บริษัทชื่อดัง_
ท่างกลางการประชุมของเหล่าผู้บริหารที่มีไม่กี่คน เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนัก ทำให้ร่างอรชรที่มารับตำแหน่งแทนบิดาชั่วคราว เกิดความประหม่าพยามฮึดสู้
"ไม่ทราบว่ามีท่านไหนสงสัยอะไรเพิ่มเติมอีกไหม?" เสียงหวานเอ่ยถาม วางสองมือบนโต๊ะเรียกความมั่นใจ
"พวกเราทุกคนก็สงสัยกันทั้งนั้นแหละค่ะ บริษัทกำลังจะโดนยื่นฟ้องล้มละลาย ทำไมคุณณิชาไม่แจ้งให้พวกเราทุกคนทราบล่ะคะ พวกเราจะได้เตรียมตัวทัน?" หญิงวัยกลางคนคนนึงเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ
"เรื่องนี้เรายังไม่ได้ข้อมูลที่แน่ชัดค่ะ แล้วเร็วๆ นี้สำนักงานกฎหมายใหญ่ก็กำลังจะมาเป็นผู้ช่วยของบริษัทเรานะคะ ณิขอมั่นใจในข้อมูลก่อน ที่จะเปิดเผยเรื่องอะไรให้ทุกท่านทราบค่ะ"
"แบบนี้ใครมันจะกล้ามาลงทุน อยู่ๆ ให้ลูกสาวมือสมัครเล่นมาทำงานแทน ไหนจะเข้าสู่วิกฤตล้มละลายอีก มีแต่เจ๊งกับเจ๊งทั้งนั้น" ชายวัยกลางคนบอกอย่างไม่พอใจอีกคน
"ณิขออนุญาตตอบตรงนี้เลยนะคะ ที่บริษัทแห่งนี้จะไม่มีการล้มละลายทั้งสิ้น และตัวณิเองไม่ใช่มือสมัครเล่นในการทำธุรกิจค่ะ ถ้าพวกคุณทราบประวัติของณิมาก่อน"
เสียงหวานบอกอย่างหนักแน่น เธอไม่ได้เรียนจบต่างประเทศธรรมดาทั่วๆ ไป ไหนจะมีผลงานให้แก่บริษัทอื่นๆ ในช่วงเรียนมาตลอดสองปีอีก
"จะเอาอะไรมาแน่ใจกับเด็กเพิ่งเรียนจบใหม่?"
"ผลงานค่ะ ณิเพิ่งมาบริหารไม่นานนี้เอง รบกวนขอเวลาหน่อยนะคะไม่ให้เงินทุนผู้บริหารทุกท่านต้องสูญเปล่าแน่ๆ ค่ะ" ร่างอรชรก้มคำนับแก่ผู้ใหญ่รอบด้านห้อง
"มีพวกคุณท่านไหนจะค้านอะไรต่อเพิ่มเติมไหมคะ คุณณิชาติดคุยเจรจากับลูกค้าต่ออีกภายในครึ่งชั่วโมงนี้ค่ะ" กอหญ้าเป็นเลขาคนสนิทรีบเอ่ยขึ้น
"งั้นก็เอาเถอะจะรอดูแล้วกัน ไม่รู้คิดได้ยังไงเอาเด็กมือใหม่มาแทนที่ มันจะไปกันรอดสักกี่น้ำเชียว" ฝ่ายคนบอกพากันส่งเสียงซุบซิบ ลุกเดินออกจากที่นั่งในห้องประชุม ปล่อยให้ผู้ฟังรู้สึกไม่ดีตาม
"คุณณิต้องสู้ๆ นะคะ ไม่มีใครไม่เคยโดนตำหนิหรอกค่ะ แล้วยิ่งเป็นคนที่เสียประโยชน์คงไม่ยอมอยู่เฉยๆ " เลขาสาวรีบมาให้กำลังใจเจ้านาย
"ขอบคุณนะคะคุณกอหญ้า ณิก็ไม่รู้ว่าจะทำแทรคุณพ่อได้ดีขนาดไหนเชียว"
"คุณณิพาบริษัทเราพ้นวิกฤตไปได้แน่ๆ ค่ะ เชื่อมั่นในความสามารถตัวเองเข้าไว้ เหมือนที่คุณทศวรรษเชื่อมั่นนะคะ"
"ขอบคุณมากๆ ค่ะ" เสียงหวานตอบตื้นตัน ถึงจะก้าวเท้าเล็กในรองเท้าส้นสูงเดินพ้นออกมานอกประชุม พบกับตรีมาพร้อมผู้ช่วยคนนึง
"งานยุ่งมากเลยเหรอณิ เราเอาเอกสารมาให้ดูน่ะว่างหรือเปล่า"
"ได้แค่ครึ่งชั่วโมงน่ะ งั้นไปคุยที่ห้องณิก็ได้น่าจะสะดวกกว่า" ร่างอรชรเลยเดินนำมายังห้องประจำตำแหน่ง มีกอหญ้ารีบนำเครื่อมดื่มและของว่างมาเสิร์ฟ
"คุณลุงให้ตรีเอาเช็คและใบข้อมูลที่จะช่วยสั่งออเดอร์ของบริษัทณิ ส่งไปยังฟิลิปปินส์น่ะ" ฝ่ายคนบอกรีบนำแฟ้มข้อมูลขึ้นวางบนโต๊ะ
"โห..แน่ใจนะว่าจะสั่งขนาดนี้ แต่รู้ใช่ไหมว่าคนงานของโรงงานเริ่มทยอยกันออกแล้ว อาจจะได้งานช้าหน่อยนะ" เสียงหวานบอกหนักใจ นับว่าทราบซึ้งในน้ำใจของบิดาว่าที่เจ้าบ่าวมาก ผิดกับคนเป็นลูกต่างกันลิบเลย
"เราแจ้งคุณลุงไปแล้วล่ะ แต่กำหนดการภายในสิ้นเดือนนี้ ณิยังคิดว่าไม่ทันเหรอ?"
"มันเยอะขนาดนี้ก็ต้องบอกไว้เผื่อก่อนไหม"
"แต่ตรีมั่นใจนะว่าณิทำได้อ่ะ เราเชื่อว่าบริษัทณิทำได้จริงๆ ไม่งั้นคุณลุงคงไม่ไว้ใจขนาดนี้หรอก"
"เราจะพยามเร่งให้ทันเลยนะ แค่นี้เกรงใจมากๆ แล้วฝากคำขอบคุณไปให้คุณพ่อด้วยนะ" มือบางเลื่อนแฟ้มข้อมูลมาอ่านรายละเอียดทั้งหมด แน่นอนว่ามีลายลักษณ์ของว่าที่เจ้าบ่าวเธอต้องเซ็นต์กำกับคู่กับบิดา เพราะเขาก็มีหุ้นใหญ่เทียบเท่าเจ้าของอีกคน
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ ทุกคนเห็นว่าณิเป็นคนในครอบครัวทั้งนั้น ถ้าขาดเหลืออะไรเรียกให้ตรีมาช่วยได้เสมอ" คนบอกเลื่อนมือจับมือบางข้างนึงไว้
"ขอบใจนะ งั้นนิตกลงเซ็นต์สัญญาให้เลย" ร่างอรชรไม่รอรีบลงลายลักษณ์อักษร ก่อนจะกดโทรศัพท์เรียกเลขาสาวเข้ามา เลยรีบดึงมือออกจากการกุมก่อน
"ค่ะคุณณิชา"
"รบกวนคุณกอหญ้าสำเนาข้อมูลพวกนี้ทั้งหมดเลยนะคะ เราได้ออเดอร์ล็อตใหญ่แล้วนะ" ภายใต้คำสั่งมีความดีใจมากมายซ่อนอยู่ในนั้น
"ได้ค่ะ เดี๋ยวกอหญ้าจะรีบจัดการให้ค่ะ"
"แล้วนี่วันนี้ณิกินข้าวกลางวันหรือยัง เราไปกินกันสักแป๊บนึงก่อนไหม?" เมื่อเห็นว่าเลขาสาวเดินออกไปแล้ว เขาเลยเอ่ยชวนไหนๆ ก็เคยมารับอีกฝ่ายไปกินข้าวช่วงเวลาเที่ยงแล้ว
"ขอโทษทีนะตรี ช่วงนี้งานยุ่งมากๆ เลยณิต้องคุยงานต่อแทนพ่ออีกน่ะ" ณิชาบอกอย่างรักษาน้ำใจ
"เอางี้ไหมคุยนานหรือเปล่า เรารอได้แล้วค่อยไปกินข้าวกัน"
"อย่าเลยตรี กลัวจะเสียเวลารอเปล่า..พี่ไตรนัดให้รอไปที่สำนักงานด้วยเรื่องฟ้องล้มละลายน่ะ"
"เขาดีกับณิไหม?" ตรีเริ่มเผยสีหน้าเศร้าใจ
"ก็นิดนึงน่ะ แต่ณิถามตรีหน่อยได้ไหม"
"ว่า?"
"ก่อนหน้านี้พี่ไตรคบกับใครอยู่หรือเปล่า ณิกลัวเข้าไปทำให้คนรักเขาต้องเลิกกัน" เพราะเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย ทุกอย่างรอบบีบบังคับเรื่องแต่งงานจนลืมมองชีวิตของแต่ละคนไป
"เท่าที่เรารู้พี่ไตรเคยมีแฟนอยู่นะ แต่ก็ไม่เห็นนานมากแล้ว ได้ข่าวว่าไปอยู่เมืองนอก" ระหว่างนั้นตรีมองสังเกตุแววตาของผู้ฟัง เหมือนว่าเธอผิดหวังและโลเลหนัก
"พอจะมีรูปไหมอ่ะ?"
"เราไม่มีรูปหรอก แต่ไว้เดี๋ยวหามาให้ ณิกำลังสงสัยอะไรอยู่เหรอ...หรืออยากจะยกเลิกงานแต่งเราจะได้ช่วย"
"มะไม่ใช่หรอก ณิแค่อยากรู้มากไปหน่อย แต่ขอณิทำงานต่อดีกว่านะจะได้ไม่รบกวนเวลาตรีด้วย" เสียงใสรีบเอ่ยเปลี่ยนสถานการณ์ แล้วเลื่อนเอาแฟ้มเอกสารมากมายบนโต๊ะมาเปิดดู
"งั้นตรีกลับก่อนล่ะนะ ถ้าวันนี้จะไปกินข้าวที่บ้านอีก คงจะได้เจอกันแหละ"
"โอเค ขอบใจมากนะ" หน้าสวยส่งยิ้มหวานเพื่อมิตรภาพ จนอีกฝ่ายเดินออกประตูไปนอกห้องแล้ว จะเห็นว่ากอหญ้ารีบนำเอกสารไปส่งเขาคืน ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเจ้านาย
"รบกวนคุณกอหญ้าแยกส่งไปตามแผนกได้เลยนะคะ ออเดอร์นี้จะช่วยบริษัทเราได้ระดับนึง"
"ค่ะ คุณณิชาไม่ต้องห่วงนะคะเดี๋ยวกอหญ้าจะจัดการให้ทุกขั้นตอนเลยค่ะ"
"ขอบคุณมากค่ะ" พอเห็นว่าใกล้เวลานัดกับลูกค้าเธอเลยรีบเก็บของ แล้วนำโทรศัพท์มือใส่กระเป๋าสะพาย ไม่ลืมกุญแจรถยนต์คันใช้งานประจำ
"ให้กอหญ้าออกไปด้วยดีกว่าไหมคะ คุณณิชาจะได้ไม่เหนื่อย" ฝ่ายเลขาสาวเอ่ยถาม
"เดี๋ยวณิไปเองดีกว่าค่ะ รบกวนจัดแจงงานให้เรียบร้อยก็พอ ณิจะได้เลยไปที่สำนักงานอัยการต่อ"
"ได้ค่ะคุณณิชาไม่ต้องห่วงนะคะ"
"ค่ะ" ร่างอรชรเลยลุกเดินออกจากโต๊ะทำงานก่อน โดยไม่ลืมข้อมูลที่มีเลขาสาวช่วยเตรียมเอาไว้ก่อนหน้า
....................