“มึงพูดจริง?” น้ำเสียงต่ำลอดออกมาแผ่วแต่หนัก หนูยิ้มหลบสายตาเขา พยายามสูดลมหายใจกลั้นสะอื้น “จริงเจษ แพรวต่างหากที่นายควรเลือก เธออยู่กับนายมาตลอด รักและซื่อสัตย์กับนาย แต่ฉัน ฉันไม่ควรอยู่ในชีวิตนายด้วยซ้ำ” เจษหัวเราะในลำคอเบาๆ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ซื่อสัตย์? รัก? แล้วที่กูรู้สึกกับมึงนี่มันคืออะไร มันไม่ใช่รักเหรอวะ” หนูยิ้มสะอึกน้ำตาไหลพราก เธอส่ายหน้าให้เจษเบาๆ “มันไม่ใช่ความรัก แต่มันคือความหลงต่างหาก” “แล้วทำไมมึงถึงร้องไห้ขนาดนี้ ถ้ามันไม่ใช่ทำไมต้องเจ็บขนาดนี้วะยิ้ม!” เจษโพล่งออกมา สายตาเหมือนคนกำลังจะขาดใจ หนูยิ้มกดริมฝีปากแน่น ไม่ตอบ แต่ร่างเล็กสั่นสะท้านเหมือนพยายามแบกรับอะไรที่เกินกำลัง เจษจ้องมองภาพตรงหน้านั้นแล้วหัวใจเหมือนถูกบีบแน่น เขาลุกขึ้นจากโซฟา เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าหนูยิ้มอีกครั้ง ร่างสูงกดดันจนเธอต้องเงยหน้าสบตาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “