แชะ ~
"ใกล้ๆ กันหน่อยค่ะเจ้าบ่าวเจ้าสาว ทำไมถึงเหมาะสมกันขนาดนี้เลยนะเนี้ย" ณดาเอ่ยชมไม่หยุด ระหว่างที่จับกล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปให้พี่สาวและว่าที่พี่เขย ขณะที่ทั้งคู่ใส่ชุดแต่งงานสมกันราวกับสุภาษิตที่ว่ากิ่งท่องใบหยก
"มันอึดอัดไปนิดนึงเนอะ" หน้าสวยเอียงไปขอความคิดเห็นทางคนตัวสูง เธอเลือกชุดเกาะอกสีขาวประดับเลื่อมเพชรวิบวับ แต่รู้สึกว่าจะโดนเชือกผูกด้านหลังรัดแน่น จนดันหน้าอกอวบทะลักออกมา กระทบกับการหายใจหน้าอกกระเพื่อมไปฝืดเคือง
"เปลี่ยนชุด" ร่างสูงตรึงเสียงเข้ม เมื่อเห็นชุดเจ้าสาวมันวาบหวิวเกินไป แน่นอนต้องล่อสายตาเพศตรงข้ามให้มองจ้องมากมาย
"แต่ณดาว่าชุดนี้พี่ณิสวยมากเลยนะ ชุดขับผิวพี่ณิดีด้วย"
"จริงน่ะเหรอ..." หน้าสวยรีบหันมองกระจกรอบด้าน เธอชอบชุดนี้เองด้วยแต่ติดตรงที่เกาะอกค่อนข้างต่ำไปนิดนึง
"จริงค่ะ ชุดนี้ขับผิวเจ้าสาวมากๆ เลยนะคะ" เจ้าของร้านรีบช่วยออกความคิดเห็น
"ณิก็ว่า..."
"เปลี่ยนชุดซะไม่งั้นก็แก้แบบ" เสี้ยวหน้าคมหันไปสั่งเจ้าของร้านทันที ไม่รอให้เจ้าสาวได้อธิบายอะไรก่อน
"ชุดนี้เป็นคอลเลกชันใหม่ของทางร้านเชียวนะคะคุณณิชาอย่าเปลี่ยนชุดเลยนะเหมาะกับคุณณิชาที่สุดแล้วจริงๆ ค่ะ" ฝ่ายคนบอกรีบเดินมาสำรวจไปรอบชุด คงจะมีปัญหาที่พนักงานรั้งเชือกด้านหลังมากเกินไป เลยไปบีบรัดช่วงอกสวย
"งั้นก็ต้องแก้"
"เอ่อค่ะ..เดี๋ยวเจ้จะแก้ให้เลยนะคะ คุณเจ้าบ่าวใจเย็นๆ ก่อนนะ" น้ำเสียงของเจ้าบ่าวทำทุกคนเลิกลักไปเสียหมด
"ตกลงณิเลือกชุดนี้นะคะ งั้นลองมาดูก่อนก็ได้ค่ะว่าจะแก้ยังไง" พอเธอเห็นว่าที่เจ้าบ่าวเกรี้ยวกราดขึ้นมา เลยรีบดึงแขนเจ้าของร้านมาตรงมุมกระจกแต่งตัว ซึ่งเธอก็เห็นจริงๆ ว่ามีปัญหาตรงด้านหลัง
"ระวังหน่อย" มือหนาวางทาบหน้าอกอวบรวดเร็ว เมื่อว่าที่เจ้าสาวจะก้มหน้ามาเอียงมองปลายเชือกที่บั้นท้ายมนกลม แต่ไม่ระวังว่าจะล่อแหลมเสียมากๆ แม้จะมีแต่ผู้หญิงในร้านก็ไม่สมควร
"เอ่อ..." บรรยากาศรอบด้านต่างหยุดมองชะงัก กับท่าทีที่ไตรภูมิทำไม่ได้สนใจว่าอยู่ภาพเหมาะสมหรือเปล่า
"เจ้ว่าเจ้พอรู้ปัญหาแล้วล่ะคะ อิอิ..น้องณดาว่าอย่างเจ้ไหมคะ" ฝ่ายเจ้าของร้านรับกระซิบไปทางณดาขอความเห็น ที่ยืนหลุดยิ้มคคึกคักพอๆ กัน
"เดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนชุดรอก่อนแล้วกัน"
"ค่ะ" เสียงหวานตอบกลับ เจ้าบ่าวของเธอก็ดูดีในชุดทักซิโด้ขาวมากๆ ทำใจดวงน้อยเต้นตึกตักตาม แต่ไม่ยักรู้ว่าทำไมเขาถึงแสดงออกว่าไม่พอใจในชุดที่เธอเลือกใส่
"เจ้ว่าต้องแก้ด้านหลังแค่นิดเดียวเท่านั้นค่ะ นอกนั้นก็เวิร์คทั้งหมดสมบูรณ์แบบเลยค่ะ"
"จริงค่ะณดาก็ว่าอย่างนั้น แล้วรูปที่ถ่ายเมื่อกี้ณดาส่งให้คุณแม่เราดูแล้วนะ มีแต่คนชมว่าเหมาะสมกันมากๆ เลย" ณดารีบยื่นหน้าจอ โทรศัพท์มือถือมีรูปถ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวเคียงข้างกัน ในเวลานั้นไตรภูมิก็เดินอออกมาพอดี
"ส่งรูปนี้มาให้พี่ด้วยนะ" หน้าสวยเผยยิ้มแฉ่ง
"งั้นคุณณิชาไปเปลี่ยนชุดได้เลยนะคะ เดี๋ยวเจ๊จะรีบแก้ให้ตามกำหนดเลยค่ะ"
"ขอบคุณมากๆ ค่ะ" มือบางรีบลากน้องสาวให้ตามเข้าไปในห้องลองชุด ปล่อยให้ว่าที่เจ้าบ่าวนั่งรอไปก่อน
ชั่วโมงต่อมา_
"ทำไมวันนี้มันเหนื่อยจังก็ไม่รู้ ณิว่าพี่ไตรรีบกลับบ้านก่อนดีไหม..จะได้ไปพักด้วย" หลังจากที่ลองชุดแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวก็ยังวนรถมาส่งเธอและน้องสาวที่บ้านต่อ แต่บรรยากาศก็เริ่มเข้าสู่ช่วงหัวค่ำแล้ว
"ที่นี่ก็พักได้" ร่างสูงนั่งเอนหลังพิงพนักโซฟา
"ที่นี่อีกแล้วเหรอ..เรายังไม่ได้แต่งงานกันเลยนะจะนอนบ้านเดียวกันบ่อยๆ ไม่ได้ เดี๋ยวคนก็เอาไปนินทากันหมดหรอก" ร่างอรชรรีบรุดมานั่งใกล้คนตัวสูงหวังจะเจรจา
"นักเรียนนอกคิดอย่างนี้ด้วยจริงน่ะเหรอ?"
"ณิก็เกิดที่นี่ไหมล่ะ?"
"แต่เราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว"
"แต่คนอื่นไม่ได้รู้เรื่องของเรานะพี่ไตร ทำไมพูดยากอย่างนี้ล่ะแค่ให้กลับบ้านเองนะ!" คนตัวเล็กเริ่มโวยวาย
"แล้วใครจะทายาให้เธอ?"
"ณิจะหายแล้ว ดูแลตัวเองอย่างดีเลยไม่ต้องห่วง" หน้าสวยพยักหน้าขึ้นลงให้เชื่อมั่นไปอีกหลายๆ ที
"แต่พี่ขับรถกลับไม่ไหว หรือณิจะขับไปส่ง" มือหนาล้วงเอากุญแจรถยนต์คันหรูมาวางบนตักเล็ก เธอคงจะลืมไปจริงๆ ว่ากระโปรงตัวสั้นเริ่มขยับขึ้นเกือบเสมอเนินสามเหลี่ยมแล้ว
"อย่างนั้นณิก็ไม่ได้พักสิ ยิ่งหิวๆ ข้าวแล้วด้วยนะ"
"แล้วจะมีปัญหาทำไม?" แขนแกร่งยกดันขมับใหญ่ค้ำกับขอบโซฟาเพื่อมองหน้าสวย ที่จู่จู่เธอก็ดันมีปัญหาขึ้นมา
"เฮ้อ..เถียงไม่ชนะอีกแล้วเหรอ ไหนใครบอกว่าเวลาแต่งงานไปแล้วผู้หญิงจะเป็นใหญ่ในบ้านเนี้ย โครตเข้าใจผิดเลย" คนตัวเล็กบ่นพึมพำ เบะเรียวปากนุ่มมองใบหน้าหล่อเหลา ถ้าไม่ติดว่านิสัยร้ายกาจเธอคงจะหลงใหลไม่ลืมหูลืมตาเข้าแน่ๆ
"ไปกินข้าวก่อน เดี๋ยวพี่ตามไปแล้วกัน" เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทันที
"จะคุยงานเหรอ?"
"ถามทำไม?" คิ้วหนาข้างนึงเลิกขึ้นถาม
"ปะเปล่า ณิจะได้ทำตัวถูกถ้าพี่ไตรคุยงานก็จะรอกินข้าว แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นณิจะกินเลยไม่รอให้เสียเวลา" เรียวแขนยกชึ้นมากอดอกถาม
"รีบไปกินเดี๋ยวขึ้นบ้านดึก เธอเองนั่นแหละจะไม่ได้พัก" ร่างสูงชันตัวลุกขึ้นยืน เลยทำคนตัวเล็กที่พยามชะโงกหน้ามามองหน้าโทรศัพท์มือถือล้มเสียหลักไปบนเบาะ
"ไปกินคนเดียวก็ได้ ไม่ง้อหรอก" ร่างอรชรรีบก้าวเดินเข้าในห้องครัว มีอาหารที่แม่บ้านจัดไว้รอไม่กี่อย่าง แต่ใจนึงเธอก็อดไม่ได้ ว่าไตรภูมิมีคนที่ตัวเองรักอยู่แล้ว จะมาแต่งงานกับเธอทำไมอีก
"หรือเป็นเพราะตรี?" แต่แล้วความคิดนั้นก็พุ่งเข้าในหัวสมอง เขาต้องการแค่เอาชนะน้องชายต่างสายเลือด โดยที่มีเธอเป็นเดิมพันหรอกเหรอ ยิ่งคิดอย่างนั้นก็ยิ่งเจ็บในใจด้วยน้อยน่าดู
"เอ่อ..คุณไตรภูมิแจ้งว่าต้องออกไปเคลียร์ธุระก่อนค่ะ ให้คุณณิชาขึ้นบ้านนอนก่อนเลยไม่ต้องรอ" แม่บ้านคนนึงเดินมาบอกอย่างกะอักกะอ่วนใจ
"แล้วทำไมถึงไม่มาบอกณิเองนะ" เสียงหวานตัดพ้อ ก่อนจะรีบผายมือให้แม่บ้านเก็บโต๊ะอาหารเลย เธอดันไม่รู้สึกหิวโหยเหมือนเมื่อกี้แล้ว
สองเท้าเล็กเลยรีบเดินมาบริเวณหน้าบ้าน พบรถยนต์คันหรูของไตรภูมิกำลังแล่นออกนอกรั้วไปรวดเร็ว เหมือนกับว่ามีสิ่งใดที่สำคัญกว่าอย่างไรอย่างนั้น
"....." จู่จู่น้ำตาใสใสมันก็หยดลงกระทบแก้มเนียน เธอกำลังรู้สึกอย่างไรคาดหวังในตัวเขาหรือเปล่า
"ไม่นะณิอย่าเผลอไปรักเขา..."
"....." ฝ่ายน้องสาวกำลังวิ่งลงบันไดบ้านมา เห็นทุกการกระทำของพี่สาวที่ไม่เหมือนตอนอยู่กับพี่เขย มันพาลให้คนมของรู้สึกสงสารจับใจ ในความสัมพันธ์ที่ถูกบังคับแต่งงานของคนที่ไม่เคยรักกันเลย
............................