บทที่ 7 อาสาดูแล

1530 คำ
หนึ่งเดือนเต็มที่ใบหม่อนเข้ารับการรักษาตัวอาการของเธอดีขึ้นตามลำดับ ในทุกวันเธอจะเจอหมอเวธัสเสมอเขาดูแลใส่ใจเธอ และคอยส่งสายตาอ่อนโยนเหมือนมีนัยแอบแฝงจนเธอเองก็เริ่มรู้สึกได้ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ต้องออกจากโรงพยาบาล พ่อและแม่ต่างกังวลกับค่ารักษาพยาบาลที่เป็นจำนวนมหาศาล แม้จะได้รับการบริจาคหัวใจแต่ค่าบริการอื่น ๆ นั้น เป็นตัวเลขที่พ่อนั้นต้องกุมขมับเพราะเงินที่มีอยู่ทั้งบ้านไม่เพียงพอที่จะมาจ่าย “พ่อไม่มีใครให้เรายืมเลยเหรอ บ้านเราก็ติดจำนองสมบัติที่มีเราก็ขายมันจนหมดแล้ว” แม่นั่งก้มหน้าเมื่อเห็นใบเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากพ่อที่เอาแต่นั่งเหม่อหน้าห้องฝ่ายการเงิน “เราไปขอผ่อนผันกับทางโรงพยาบาลจะได้ไหมแม่ พ่อจะลองไปขอร้องเค้าดู” “พ่อ ฮือ ๆ เงินที่พ่อบอกว่าเอาไปลงทุนซื้อหุ้นถอนมันมาช่วยค่ารักษาพยาบาลลูกเถอะ” “ฮึก!” พ่อได้ยินเรื่องหุ้นที่เขาลงทุนหลักแสนถึงกับสะอึกเพราะเขาไม่เก่งด้านนี้และขาดทุนย่อยยับ “พ่ะ...พ่อขอโทษหุ้นที่พ่อเกร็งกำไรมันขาดทุนยับเลย” “ว่าอะไรนะ! เงินหลักแสนหายไปกับตาพ่อ.....ทำแบบนี้ได้ยังไง ฮือ ๆ ๆ” แม่นั่งร้องไห้เสียใจที่รู้ความจริงเกี่ยวกับการลงทุนที่ล้มเหลวของสามี ทั้งคู่มีปากเสียงกันจนหมอเวธัสที่กำลังเดินผ่านมากับพยาบาลจึงเข้ามาถาม “ญาติคนไข้มีอะไรให้หมอช่วยรึเปล่าครับ คุณพยาบาลเสร็จงานแล้วหมอขอคุยกับญาติคนไข้สักครู่” “ค่ะ” “ฮึก! ไม่มีอะไรครับคุณหมอภรรยาผมเธอแค่หงุดหงิดเล็กน้อย วันนี้เป็นวันที่ลูกสาวเราจะได้กลับบ้านครับ” “อ่อ จริงสิครับ หมอคงคิดถึงคนไข้กับคุณทั้งสองคนมากเลยหนึ่งเดือนเต็มที่เราเจอกันทุกวัน พอดีหมอว่างเราไปนั่งดื่มกาแฟด้วยกันนะครับ” หมอเวย์ชวนพ่อและแม่ของใบหม่อน มานั่งกินกาแฟที่ร้านในโรงพยาบาลอย่างเป็นมิตร “ตามสบายนะครับหมอขอดูแลญาติคนไข้เอง จะเป็นไรไหมถ้าหมอจะขอเรียกว่าคุณพ่อ คุณแม่” “ได้ค่า....หมอน่ารักอยากให้เป็นลูกพวกเราจริง ๆ ด้วยซ้ำ” แม่ที่ชอบหมอเวธัสอยู่แล้วดีใจรีบตอบรับเธอยินดีที่จะให้เขาเรียกว่าแม่ “คือขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ ได้ยินที่พวกคุณคุยกันหมดแล้วเอางี้ไหมครับ ค่ารักษาลูกสาวของคุณพ่อคุณแม่หมอขอเป็นคนจ่ายให้ทั้งหมด” “ท่ะ....ทำไมครับหมอ” คนเป็นพ่อตกใจทันทีที่จู่ ๆ คุณหมอหนุ่มอาสาจ่ายค่ารักษาพยาบาลหลักล้านให้กับลูกสาว “คือว่า.......” ใบหน้าหล่อกรอกสายตาไปมาเขาอึกอักที่จะพูดบางอย่าง “หมอมีอะไรก็พูดมาตรง ๆ ได้เลยครับ พวกเราไม่รบกวนคุณหมอหรอกเกรงใจ” “ใช่ค่ะ หมอมันไม่ดีหรอกค่ะ เดี๋ยวแม่กับพ่อจะไปขอผ่อนกับโรงพยาบาลเอง” “ไม่ต้องครับ คือผมอยากดูแลลูกสาวของคุณพ่อคุณแม่และอยากจะแต่งงานกับเธอ” (“...........”) “ต่ะ! แต่งงาน นี่หมอจะแต่งงานกับใบหม่อนลูกสาวเราเหรอคะ แม่งงไปหมดแล้ว” แม่ที่ทำหน้ามึนจะเป็นลม พ่อจึงรีบหยิบยาดมและประคองเอาไว้เขาเองก็หวงลูกสาวเช่นกัน และคิดไม่ถึงว่าคนอย่างหมอเวธัสอยากแต่งงานกับลูกสาวของตน “หมอพวกเราไม่ตลกนะครับ ยอมรับว่าผมกับภรรยาชื่นชอบในตัวคุณหมอ เพราะหมอเป็นคนเก่งอนาคตไกลทุกอย่างของหมอมันเพอร์เฟกต์เกินไป ที่จะลดตัวมาคบกับลูกสาวเรา” สายตาจริงจังของพ่อมองไปที่ใบหน้าของคุณหมอหนุ่ม ที่อยากจะฝากตัวเป็นลูกเขยด้วยความข้องใจ “ผมจริงจังนะครับ ผมโสดและพร้อมทุกอย่างมันคงจะดีมาก ถ้าการแต่งงานกับเจ้าสาวที่ผมเป็นคนเลือกเอง เรื่องการเป็นอยู่ของลูกสาวคุณพ่อไม่ต้องกังวลไปเธอยังเรียนไม่จบ แต่งกันแบบไม่ต้องเปิดเผยก็ได้ไม่ต้องกังวลผมจดทะเบียนสมรสทันที และจะดูแลเธอทุกอย่างรวมทั้งสุขภาพของเธอ” “เอ่อ...เราขอปรึกษาลูกสาวก่อนจะได้ไหมคะคุณหมอ ถ้าแกไม่อยากแต่งพวกเราก็ไม่บังคับลูกค่ะ” “ผมวิงงอนล่ะครับ อาจจะดูเร็วไปหน่อยและดูแปลก ๆ แต่ผมอยากแต่งกับเธอจริง ถ้าเธอยังไม่พร้อมจะทำหน้าที่ภรรยาผมก็ไม่ขัด ขอแค่หลังแต่งงานเธอย้ายมาอยู่กับผมเท่านั้นเหตุผลของผมคือไม่อยากแต่งกับคนที่พ่อแม่หามาให้ครับ” “อ่อ งานแต่งทางการเมืองสินะ หมอคิดดีแล้วใช่ไหม ใบหม่อนจะต้องเจอกับการไม่ยอมรับของครอบครัวหมอลูกสาวเราจะอยู่อย่างยากลำบากชีวิตหลังแต่งงานที่ไม่ราบรื่น” “เรื่องนั้นตัดไปได้เลย ผมสัญญาว่าจะปกป้องเธอไม่ให้ใครมาดูถูกภรรยาผมแน่นอนแม้แต่พ่อกับแม่” “ถ้าหมอสัญญาผมก็วางใจ เราจะไปคุยกับแกให้นะครับขอบคุณหมอที่ไม่รังเกียจครอบครัวเรา” “ขอบคุณมากครับคุณพ่อคุณแม่ช่วยพูดกับเธอให้ผมทีนะครับ เรื่องค่ารักษาพยาบาลไม่ต้องเกรงใจผมยินดีและเต็มใจมากครับ” หมอหนุ่มรีบยกมือไหว้ทั้งสองสามีภรรยาอย่างอ่อนน้อม เขาดูดีใจและแสดงอาการตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด พ่อและแม่ของใบหม่อนที่รับไหว้ก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดูหมอเวธัสไม่น้อย ที่เขานั้นไม่อยากแต่งงานกับสาวที่พ่อแม่นั้นเลือกให้ เมื่อมาถึงห้องพักของลูกสาวแม่และพ่อต่างยิ้มแย้มมีความสุข วันนี้เพื่อนสนิทของใบหม่อนอาสาขับรถมารับเธอออกจากโรงพยาบาล ก่อนกลับหมอเวธัสฝากช่อดอกไม้ให้กับเธอและการ์ดใบเล็กเขียนโน้ตข้อความเอาไว้ “แล้วเจอกันอีกเร็ว ๆ นี้นะครับ เวธัส” ใบหม่อนที่รับช่อดอกไม้จากพนักงานเธออ่านข้อความและยิ้มแก้มปริ รู้สึกเขินเพราะไม่เคยมีใครมอบช่อดอกไม้ให้แบบนี้ ทิชาเพื่อนสนิทจึงหยิบการ์ดในมือของเพื่อนสาวที่กำลังยืนยิ้มเหมือนอยู่ในภวังค์ราวกับว่าเธอถูกร่ายมนต์สะกด “แล้วเจอกันอีกเร็ว ๆ นี้นะครับ เวธัส กรี๊ดดดดด! ใครกันเขาคือใคร” “เอ่อ คุณหมอเจ้าของไข้น่ะไม่มีอะไร” ใบหน้าสวยที่วันนี้ดูสดใสเปล่งปลั่ง เผลอยิ้มออกมาจนพวงแก้มทั้งสองข้างนั้นแดงลามไปถึงใบหูเล็ก มีเลือดฝาดจนเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังเขินอาย “ใบหม่อนแกกำลังมีคุณหมอมาจีบ เพื่อนฉันโชคดีอะไรแบบนี้ทั้งได้หัวใจใหม่ และกำลังจะมีแฟนเป็นหมอด้วยดีจังเลย” “แกก็ว่าไปทิชา....หมอคงใจดีกับคนไข้ทุกคนแหละ เรารีบกลับบ้านกันเถอะคิดถึงบ้านจะแย่แล้ว” “นี่! ฉันพลาดอะไรไปรึเปล่าเนี่ย” “เปล่าซักหน่อยกลับกันได้แล้ว” “จ้า เขินจนหูแดงแล้วแม่คุณโอ๊ย! อยากจะเห็นหน้าหมอคนนั้นแล้วสิ ทำเพื่อนฉันเขินขนาดนี้ต้องสืบให้รู้ความเขาหล่อมากไหมอ่ะ มาไม่เคยเจอเลย” เมื่อกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยพ่อและแม่จึงถือโอกาสบอกเรื่องราวทั้งหมด เกี่ยวกับหมอเวธัสให้ลูกสาวฟังหลังจากที่ทิชานั้นกลับบ้านไป ใบหม่อนได้แต่อึ้งและเธอเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับหมอเวธัส เนื่องจากไม่เคยรู้จักนิสัยใจคอ แม้จะชอบเขาที่ดูหล่อเหลาและดูสุภาพแต่เธอก็บอกปฏิเสธไป “หนูไม่อยากแต่งงานค่ะ พ่อแม่ไม่บังคับหนูใช่ไหมคะ” “ไม่บังคับหรอกลูกรัก แต่เราติดหนี้หมอเวธัสเรื่องค่ารักษาหนึ่งล้านกว่าบาทพ่อกับแม่จะหาเงินไปใช้เขาเองจ๊ะ” “หนึ่งล้าน ทำไมมันมากมายขนาดนี้....” “ไม่เป็นไรใบหม่อนพ่อผิดเองพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่เอาไหน พ่อเอาเงินเก็บบ้านเราไปลงทุนหุ้นแล้วมันขาดทุน บ้านของเราก็ติดจำนองหมอเวธัสเขาแค่อยากช่วยตอนนั้นพ่อคิดน้อยไปหน่อย แค่อยากให้ลูกได้กลับบ้านเร็ว ๆ” “หนูจะไปคุยกับเขาค่ะ หมอดูเป็นคนใจดีคงจะให้โอกาสเรานะคะ พ่ออย่าโทษตัวเองแบบนั้นพ่อกับแม่ที่ทำลงไปเพราะรักหนูทั้งนั้น” “แล้วหนูจะทำยังไงล่ะใบหม่อน” “หนูจะทำงานพิเศษค่ะ ตอนนี้หนูไม่ใช่เด็กอ่อนแอขี้โรคแล้วหนูสบายดีค่ะแม่” “ไม่ได้นะลูก.....หมอบอกแม่ว่าหนูห้ามทำงานหนักตั้งหกเดือน แล้วไหนจะเรื่องเรียนอีก” “นะคะแม่หนูจะทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่อยจ่ายคืนหมอไปหนูสบายดี” “โธ่! ลูกสาวแม่เอางั้นก็ได้จ๊ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม