้รูขุมขน มันมีรอยแดงเป็นรูปฝ่ามือของผู้หญิงอยู่
“นี่เหรอ ก็โดนตบมาน่ะสิ”
“ใครมันกล้าทำแบบนั้นกับพี่กัน มันไม่รู้เหรอว่าพี่คือใคร”
ฉันพูดอย่างเดือดดาล พี่ของฉันมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่แตะต้องได้
“ถือว่ายอมให้ตบเพื่อชดเชยแล้วกัน”
“ชดเชย?”
“พอดีพี่บอกตัดสัมพันธ์กับเด็กในสต็อกไปทั้งหมดแล้วน่ะ”
“แสดงว่าพี่มีหลายคน”
“ครับ” พี่เขาตอบตามความจริง ทำเหมือนกับว่าการมีผู้หญิงหลายคนคือเรื่องปกติ
“โดนตบมันก็สมควรแล้วแหละ”
“โห ตัวเล็ก นึกว่าจะเข้าข้างพี่”
“เบลล์ไม่สนับสนุนการนอกใจ หรือการคบใครหลายคนค่ะ”
“โอเค ๆ พี่ก็เลิกแล้วไง…”
“ดีแล้ว เบลล์ไม่อยากให้พี่ ๆ เดินตามรอยพ่อ” ฉันพูดพร้อมกับก้มหน้าต่ำลง ก็รู้สึกคิดถึงพ่อผู้ให้กำเนิดอยู่นะ ในตอนที่พ่อของฉันจากไป ไม่ทันได้ปรับความเข้าใจกันเลยด้วยซ้ำ เพราะทิฐิของฉันเอง
“หือ นี่กำลังเศร้าอยู่เหรอตัวเล็ก” เสียงพี่โยฮันถามอย่างประหลาดใจ คงไม่คิดว่าคนที่เอาแต่ใจแบบฉัน จะเศร้าเป็นมั้ง
“เปล่านะ…แค่กำลังคิดว่าจะกินอะไรดีเฉย ๆ”
“งั้นออกไปข้างนอกไหม พี่กำลังจะไปหาอะไรกินอยู่พอดี”
เมื่อฉันได้ยินพี่โยฮันชวนออกไปข้างนอก ฉันถึงกับหูผึ่ง ตั้งแต่เด็กถูกเลี้ยงมาเหมือนไข่ในหิน เลยไม่ค่อยได้ออกไปไหน ดังนั้นผู้คนเลยไม่รู้ว่าฉันคือลูกสาวคนเล็กของตระกูลไพศาล อีกอย่างดูเหมือนว่าวันนี้คูเปอร์ไม่มีท่าทีว่าจะกลับเร็ว ด้วยเหตุนี้ ฉันออกไปกับพี่โยฮันมันย่อมดีกว่าอยู่ห้องคนเดียวอยู่แล้ว
“ไปสิ เบลล์ไป แต่ก่อนอื่นพี่ควรไปแต่งตัวก่อนนะ จะแก้ผ้าต่อหน้าน้องสาวอีกนานแค่ไหน” ฉันพูดพลางทำแก้มป่อง -_-
“โทษที พอดีว่าพี่ชินไปแล้วน่ะ หึ ๆ” พี่โยฮันพูดแล้วยิ้มแห้ง ๆ จากนั้นเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อแต่งตัว
เวลา 19.00 น.
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ใกล้กับมหาวิทยาลัย
ฉันกับพี่โยฮัน นั่งทานข้าวกันอยู่บริเวณชั้น 5 ร้านชิมมอนเซ เป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นในห้างหรู วันนี้เป็นวันธรรมดา แต่เนื่องจากมันเริ่มจะค่ำแล้ว อีกทั้งเป็นเวลาทานอาหารของใครหลายคน คนภายในร้านจึงแน่นขนัด และทางด้านหน้าร้านต่างมีคนต่อคิวอยู่หลายคิว
ส่วนฉันมาถึงก็ได้นั่งทานข้าวเลย เนื่องจากก่อนหน้านี้
พี่โยฮันได้โทรมาจองร้านเอาไว้ เพราะกลัวต้องรอคิวนาน เมื่อมาถึงร้านอาหาร พนักงานเหมือนรู้งานและรู้ใจ ยกอาหารที่พี่ชายของฉันได้สั่งไว้ล่วงหน้ามาเสิร์ฟ มันทำให้ฉันไม่ต้องรอนาน และไม่ต้องหงุดหงิดเวลาอาหารมาเสิร์ฟช้าอีกด้วย
“อร่อยไหมตัวเล็ก” พี่โยฮันฉีกยิ้มกว้าง เมื่อเห็นว่าฉันกำลังทานข้าวอย่างมีความสุข
“อร่อยที่สุดในโลกเลย เบลล์รักพี่โยฮันที่สุด” ฉันพูดประจบประแจง
“หึ ๆ รักพี่แค่ตอนกิน กับตอนอยากได้อะไรบางอย่างใช่ไหมล่ะ” พี่ชายพูดอย่างรู้ทัน
“บ้าใครบอก ไม่มี๊!!”
“เสียงสูงเชียวนะตัวเล็ก อาการมันฟ้องหมดแล้วครับ” พี่โยฮันพูดพลางส่ายหัวเบา ๆ จากนั้นก็ใช้ช้อนกลางตักอาหารในจานมาให้ฉัน พร้อมกับพูดว่า
“ลองกินนี่ดูสิ เห็นที่ร้านบอกเป็นเมนูใหม่ พี่เลยลองสั่งมาดู พี่ชิมดูแล้วรสชาติไม่เผ็ดเบลล์ทานได้ ลองดูนะ”
“แปลก ๆ นะวันนี้ ดูใส่ใจเบลล์ผิดปกติ กินยาลืมเขย่าขวดหรือไง” ฉันเลิกคิ้วถาม ก้มหน้าต่ำลงเล็กน้อย ใช้ช้อนตักอาหารที่พี่โยฮันตักให้เมื่อครู่ กำลังจะตักเข้าปาก
เพียงชั่วพริบตา เป็นช่วงเวลาที่ฉันเงยหน้าขึ้นมานั้น กลับมีผู้หญิงบ้าที่ไหนไม่รู้ หยิบแก้วน้ำที่วางอยู่ทางขวามือ สาดใส่หน้าของพี่โยฮันเต็ม ๆ
“เพราะยัยหน้าจืดนี่ใช่ไหม พี่ถึงบอกเลิกกับลูน่าอ่ะ!!” ยัยบ้านี่พูดอย่างเดือดดาล เสียงดังเอะอะ จนคนทั้งร้านหันมามอง
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันว่าใครหน้าจืดนะ…บนโต๊ะมีแค่ฉันเป็นผู้หญิง นั่นก็หมายความว่า ยัยขายาวนี่มันว่าฉันหน้าจืดอย่างนั้นเหรอ?
กรอด!! -_- กำลังกัดฟันกรอด ๆ แต่ยังไม่ลงมือ ได้แต่ข่มอารมณ์เอาไว้ เพราะคูเปอร์บอกให้ฉันทำตัวดี ๆ ทว่าเบลนิต้ากำหมัดแน่นแล้ว
นะคะ
“ไม่ใช่ ใจเย็นก่อนครับ มันจะไปกันใหญ่แล้ว” พี่โยฮันพูดอย่างใจเย็นพลางใช้มือหยิบกระดาษทิชชู่มาซับหน้า หลังจากที่โดนสาดไป
เต็ม ๆ ใบหน้าหล่อ ๆนั่น
“ใจเย็นไม่ได้ค่ะ ยัยหน้าจืดนี่ ไม่เห็นสวยตรงไหนเลย” นางพูด แล้วส่งสายตาเหยียดหยามมาทางฉัน
บอกได้เลยว่า หางคิ้วเริ่มกระตุก หนอย…ยัยบ้านี่ เรื่องที่สาดน้ำใส่หน้าพี่โยฮัน ฉันยอมได้เพราะเห็นว่ามันสมควรแล้ว แต่มาว่าฉันไม่สวย มันยอมไม่ได้ค่ะ
ไม่รอช้า ร่างกายของฉัน ลุกขึ้นพรวด หยิบน้ำด้านขวามือ สาดไปที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางของเธอเต็ม ๆ
ทว่าดูเหมือนเธอจะไม่ยอมจบ กำลังจะส่งเสียงกรีดร้องออกมา
หากเสียงดังมากกว่านี้ไม่ดีแน่ ดังนั้นฉันจึงหยิบกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้วหนึ่งกำมือ ยัดเข้าปากของยัยนี่ จากนั้นกระชากแขนเธอออกมาคุยข้างนอก
ทางด้านพี่โยฮันก็ก้มหัวขอโทษขอโพยใหญ่ พูดคุยอยู่กับทางร้าน แล้วควักเงินออกมาจำนวนหนึ่ง จ่ายให้กับทางร้านรวมไปถึงค่าชดเชยที่ก่อความวุ่นวายด้วย