“การที่กูแสดงคำพูดแล้วก็ท่าทีแบบนี้เขาเรียกว่าหวงหรอวะ กูว่ากูเกลียดมากกว่า เกลียดผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างมึงตอนนี้ ที่ทำเป็นใสซื่อไร้เดียงสาแต่จริงๆแล้ว../ “เจษ!แพรวเดินมาโน่นแล้ว ถ้านายไม่อยากให้แพรวคิดมากก็หยุดสักที” หนูยิ้มกัดฟันแน่นพยายามรวบรวมความกล้าปรามสติเจษ เธออยากเดินหนีแต่ร่างกายก็เหมือนถูกตรึงไม่ให้ก้าวถอย “ระวังตัวไว้นะยิ้ม…” เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความคาดคั้น ราวกับเขากำลังประกาศสงครามส่วนตัวกับทั้งกฤตและเธอ หนูยิ้มยืนตัวสั่นใบหน้าแดงระเรื่อ แต่ต้องฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้แพรวสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ เพราะเธอรู้ดีทุกคำพูดทุกสายตาของเจษ คือแรงกดดันที่เธอต้องแบกรับคนเดียว กฤตยื่นมือมาจับมือเธอแน่นเสียงเขาเบาแต่มั่นคง “เราอยู่ด้วยกันได้นะยิ้ม…ไม่ว่าใครจะว่าอะไร ฉันจะอยู่ตรงนี้เสมอ” แต่คำพูดนั้นก็ไม่สามารถลบความเจ็บปวดที่เจษเพิ่งฝากไว้ในใจเธอได้ มันเหมือนรอยแผลลึกที่ยังไม่หายดี และทุก