เชอรี่
"นี่ก็เข้าสู่วันที่ 3 แล้วนะฉันยังตามหาตัวเจ้าเด็กหนุ่ม 4 คนที่มีลักษณะตามที่หัวกำหนดไม่ได้สักทีจะทำยังไงดีเนี่ย มีหวังภารกิจนี้ล้มเหลวแน่ๆ หัวหน้านะหัวหน้าใจร้ายที่สุดจะส่งให้ใครมาเป็นลูกมือช่วยเราหน่อยก็ไม่ได้ ฉันจนปัญญาแล้วนะจะทำยังไงดีวะเนี่ย!" นักสืบสาวนั่งบ่นรำพึงรำพันกับตัวเองขณะที่กำลังนั่งอ่านเอกสารแฟ้มลับเฉพาะกิจพลางๆ โดยเธอใช้วิธีมากมายที่จะตามหาตัวเด็กหนุ่มทั้งสี่แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน ก็ไม่เป็นผลดีหรือจะทำให้เธอได้ตัวเด็กหนุ่มทั้ง 4 คนนั้นมาอย่างตั้งใจโดยง่าย ในช่วงเวลา 5 วันที่เธอมีได้ผ่านพ้นไปแล้ว 2 วันและวันนี้ก็เป็นวันที่ 3 สำหรับการตามหาตัวเด็กหนุ่มที่เธอต้องนำมาปฏิบัติภารกิจสำคัญอันใหญ่หลวง เธอจึงตัดสินใจใช้วิธีสุดท้ายจะเป็นวิธีที่เธอต้องเหนื่อยทั้งยังสิ้นเปลืองมากที่สุดด้วย นั่นก็คือการขับรถส่วนตัวตามหาตามจุดต่างๆ ที่คิดว่าน่าจะมีเด็กหนุ่ม 4 คนตามลักษณะที่ต้องการ
สถานที่แรกที่เธอไปก็คือจุดรวมตัวที่ใหญ่ที่สุดของหนุ่มสาวขาแว้นด้วยสายตาที่เป็นดังเรดาร์ตรวจจับบุคคลที่มีลักษณะตามความต้องการ เธอใช้สายตากวาดมองไปยังกลุ่มเด็กหนุ่มสาวกว่า 100 ชีวิตก็ไม่พบเด็กหนุ่มที่มีลักษณะที่เธอต้องการเลยแม้แต่คนเดียว เธอจึงไม่เสียเวลาที่จะปฏิบัติการตามหาเด็กหนุ่มพเนจรต่อไปจึงเปลี่ยนสถานที่ไปยังชุมชนแออัดที่มีเหล่าเด็กหนุ่มสาวที่มีลักษณะลักเล็กขโมยน้อย หน้าตาดีมีความรักดีอยู่ในตัว สายตาของเธอก็ไม่พบเจอเด็กหนุ่มลักษณะดังกล่าวอีกเช่นเคย จากนั้นเธอก็ตรงไปยังแหล่งสถานบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสีลม ถนนข้าวสาร พัทยาและสถานที่อื่นๆ อีกหลายแห่งเพื่อตามหาเด็กหนุ่มที่มีลักษณะดังกล่าว สายตาเรดาร์ของเธอก็ชวดที่จะเจอกับเด็กหนุ่มตามต้องการอีกเช่นเคย เด็กหนุ่มคนสุดท้ายที่มีลักษณะเป็นหนุ่มเพลย์บอย ฐานะยากจน ทำตัวไฮโซ หลอกฟันสาวไปวันๆ เธอจึงออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ที่มีงานไฮโซตามโรงแรมต่างๆ เพื่อตามหาเด็กหนุ่มที่มีลักษณะดังกล่าวแต่แล้วในที่สุดเธอก็ไม่พบเลย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหนุ่มขาแว้น เด็กหนุ่มเพลย์บอย เด็กหนุ่มโคโยตี้หรือหนุ่มน้อยพเนจร จากสถานที่ต่างๆ ที่เธอเฝ้าตามหาจนทั่วเธอกลับไม่พบเด็กหนุ่มลักษณะที่กำหนดไว้แม้แต่คนเดียว
เธอรู้สึกเหนื่อยล้าอ่อนแรงและสิ้นหวัง เธอคิดทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆ กับเหตุการณ์มากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้อยใหญ่ที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตเธอ ด้วยความที่มีปฏิภาณไหว เฉลียวฉลาดนักสืบสาวอย่างเชอรี่ก็สามารถแก้ไขและผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ นานามาได้นับครั้งไม่ถ้วน มาตอนนี้ทำไมเธอต้องมารู้สึกท้อ เหนื่อยหน่ายหรือสิ้นหวังกับปัญหาในครั้งนี้ด้วย เชอรี่นึกถึงคนที่มีความสำคัญต่อชีวิตเธอมากที่สุด แม้จะไม่ได้อยู่ร่วมกันกับคนสำคัญนั้นก็ตาม กำลังใจ ความมุ่งมั่น ความเข้มแข็งได้กลับเข้ามาสู่หัวใจของเธออีกครั้ง เธอหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อบอกกับตัวเองอีกครั้งว่า
"เรื่องแค่นี้นะเหรอจะมาทำให้ฉันยอมแพ้ง่ายๆ ฝันไปเถอะ!" เมื่อเธอบอกกับตัวเองเช่นนั้นแล้วเธอจึงขับรถกลับบ้านเพื่อพักผ่อนเพื่อเติมกำลังแรง กำลังใจในการตามล่า ตามหาสี่หนุ่มต่อไปในวันพรุ่งนี้
โคโยตี้หนุ่มสุดฮอต ฮาเปอร์
จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปและหน้าที่การงานของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของมหาเศรษฐีเหมืองแร่ทองคำ ทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกเสียใจกับพฤติกรรมที่แย่จนเขาไม่สามารถรับได้เขาจึงเกิดโทสะ จนใช้วาจารุนแรงกับลูกชายสุดที่รักของเขา ทำให้ฮาเปอร์หนุ่มน้อยผู้มีความรู้สึกเปราะบางรู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงกับถ่อยคำด่าทอของผู้เป็นพ่อ หนุ่มน้อยจึงตัดสินใจเก็บข้าวของหนีออกจากบ้านไปในกลางดึกของคืนนั้น
หนุ่มเพลย์บอยร้อยรัก สกิล
"เก็บของออกไปจากห้องพักของฉันเลยนะ ฉันให้โอกาสเธอมากี่ครั้งแล้วฉันเคยเห็นเธอขับรถหรูๆ ก็หลายคัน มีเสื้อผ้าดีๆ ใส่ตั้งเยอะแยะแต่ไม่มีเงินจ่ายค่าห้องพักเป็นแบบนี้ ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้เลยออกไป!" เสียงหญิงวัยคราวแม่ตะโกนด่าทอไล่เด็กหนุ่มผู้ไม่มีค่าห้องพักที่จะจ่ายหล่อนให้ออกจากหอพักของหล่อนในทันที ซึ่งทำให้เด็กหนุ่มอย่างสกิลต้องกลายเป็นคนไร้ที่พักชั่วคราวแต่สกิลก็ไม่ได้มีการโต้ตอบหรือทำร้ายหญิงคราวแม่แต่อย่างใด เขาเข้าห้องไปเก็บของในห้องนอนซึ่งเปรียบเสมือนเป็นบ้านของเขาอีกหลังออกจากห้องพักที่เขาใช้ไปที่พักและอาศัยมาเกือบ 2 ปีแต่วันนี้เขาต้องจากจรสถานที่แห่งนี้อย่างถาวรแล้วเพราะเพียงไม่มีค่าห้องพักที่จะจ่ายเจ้าของเท่านั้นเอง
เด็กหนุ่มแว้นป่วนเมือง สวิฟต์
หลังจากที่เขาตัดสินใจออกจากบ้านวันนั้นเขาก็ยังคงพักอาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทที่มีหญิงสาวไม่ซ้ำหน้าเข้าออกภายในคอนโดเพื่อนสนิทของเขาแทบทุกวัน แล้วเขาก็มีผลได้เสียกับความสนุกกับหญิงสาวไม่ซ้ำหน้าเช่นเดียวกับเพื่อนสนิทของเขา มาวันหนึ่งนับเป็นคราวเคราะห์ของสวิฟต์ที่บรรดาสาวๆ นับ 10 คนต่างมาร้องทวงสิทธิ์ของตนกับเพื่อนสนิทในวันเวลาเดียวกัน จึงเป็นเหตุให้สวิฟต์ต้องย้ายออกจากคอนโดเพื่อนสนิทในทันทีแล้วเขาจะไปพักที่บ้านของใครได้อีกนอกจากเพื่อนคนนี้
หนุ่มพเนจร เอวา
เงินทองมากมายที่เด็กหนุ่มอย่างเอวาใช้อย่างฟุ่มเฟือยแทบทุกวันก็เริ่มร่อยหรอลงเรื่อยๆ สถานที่บันเทิง สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเด็กหนุ่มก็ได้ย่างกรายไปเสียหมดสิ้นทุกสถานที่แล้วตอนนี้จึงทำให้เขาต้องกลับมาสิ้นเนื้อประดาตัวอีกครั้งหนึ่ง จนทำให้เขานึกถึงสถานที่ที่แรกที่เขาสามารถหาเงินได้อย่างง่ายดาย เขาจึงใช้เงินเพียงไม่กี่พันบาทเพื่อจะเดินทางจากทางภาคเหนือลุงสู่พัทยาชลบุรีในวันเดียวกันนั้นเลย
เชอรี่
เช้าวันรุ่งขึ้นทางฝ่ายนักสืบสาวได้เตรียมจัดแจงเอกสารทุกอย่างให้ครบทุกถ้วนก่อนจะเริ่มเดินทางตามล่าเด็กหนุ่มทั้งสี่คนอีกครั้งในวันใหม่ สถานที่แรกที่เธอจะไปนั่นก็คือหมอชิต ขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ที่สุดใจกลางกรุงเทพนั่นเอง
เชอรี่
บนท้องถนนสายหลักที่จะมุ่งตรงไปยังขนส่งมวลชนอย่างหมอชิตคงไม่ใช่เส้นทางเดียวที่มีจำนวนรถคลาคล่ำมากมายเช่นนี้ อีกไม่ถึงร้อยเมตรนักสืบสาวอย่างเชอรี่จวนขับรถใกล้จะถึงยังสถานที่เป้าหมาย บรรยากาศอันร้อนระอุจากแสงแดดที่สาดส่องทะลุแผ่นฟิล์มกันร้อน ณ เวลานี้คงไม่มีแผ่นฟิล์มกันร้อนยี่ห้อใดจะสามารถกรองรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้หมด เธอกวาดสายตาไปรอบๆ รถก็เห็นรถยนต์จำนวนมากมายที่ยังคงสตาร์ทเครื่องจอดอยู่กับที่เรียงกันเป็นแถบๆ จนสุดลูกหูลูกตา เธอคิดเพียงว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นถึงได้มีปรากฏการณ์รถติดยาวเหยียดเช่นนี้ ตั้งแต่ที่เธอย่างกรายเข้ามาทำงานในเมืองกรุงศิวิไลกว่า 6 ปี
"รถจะติดอะไรนักหนาเนี่ย ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ เลยเหลืออีกแค่ร้อยเมตรก็จะเข้าหมอชิตได้ละ.. โอ๊ยเซ็ง!" เธอนั่งบ่นกับตัวเองขณะที่ฝากระโปรงหน้ารถก็มีไอความร้อนที่กำลังระอุดุเดือด จิตใจของเธอก็เริ่มร้อนรนคล้ายกับแสงแดดจากดวงอาทิตย์ด้วยไม่ต่างกัน