“ รีบไปสิ มานั่งบื้ออยู่ทำไมเล่า” แสนหันไปตวาดจนมณีจันทร์สะดุ้ง รีบวิ่งหนีออกไปในทันที “พี่แสนจะนั่งชมจันทร์กับน้องก่อนไหมเจ้าคะ” “พี่ขอไปจัดการอบรมคนในเรือนของพี่ก่อน เจ้าพักผ่อนเสียเถิดแม่ดวงใจ” พูดจบแสนก็เดินจากไปในทันที ทำให้ปานวาดได้แต่อ้าปากค้าง เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นอีกด้านหนึ่งทำให้ปานวาดหันขวับไปมอง “ท่านหัวเราะกระไรรึ” ปานวาดค้อนเดชเสียวงใหญ่ “มิว่าใครจะเชื่อเยี่ยงไรว่าเจ้ามิใช่แม่ปานวาด แต่ข้าเห็นกิริยาท่าทางที่เจ้าทำกับแม่หญิงมณีจันทร์เมื่อครู่ก็รู้แล้วว่าเจ้าคือแม่หญิงปานวาด” เดชพูดอย่างรู้ทัน “นี่ท่านพูดกระไรกัน ข้ามิเห็นเข้าใจ” ปานวาดรีบทำเสียงดังกลบเกลื่อน มิคิดว่าจะถูกรู้ความจริงจากเดชจนได้ แต่นับว่าเดชฉลาดกว่าแสนเป็นไหน ๆ “พูดเรื่องจริงเช่นไรเล่า” เดชมองปานวาดตั้งแต่หัวจรดเท้า ปานวาดสวยจริง แต่ก็เหมือนผู้หญิงสวยแต่รูป ที่มิสมควรเอามาเป็นแม่ของลูก หล่อนสามารถเป็น