โรงพยาบาล H
“แต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อยสิใบหม่อน วันนี้เริ่มงานวันแรกตื่นเต้นเนอะในที่สุดก็มาถึงวันนี้”
“ทิชา ในกลุ่มเพื่อนเรามีกัปตันด้วยใช่ป่ะเห็นเค้ามานั่งรอตั้งแต่เช้าแล้ว”
“ย่ะ! เธอก็รู้นี่กัปตันมันชอบเธอใบหม่อนอย่าเผลอใจล่ะ สามีเธอเป็นหมอที่โรงพยาบาลนี้เดี๋ยวก็มีเรื่องหรอก”
“เหอะ! ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันกับหมอเป็นสามีภรรยาเพียงแค่นิตินัย แล้วฉันก็ไม่ใช่สเปกเขา”
“เอาน่า ระวังไว้ดีที่สุด แล้วแกชอบกัปตันไหมล่ะเขาก็หน้าตาดีใช้ได้เลยหล่อเลยแหละ หลายปีมานี้เขาก็วนเวียนอยู่แต่กับแกไม่เลิก”
“หึ! ไม่อ่ะฉันไม่ชอบเพื่อนหรอกแก.... อีกอย่างฉันแต่งงานแล้ว ถ้าจะคบใครก็ต้องหย่าให้จบก่อนมั๊ย”
“อื้อ รีบไปกันเถอะอาทิตย์นี้เราวนวอร์ดไหนสรุปฉันกับแกอยู่ทีมเดียวกันใช่ป่ะ”
“ออร์โธ (ศัลยกรรมกระดูก)”
วันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มต้นทำงานประจำที่โรงพยาบาล เนื่องจากใบหม่อนและเพื่อนสาวจบการศึกษาและได้สมัครงานที่โรงพยาบาลชื่อดังพวกเธอและเพื่อน ๆ ที่มาสมัครต่างได้รับโอกาสในการทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ในตอนแรกใบหม่อนไม่อยากที่จะมาทำงานที่เดียวกับหมอเวธัสแต่ทว่าคุณหมอหนุ่มกลับสนับสนุน เนื่องจากอยากให้เธอทำตามความฝันและไม่ปิดกั้นโอกาส
“ยินดีต้อนรับ การกลับมาของคุณหมอน่านน้ำค่ะ อุ๊ย! ต้องเรียกท่านรองถึงจะถูก” วันนี้ถือเป็นวันกลับมาอย่างเป็นทางการ คุณหมอน่านน้ำนายแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อที่กลับมาพร้อมกับตำแหน่งรองผู้อำนวยการ เหล่าพยาบาลบุคลากรทางการแพทย์ต่างตบเท้าเข้ามากล่าวคำยินดีพร้อมกับมอบช่อดอกไม้ ในสายตาของทุกคนหมอน่านน้ำเป็นหมอที่เก่งแสนดีอันดับหนึ่ง
“ขอบคุณครับ เรียกเหมือนเดิมก็ได้ครับหมอไม่ชิน” ท่ามกลางพนักงานที่รายล้อมใบหม่อนและเพื่อนสนิทที่ยืนดูเหตุการณ์ที่แผนกอยู่นั้น ในขณะที่ใบหน้าของรองผู้อำนวยการหันมาจังหวะที่เธอเห็นหน้าเขาชัดเจน จู่ ๆ ก็รู้สึกเจ็บที่หน้าอกบริเวณหัวใจและเป็นลมไปในทันที
พรึบ!
“ใบหม่อน ๆ ” ทิชารีบพยุงร่างเพื่อนสาวและทำการปฐมพยาบาลทุกคนต่างหันมาสนใจสองพยาบาลน้องใหม่ นาทีนั้นคุณหมอน่านน้ำจึงรีบเดินเข้ามาดูอาการของใบหม่อนทันที
“รีบพาคุณพยาบาลไปที่เตียงเดี๋ยวหมอดูเอง”
“ได้ค่ะ”
เมื่อพาร่างของใบหม่อนมาพักฟื้นโดยมีหมอน่านน้ำดูอาการ และทิชาก็ไม่รอช้ารีบโทรหาคุณหมอเวธัสให้มาดูอาการของเพื่อนสาวในทันที เมื่อเวลาผ่านไปหมอเวธัสจึงรีบตรงมายังแผนกออร์โถเขามาตามหาภรรยาสาวด้วยความเป็นห่วง สีหน้าดูเคร่งเครียดและเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ทันทีที่มาถึงก็พบกับหมอน่านน้ำศัตรูหัวใจที่เคยแย่งเพื่อนสาวที่ตัวเองนั้นแอบหลงรัก จึงไม่พอใจที่เขานั้นดูแลใบหม่อนอยู่
“หมอเวธัสมีอะไรด่วนรึเปล่าครับ ไม่เจอกันนานสบายดีนะ” หมอน่านน้ำทักทายหมอรุ่นน้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดูเป็นมิตรตามมารยาท
“ก็มายินดีกับท่านรองน่ะครับ ได้ข่าวว่าพยาบาลน้องใหม่มาทำงานวันแรกก็เป็นลม หมอรับน้องหนักเกินไปรึเปล่า” ใบหน้านิ่งเรียบเฉยแต่สายตาดุดันแฝงไปด้วยความไม่พอใจ มองหน้าของหมอหนุ่มรุ่นพี่อย่างไม่วางตา
“เหอะ!”
“อ่อ เธอแค่เป็นลมน่ะครับ คุณพยาบาลน้องใหม่ไม่เป็นอะไรมากผมไม่ใจร้ายกับพยาบาลน่ารักแบบเธอหรอก” ทันทีที่ได้ยินเขาชมว่าภรรยาของเขาน่ารัก หมอเวย์กลับยิ่งโกรธและไม่พอใจเขากำหมัดแน่นพยายามสกัดกั้นความโกรธเอาไว้
“พอดีเมื่อสองปีก่อนเธอเคยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ผมเองเป็นแพทย์เจ้าของไข้เธอน่าจะได้รับการตรวจอย่างละเอียด”
“อย่างนี้นี่เองครับ....คุณหมอเวย์ใส่ใจคนไข้ดีขนาดนี้ วันหลังผมต้องไปขอคำชี้แนะล่ะครับ”
“ใบหม่อน! แกฟื้นแล้วเป็นไงมั้ง” ทิชาที่ยืนฟังสองหมอปะทะฝีปากกันเหลือบไปเห็นว่าเพื่อนสาวเริ่มได้สติ จึงรีบเดินเข้าไปหาด้วยความห่วงใย
“ฉันเป็นลมไปเหรอ....เมื่อกี้รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ”
“ใบหม่อนเธอเจ็บตรงไหน หมอเวย์มานี่แล้ว” ทันใดนั้นหมอเวย์ก็รีบเดินเข้ามาตรวจเช็คอาการของเธอเพื่อให้เกิดความแน่ใจ เมื่อใบหม่อนเห็นหน้าของหมอน่านน้ำเธอกลับรู้สึกคุ้นเคยและรู้สึกผูกพันปะปนไปด้วยความเจ็บแค้น ทุกอย่างปะเดปะดังเข้ามาอย่างท่วมท้นอย่างน่าประหลาดใจดวงน้อยนั้นเต้นรัวจนหมอเวย์นั้นต้องตกใจ
“เธอกลัวอะไร ทำไมหัวใจเต้นแรงแบบนี้ รู้สึกเจ็บใช่ไหมใจสั่นรึเปล่ารีบไปกันเถอะ”
“เจ็บ จู่ ๆ มันก็เจ็บแบบไม่มีสาเหตุ” สายตาของใบหม่อนที่มองดูใบหน้าของหมอน่านน้ำจู่ ๆ น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวความ รู้สึกที่เป็นอยู่ในตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมมันได้และรู้สึกไม่เป็นตัวเอง
“ไม่เป็นไร....ฉันอยู่นี่ไม่ต้องกลัว”
“หมอเวย์....”
“รีบพาเธอไปยังแผนกหัวใจคนไข้มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เร็วเข้า!”
“ค่ะ หมอเวย์”
หลังจากที่ใบหม่อนถูกนำตัวไปรักษาโดยหมอเวย์นั้นเป็นคนจัดการ หมอน่านน้ำที่งุนงงและสับสนท่าทางของหมอเวย์ดูห่วงใยใส่ใจพยาบาลน้องใหม่เป็นพิเศษ และที่สำคัญสายตาของเธอที่เอาแต่จ้องมองตัวหมอน่านน้ำมันเป็นแววตาที่ตัดพ้อและว่างเปล่า เฉกเช่นเดียวกับแววตาที่เขานั้นคุ้นเคยนั่นก็คือแววตาของคุณหมอสายรุ้ง ที่มองเขาก่อนที่เธอจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองต่อหน้าเขาเมื่อสองปีก่อนมันยังคงติดตา ทันทีที่นึกได้ดังนั้นเขารีบสลัดความคิดนั้นทิ้งเพราะเกิดความกลัวเข้ามาเกาะกุมหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
“คิดมากเกินไปรึเปล่า....พยาบาลคนนั้น”
แผนกหัวใจ
ท่ามกลางความว่างเปล่าใบหม่อนยืนเค้งคว้างในสถานที่แห่งหนึ่งไร้ซึ่งผู้คน มีเพียงม่านหมอกจาง ๆ ปกคลุม เธอหวาดกลัวพยายามเดินฝ่าม่านหมอกนั้นเพื่อหาทางออกหันไปมองรอบตัวปรากฏภาพหญิงสาว ในชุดกาวน์สีขาวเธอยืนยิ้มให้กับใบหม่อนท่าทางดูใจดี
“คุณหมอคะ พอดีฉันหลงทางไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน”
“..............”
“คุณเป็นหมอที่โรงพยาบาลนี้หรือเปล่าคะ เราเคยรู้จักกันมาก่อนไหม ฉันเหมือนเคยเห็นคุณจากที่ไหน”
“ฉันอยู่กับเธอ.....อยู่กับเธอมาตลอด” ใบหน้าสวยของคุณหมอสาวยิ้มและบอกกับใบหม่อน คำตอบของคุณหมอสาวทำเอาใบหม่อนงุนงง
“คุณหมอคะ นี่ฉันตายแล้วเหรอทำไมที่นี่ถึงมีแค่เรา”
“พรนับพรรณเธอช่วยใช้ชีวิตแทนฉันที....ดูแลหัวใจของฉัน ใช้มันรักหมอเวธัสให้มากที่สุด”
“คุณเป็นใคร”
“สักวันเธอจะรู้เอง......”
“เดี๋ยวค่ะคุณหมออย่าเพิ่งไป”
“ใบหม่อน ๆ ได้ยินฉันไหม เธอหลับนานเกินไปแล้วนะ” เสียงทุ้มเรียกให้คนที่นอนหลับไม่ได้สติหลายชั่วโมงสอง มือยังคงกอบกุมมือของเธอแน่น คุณหมอหนุ่มที่ดูเป็นกังวลกับอาการของภรรยาสาวเขาตรวจดูอาการอย่างละเอียดก็ไม่พบความผิดปกติใด
“คุณหมอ อย่าเพิ่งไป.....” เสียงตะโกนเบา ๆ เรียกอยู่ในลำคอ หมอเวธัสจึงพยายามฟังเขาก็อดสงสารภรรยาสาวไม่ได้ที่เธอละเมอบอกให้เขาไม่ให้ไปจากเธอ ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเธอนั้นเพ้อหาตัวเองอันที่จริงเธอแค่ฝันเรียกคุณหมอสาวปริศนาในความฝันเท่านั้น
“ฉันอยู่นี่ไม่ได้ไปไหน อย่ากลัวเลย” มือหนาที่ยังกอบกุมมือเล็กเอาไว้เลื่อนไปเช็คคราบน้ำตาให้อย่างลืมตัว และลืมไปว่าเพื่อนสาวของใบหม่อนยังอยู่ในห้องด้วย
“กรี๊ดดดดดด!” ทันใดนั้นร่างบางก็สะดุ้งตัวโยนร้องลั่นห้องเธอกรีดร้องด้วยความกลัวลุกขึ้นมาจากเตียง หมอเวย์จึงรีบลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงและกอดร่างของภรรยาเอาไว้
“ใบหม่อน ฉันอยู่นี่”
“ฮือ ๆ หมอเวย์” ใบหน้าสวยลืมตาขึ้นร้องไห้กระซิกในอ้อมอกของคุณหมอผู้เป็นสามีเขาปลอมประโลมเธอด้วยความเป็นห่วง เมื่อได้สติจึงรีบเอาตัวเองออกมาจากอ้อมแขนแกร่งแล้วเล่าความฝันให้เขาฟังเธอจำได้ดี
“ฉันฝันร้ายค่ะ ฝันว่าตัวเองตกลงจากที่สูง ในฝันฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนมองฉันอยู่มันเลือนรางมาก”
“คงเพราะเธอมีไข้ อาการทั่วไปไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนอนพักสักคืนสองคืนก็คงหาย”
“แล้วงานล่ะคะ ฉันเพิ่งจะทำงานวันนี้วันแรก”
“เรื่องนั้นฉันจัดการเองไม่ต้องกังวลหน้าที่เธอคือกินยาและพักผ่อน”
“คิ! คิ!” เสียงหัวเราะคิกคักของทิชาดังขึ้นเธออยู่กับหมอเวย์และใบหม่อนตลอดเวลา เห็นทุกอย่างที่หมอเวย์ทำให้เพื่อนสาว และรู้ได้ในทันทีว่าหมอเวย์นั้นห่วงใยใส่ใจภรรยาสาวมากมายเพียงใด มันขัดกับสิ่งที่ใบหม่อนบอกว่าหมอเวย์นั้นไม่สนใจเธอ
“ทิชา แกอยู่ตรงนี้ด้วยเหรอ”
“อื้ม ใจหายใจคว่ำหมด แกอย่าเป็นลมแบบนี้อีกนะฉันใจคอไม่ดีเลย หมอเวย์เป็นคนอุ้มแกขึ้นเตียงย้ายมาแผนกนี้”
“ฮ่ะ” ใบหน้าสวยทำตาโตเธอตกใจที่ทิชาพูดและไม่อยากจะเชื่อ เพราะร้อยวันพันปีหมอเวย์จะไม่แตะต้องตัวเธอ วันนี้เขาดูแปลกไปทั้งกอดและปลอบใจเธอท่าทางอบอุ่นใจดีไม่เย็นชาเหมือนเมื่อก่อน
“ทิชา คุณไม่ต้องเล่าหรอกผมเป็นหมอมันคือหน้าที่จะทนเห็นคนตายต่อหน้าได้ยังไง” เสียงเข้มแทรกขึ้นมาเอ่ยบอกเขามีท่าทางเสียอาการและทำหน้าเรียบจากนั้นก็เดินออกไปในทันที ทว่าหลังจากที่เดินหันหลังให้ทั้งสองสาวนั้นกลับมีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าหล่อเหลานั้น
“แฮร่ ๆ นิดเดียวเองค่ะหมอเวย์”
ปังงง!
ทันทีที่เสียงประตูปิดลงทิชาจึงรีบเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ใบหม่อนฟังยิ่งทำให้เธอกลับรู้สึกสับสน ในท่าทางของหมอเวธัสและนึกถึงเหตุการณ์ในความฝันและอาการใจสั่นเวลาเจอหน้าหมอน่านน้ำ คำพูดของหมอผู้หญิงในฝันที่บอกให้เธอรักกับหมอเวธัสทุกอย่างเป็นปริศนา ที่เธอนั้นอยากจะหาคำตอบ