ตุ๊บ~
"สิ่งแรกที่เธอต้องรู้ พี่ไม่ชอบนอนเปิดไฟ" น้ำเสียงเข้มเอ่ยสั่ง ตรงมาขึ้นเตียงเตรียมนอนแล้วส่งสัญญาณใส่สวิตช์ไฟในห้อง ให้ลดลงเหลือแค่แสงจากโคมไฟหัวนอนพอสลัว
ปล่อยให้คนตัวเล็กนอนชิดข้างเตียง ห่มผ้านวมแน่นทั้งตัวอย่างกับว่าเขาจะพิษสวาทอะไรเธอขึ้นมายามกลางดึก
"พอมานอนแปลกที่ก็นอนไม่หลับเลย พี่ไตรหลับก่อนณิได้เลยนะณิไม่ถือ" ฝ่ายคนบอกนอนสับส่ายเปลี่ยนท่าตะแคงไปหลายรอบแล้ว เธอก็ยังไม่เข้าสู่อาการง่วงนอนเลย มีแต่ตื่นเต้นที่ไตรภูมิมานอนร่วมเตียงเดียวกัน จะไปหลับลงได้ยังไงก็ไม่รู้
"บอกตัวเองให้นอนเฉยๆ ก่อน มันรบกวนการนอนของพี่"
"ณิไปนอนโซฟาก็ได้นะ คนนอนไม่หลับยังไงก็ไม่หลับง่ายๆ หรอก" นึกหมั่นไส้อยากแกล้งคนใจร้ายขึ้นมา เลยคว้าเอาโทรศัพท์มือถือมาเปิดเลื่อนดูโลกโซเชียล ให้แสงจากหน้าจอส่องกระทบไปทางคนตัวสูงนอนคนละขอบเตียง
"คิดว่าพี่จะจัดการเธอยังไง?"
"จะไล่ณิไปนอนบนโซฟาใช่ไหมล่ะ ก็ดีนะจะได้ไม่ต้องร่วมเตียงกับพี่ไตร" ร่างอรชรไม่มีแม้แต่จะอิดออดลุกนั่ง รวบเอาผ้านวมที่คลุมตัวอยู่เตรียมจะก้าวขาลงเตียง
"เธอคิดว่าห้องนี้จะเก็บเสียงได้มากแค่ไหน ขนาดขาเตียงเมื่อกลางวันยังสั่นลั่นทั้งชั้นเลยนะ"
"หื้ม..." ร่างอรชรเสียงยาวลังเล เธอหลุดจินตนาการไปเรื่องบนเตียงครั้งแรกที่โดนคนตัวสูงกระทำ จนลืมในวินาทีนั้นไปว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นรอบตัวบ้าง หรือเรื่องที่เขาเอ่ยออกมาจะเป็นเรื่องจริง
"ลองดูก็ได้นะ บนโซฟาก็ดีเปลี่ยนท่าได้เยอะ...เราคงไม่รู้เอง"
พรึ่บ! ร่างอรชรรีบทิ้งตัวนอนลงบนเตียงต่อ เก็บแม้กระทั่งหน้าจอโทรศัพท์มือถือไม่ให้ส่องแสงเล็ดรอดออกมา
"ปิดโคมไฟด้วยล่ะ เดี๋ยวเห็นเธอนอนอยู่พี่อาจอดทนไม่ไหว ทำตอนนี้ขึ้นมาอีกก็ได้ แต่ว่าเธอจะทนไหวไหมล่ะณิชา?" ร่างสูงตะแคงตัวหันมาทางคนตัวเล็กนอน เห็นหน้าสวยซีดเผือดมีความกังวลต่างจากสายตาดั่งผู้ชนะเมื่อกี้
"ปะปิดก็ได้ง่วงนอนพอดีเลย พี่ไตรหลับได้เลยนะณิปิดไฟให้แล้ว" ไม่น่าเชื่อว่าแค่เห็นสายตาหื่นกระหายก็พาใจดวงน้อยกระตุกวูบสั่น ยอมกดปิดโคมไฟให้เหลือแสงดวงจันทร์รอดใต้ผ้าม่านเข้ามา
"...." ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่เลื่อนเปลือกตาหนาปิด
"...." แต่ณิชาที่ยังนอนเหลือบมองไปหาคนตัวสูง กลัวว่าอีกฝ่ายจะหลักหลับทีเผลอ เลยแค่นอนกอดอกแน่นระหว่างรอให้ตัวเองเข้าสู่อาการง่วง
"ส่วนเรื่องไปเลือกชุดวันมะรืนพี่จะไปรับที่บริษัท เตรียมตัวไว้ด้วยแล้วกัน"
"ณิไปที่ร้านเองก็ได้นะ เผื่อพี่ไตรทำงานหนักแล้วก็..." เธอสงสัยเรื่องที่เห็นสายเรียกเข้าของผู้หญิงคนนึง ที่ไตรภูมิคุยเกินสองรอบของวันนี้
"อะไร?"
"เปล่าค่ะ งั้นวันมะรืนณิไปที่ร้านเองนะคะเผื่อจะชวนณดาไปด้วยกัน"
"อืม"
"......" บรรยากาศกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง เธอก็ไม่รู้จะถามเขาในฐานะไหนดี ในเมื่อเรื่องงานแต่งงานก็ไม่ได้มีใครให้ความสนใจอะไร นอกจากทำเพียงเพราะหน้าที่กันเท่านั้น
จนในที่สุดร่างอรชรก็เข้าสู่ห้วงนิทรา สัมผัสตามสัญชาตญาณคนขี้เซาคว้ากอดผ้านวมแน่น ยกเว้นคนด้านข้างเลือกจะตะแคงตัวหันหลังให้
เช้าวันต่อมา_
"เมื่อคืนหลับสบายดีไหมล่ะหนูณิชา เห็นแม่บ้านบอกว่าไตรภูมิไปนอนห้องหนูณิด้วยใช่ไหม?" อนุวัฒน์เอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าที่ลูกสะใภ้กำลังจะเตรียมตัวไปทำงาน โดยมีลูกชายจะขับรถไปส่ง
"ค่ะ ที่นี่นอนสบายค่ะเงียบสงบมากๆ "
"แต่พ่อว่านะ ยังไม่ทันจะแต่งงานเลย ไตรภูมิก็รีบไปนอนเฝ้าเมียแล้ว คงจะห่วงมากน่าดู"
"......" ฝ่ายลูกชายเหลือบตามองระอา แต่ก็ไม่ได้สนใจจะพูดอะไรต่อ เลือกจะรับกุญแจรถจากคนดูแลเท่านั้น
"ไว้เจอกันใหม่นะณิ วันนี้เราต้องเอาเอกสารที่บริษัทคุณลุงไปให้ ไว้เจอกันนะ" ตรีบอกท่าทางดีใจ เขาได้ไปช่วยงานบริษัทของอนุวัฒน์ ส่วนไตรภูมิต้องทำงานหลายที่โดยเฉพาะอาชีพอัยการที่เขารัก เลยไม่ค่อยเจอกันที่บริษัทเท่าไหร่
"ได้ แล้วโทรมาบอกนะณิจะได้ให้คนลงไปรับ"
"โอเค"
"พี่รีบ" น้ำเสียงเข้มบอก โยนเสื้อสูทตัวสีเข้มกริบใส่ร่างอรชรให้เธอถือไว้ ก่อนจะเดินวนไปฝั่งตำแหน่งคนขับรถเอง
"ณิไปแล้วนะคะ..ไปล่ะนะ" เธอไม่ลืมก้มคำนับทางผู้ใหญ่และตรี ถึงจะรีบก้าวขาขึ้นนั่งบนรถข้างฝั่งคนขับ
"ถ้าว่างตอนไหนแวะไปที่สำนักงานพี่หน่อย ให้ทนายแนะนำเรื่องฟ้องล้มละลาย" ไตรภูมิเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน ท่าทีมาดขรึมทำคนด้านข้างหวั่นเกรงนิดๆ
"ได้ค่ะ เดี๋ยวณิน่าจะว่างช่วงบ่ายไปแล้ว ไปตอนนั้นได้ใช่ไหม?"
"อืม ถ้าไม่เจอพี่ที่สำนักงานก็คุยก่อนเลยไม่ต้องรอ"
"พี่ไตรจะไปไหนคะ?" ร่างอรชรกลั้นใจถาม
เอี๊ยดดดด~ ปลายเท้าหนังราคาแพงเหยียบเบรกรถหยุดกระทันหัน มาจอดตรงข้างทางใกล้จะถึงจุดไฟสัญญาณจราจร
"เราจะไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องของพี่ แม้จะแต่งงานกันไปแล้วปรับความคิดด้วย" น้ำเสียงเข้มเอ่ยเตือน เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ทำประหนึ่งเป็นเจ้าของชีวิตสามี ทั้งที่ต่างคนต่างอยู่แยกย้ายไปทำหน้าที่จะดีกว่า
"ณิว่าณิจะไม่พูดแล้วนะ แต่มันก็อดไม่ได้"
"....." ใบหน้าหล่อเหลาหันมอง
"พี่ไตรมีคนรักอยู่หรือยังคะ หรือว่ามีใครแล้วณิจะไปคุยกับผู้ใหญ่ให้ยกเลิกงานแต่งงานของเราก็ได้นะ" เธอทนไม่ไหวแล้ว เขาดูรังเกียจเธอมากๆ ในบางครั้ง ไตรภูมิอาจจะมีคนรักอยู่แล้ว เลยไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึกกันมันยิ่งมีแต่ควาทรมาน หากต้องทนใช้ชีวิตคู่กับคนที่ต้องการแค่ผลประโยชน์
"จะเปลี่ยนไปแต่งกับไอตรีล่ะสิ อย่างว่าแหละเนอะพอมาอยู่บ้านเดียวกัน..ก็อดใจไม่ไหว" ไตรภูมิกดน้ำเสียงเย้ยหยันในท้ายประโยค ดูก็รู้ว่าณิชามีใจให้ตรีมากแค่ไหน แม้จะอยู่ต่อหน้าเขาก็เก็บกิริยาไม่ได้
"อย่างน้อยตรีก็นิสัยดีกว่าพี่ไตรค่ะ!"
"งั้นเธอก็เชิญมองคนอื่นดีกว่าผัวตัวเองไปเถอะ พี่ไม่ได้แคร์หรอกนะว่าเธอจะรู้สึกยังไง จะรักหรือไม่รักมันก็แต่งเพื่อผลประโยชน์อยู่แล้ว"
มือหนาเอื้อมมาบีบเข้าเรียวแขนเล็ก เวลาที่เห็นดวงตาคู่กลมมันแข็งกร้าวใส่เขาก็ยิ่งเรียกความโมโห
"ได้! ณิก็ไม่แคร์ความรู้สึกพี่ไตรเหมือนกัน ณิถามดีๆ เรื่องคนรักพี่ไตรแล้ว ในเมื่อไม่ตอบเองก็ทนอยู่กับนิสัยของณิให้ได้แล้วกัน!"
"เธอต่างหากที่ต้องทนพี่ ไม่ใช่ว่าพี่ต้องทนผู้หญิงนิสัยเสียอย่างเธอ!"
"อื้ออ..อีไอออ.." คนตัวสูงโน้มลงมากระแทกจูบใส่เรียวปากนุ่มอย่างรุนแรง บดขยี้ซ้ำๆ ดูดดุนจนรอบผิวปากแสบซ่าน ตวัดเอาน้ำหวานอย่างหื่นกระหายแทบจะขาดใจรอมร่อ
"นี่แค่บทแรกเองนะ ตัวสั่นแล้วเหรอ?"
...................