ตอน ไม่อยากนอกใจ แต่พลาดไปแล้ว
ดิฉันชื่อ มะนาว อายุยี่สิบหกปี ใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโตเป็นประกาย ผิวขาวเนียนละเอียด และรูปร่างเพรียวบางสมส่วน ฉันกำลังเตรียมตัวสอบเนติบัณฑิตอย่างมุ่งมั่น เพื่อสานฝันการเป็นทนายความ ส่วนพี่ต้นแฟนของฉัน เขาเป็นผู้จัดการหนุ่มไฟแรงของบริษัทไอทีแห่งหนึ่ง เราคบหาดูใจกันมานาน และกำลังวางแผนจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ช่วงนี้ฉันทุ่มเทเวลาให้กับการติวหนังสือหนักมาก ฉันมักจะนัดติวกับ พี่วิน รุ่นพี่สมัยเรียนคณะนิติศาสตร์ พี่วินเป็นคนเก่ง มีความรู้แน่น และใจดี เรามักจะนัดเจอกันที่ร้านกาแฟใกล้ๆ มหาวิทยาลัย นั่งติวหนังสือกันอย่างเคร่งเครียด
วันนี้ร้านกาแฟเจ้าประจำปิด พี่วิน ชวนฉันขึ้นมาติวหนังสือที่ห้องพักของเขาในคอนโดหรูย่านสุขุมวิท
"วันนี้ติวที่ห้องพี่ดีกว่านะ เงียบกว่าร้านกาแฟเยอะ" พี่วินบอก "แม่พี่ก็อยู่บ้านด้วย"
ฉันลังเลเล็กน้อย การไปห้องพักผู้ชายมันไม่ใช่เรื่องที่ฉันเคยทำ แต่ด้วยความไว้ใจในพี่วิน และคิดว่ามีคุณแม่ของเขาอยู่ด้วย ฉันจึงตอบตกลง แสงแดดยามบ่ายสาดส่องเข้ามาในรถยนต์ขณะที่พี่วินขับพาฉันมายังคอนโดมิเนียมหรูหราสูงตระหง่านกลางเมืองกรุง
เมื่อมาถึงห้องพักของพี่วิน บรรยากาศภายในห้องดูโอ่อ่าและทันสมัย เฟอร์นิเจอร์เรียบหรูจัดวางอย่างลงตัว ผนังกระจกบานใหญ่เผยให้เห็นวิวเมืองกรุงเบื้องล่าง ห้องนั่งเล่นกว้างขวางมีโซฟาหนังตัวใหญ่นุ่มสบาย แต่เมื่อฉันกวาดสายตาไปรอบๆ กลับไม่พบคุณแม่ของพี่วิน
"เอ่อ คุณแม่ไม่อยู่เหรอคะพี่" ฉันถามด้วยความสงสัย
พี่วินยิ้มบางๆ "อ๋อ สงสัยแม่จะไปห้างสรรพสินค้าแล้วมั้งครับ มะนาว มานั่งนี่สิ" เขาผายมือไปยังโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง
ฉันเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟาอย่างเก้ๆ กังๆ หัวใจของฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ความรู้สึกประหม่าเริ่มเข้ามาแทนที่ความสบายใจที่เคยมี
พี่วินติวหนังสือให้ฉันนานหลายชั่วโมงจนฉันเริ่มรู้สึกเพลียล้าไปหมด เขาสังเกตเห็นจึงอาสาลงไปซื้อข้าวกล่องและเครื่องดื่มให้ เมื่อเขาออกไป ฉันก็ขึ้นมาเอนตัวนอนลงบนโซฟา กะจะพักให้หายเมื่อยหลังและเอวที่อ่อนล้าจากการนั่งติว ทว่าฉันกลับผล็อยหลับไปนานสองนาน
พอรู้ตัวอีกที ฉันก็พบว่าพี่วิน ขึ้นมาคร่อมทับอยู่บนตัวฉันแล้ว ปากของเขากำลังเม้มไซร้ซอกคอขาวของฉันอย่างหิวกระหาย ลมหายใจร้อนๆ รดรินอยู่บริเวณนั้น สร้างความรู้สึกวาบหวามแล่นแปล๊บไปทั่วร่างดิฉัน
พี่วินเล้าโลมฉันจนฉันรู้สึกอ่อนระทวยไปหมด ถึงแม้ในใจจะตกใจและโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ร่างกายของฉันกลับไม่มีเรี่ยวแรงจะดิ้นขัดขืนเขาเลย ราวกับว่าร่างกายของฉันมันสมยอมเขาไปแล้ว ทั้งๆ ที่ในหัวของฉันกำลังขัดขืนอย่างรุนแรง
ฉันค้างชะงักในสภาพช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองจนลืมไปว่านิ่งแบบนั้นอยู่นานแค่ไหน แต่มันนานพอที่พี่วินจะถลกชายเสื้อยืดสีชมพูของฉันขึ้น รั้งเสื้อชั้นในลงแล้วก้มลงมาคาบทึ้งหัวนมจนแดงช้ำ
ความเจ็บปวดปนความเสียวซ่านทำให้ฉันหลุดเสียงออกมา "อร๊ะ! อย่า! อย่าค่ะ!" ฉันเริ่มนอนดิ้นส่ายเอวไปมา และกลับมาพูดได้อีกครั้ง แต่พี่วินกลับไม่สนใจคำพูดของฉันเลยแม้แต่น้อย เขายังคงดูดดึงหัวนมของฉันอย่างต่อเนื่อง
พี่วินบีบเฟ้นเต้านมของฉันด้วยมือหนึ่งอย่างไม่ปราณี ส่วนอีกมือหนึ่งก็สอดลอดเข้ากางเกงขาสั้นของฉัน เอานิ้วกลางแยงยัดเข้าร่องสาวของฉันอย่างรวดเร็วและรุนแรง
"อร๊าย! อร๊ายยยย!" ฉันกรี๊ดลั่นและนอนถีบเท้าไปมาบนโซฟา ทว่าร่องสวาทของฉันกลับหลั่งน้ำเสียวมาอาบเลอะเต็มอุ้งมือของรุ่นพี่อย่างห้ามไม่อยู่
จุ๊บ! ๆ ๆ พี่วินก้มลงมาจูบปิดปาก ปิดเสียงร้องของฉันอย่างรวดเร็วขณะที่นิ้วกลางยังคงแทงเข้าออกรูสาวอย่างช่ำชอง ความเสียวซ่านไปทั่วร่างจนฉันยอมเปิดปากให้เขาสอดลิ้นเข้ามาพันวนๆ กับลิ้นของฉัน โดยที่ฉันเพียงอ้าปากค้าง ไม่ได้จูบตอบเขา
เมื่อได้จังหวะ พี่วิน ก็ดึงกางเกงขาสั้นของฉันลงอย่างรวดเร็ว แล้วรูดซิปกางเกงของเขา ล้วงแท่งรักลำยาวที่ใหญ่กว่าว่าที่สามีของฉันออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วแทงเข้าหว่างขาขาวๆ ของฉัน
ปรั่บ! ๆ ๆ อ่าส์! เขากระแทกเข้าออกอย่างง่ายดาย เพราะน้ำเสียวของฉันมันเอ่อล้นออกมารอหล่อลื่นอยู่แล้ว ขณะที่เขายังคงจูบปากฉัน เอวเขาก็ซอยยิกๆ จนฉันสยิวหนักและผวากอดรัดเขาแน่น
พี่วินกระแทกจนฉันชักกระตุกเกร็งไปสองสามรอบ ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยน้ำรักเข้ามาในท้องฉันอย่างรุนแรง ฉันร้องไห้กระซิกๆ เมื่อรู้ว่าโดนแตกใน สติกลับมาจนนึกถึงหน้าพี่ต้น ว่าที่สามีที่กำลังจะแต่งงานกัน
ถึงฉันร้องไห้อยู่ พี่วินก็ไม่ยอมหยุด เขายังคงซอยเอวโยกแท่งเอ็นรูดเข้าออกในตัวฉันอย่างต่อเนื่อง ตั่บ! ๆ ๆ ฮือ! ๆ อร๊ะ! อร๊าาา! ฉันทั้งร้องไห้ทั้งร้องครางอย่างสับสนไปหมด ระหว่างความรู้สึกผิดและความเสียวซ่าน...