โรงพยาบาล H
“ใบหม่อนลูกรัก ฟื้นแล้วเหรอลูก”
“พ่อ! ลูกฟื้นแล้วรีบตามพยาบาลกับหมอมาที”
“โธ่! ลูกสาวคนสวยพ่อดีใจที่สุด”
หลังจากที่ตื่นขึ้นมาแม่และพ่อของใบหม่อน สาวน้อยหน้าใสวัยยี่สิบต่างดีใจเข้ามาจับมือและเรียกชื่อลูกสาวเพียงคนเดียว
เมื่อพยาบาลและหมอเดินเข้ามาดูอาการเป็นครั้งแรก ที่ใบหม่อนเห็นหน้าหมอประจำตัวเธอตกตะลึงในความหล่อเหลาของเขา คุณหมอหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวสะอาดรูปร่างสูงใหญ่เหมือนดารานายแบบ ผิวพรรณดีสะอาดภูมิฐานใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ทุกสัดส่วนเครื่องหน้านั้นเหมือนภาพวาดเทพบุตรบนผืนผ้าใบ ได้มุมและองศาที่เหมือนไม่มีอยู่จริงมันเกินที่เธอจะจินตนาการ
“คนไข้ตอบสนองกับหัวใจดวงใหม่ได้ดีถือว่าฟื้นตัวไว จากนี้ต้องพักฟื้นอีกหลายวันเพื่อติดตามอาการญาติคนไข้มีอะไรอยากจะถามอีกไหมครับ” น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลบอกกับพ่อและแม่ของใบหม่อนอย่างเป็นมิตร นี่เป็นครั้งแรกที่หมอเวย์เจอใบหม่อนตอนที่เธอนั้นมีสติ
“คุณหมอครับ พวกเราขอบคุณหมอมากที่ทำให้ลูกสาวเราได้มีชีวิตอยู่ต่อ”
“ใช่ค่ะคุณหมอ ดิฉันซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากพวกเราไม่รู้จะตอบแทนหมอยังไง”
“คนที่พวกคุณควรตอบแทนไม่ใช่หมอ..... แต่เป็นคนที่บริจาคหัวใจดวงนั้นต่างหาก” เมื่อพูดจบหมอหนุ่มก็มีสีหน้านิ่ง แววตาสั่นวูบไหวไม่เหมือนกับตอนแรกทำให้ทุกคนต่างเงียบ
(“............”)
“เอ่อ พวกเราเป็นหนี้บุญคุณเจ้าของหัวใจค่ะ ขอให้ดวงวิญญาณผู้ใจบุญสงบสุขอยู่บนสรวงสวรรค์ ครอบครัวเราไม่มีอะไรจะตอบแทนเลยค่ะ ฮึก! ฮึก!” ผู้เป็นแม่ร้องไห้เพราะซึ้งใจต่อผู้มีพระคุณแม้จะไม่รู้ว่าหัวใจดวงนี้ใครเป็นผู้ให้ เพราะเป็นจรรยาบรรณของแพทย์และเป็นข้อตกลงของผู้บริจาค
“ตอบแทนด้วยการใช้ชีวิตแทนเธอ เจ้าของหัวใจผู้ล่วงลับจะยินดีมาก” หมอเวย์เหลือบสายตาคมภายใต้แว่นสายตามองไปที่ดวงตาอันสดใสของใบหม่อน เธอตกใจและไม่สามารถตอบเขากลับได้ทำได้เพียงพยักหน้าเบา ๆ ตอบรับ
“ได้ยินไหมใบหม่อน ลูกต้องใช้ชีวิตให้ดีนะทำตามที่คุณหมอบอกด้วย”
หลังจากที่คุณหมอหนุ่มและพยาบาลสาวได้เดินจากไป พ่อและแม่ก็ได้แต่ชื่นชมในความสามารถและทัศนคติรูปร่างหน้าตาบุคลิกของเขาไม่ขาดปาก
ใบหม่อนที่นอนฟังอยู่เธอเองก็รู้สึกประทับใจในตัวคุณหมอเช่นกัน แม้จะเข้าออกโรงพยาบาลนี้มาหลายปีแต่เธอก็ไม่เคยเจอกับคุณหมอท่านนี้เลยสักครั้ง น่าแปลกเพียงแวบแรกที่เห็นหน้าหมอเธอกลับรู้สึกผูกพันอย่างประหลาด รู้สึกอบอุ่นปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก
“พ่อ....แม่ชอบคุณหมอคนนี้จังเลย เค้าชื่อเว ๆ อะไรนะ”
“เวธัส ณ พัสกร”
“ณ พัสกร นี่นามสกุลของท่านรองนายก เวธนิน ณ พัสกร อุ๊ปส์! รึว่า......”
งึก ๆ ผู้เป็นพ่อพยักหน้าตอบรับในสิ่งที่แม่คาดเดาว่าหมอเวธัสนั้นเป็นลูกหลานใคร เพราะในประเทศนี้ไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลใหญ่สายนักการเมืองดังนี้
“ใช่แล้วแม่ ลูกชายคนเดียวของท่านรองนายกเองเขาเป็นหมอประจำโรงพยาบาลนี้”
“โอ๊ย! มิน่าล่ะ ถึงหน้าตาดีฉลาดกิริยามารยาทไม่เหมือนคนทั่วไปเขาเลี้ยงลูกมาดีนะพ่อ”
“นั่นน่ะสิ นี่แม่ก็ชมหมอเวธัสทุกวี่ทุกวันปลื้มขนาดนี้ไม่ขอมาเป็นลูกเขยเลยล่ะ”
“เป็นความคิดที่ดีนะพ่อ คิ!คิ!”
ใบหม่อนได้แต่นอนส่ายหน้าฟังที่พ่อและแม่พูดคุยกัน ถ้าเธอไม่เจ็บอยู่คงจะค้านแม่ทันทีร้อยวันพันปีแม่และพ่อไม่เคยพูดเรื่องแฟนและห้ามไม่ให้เธอคบกับใคร เพราะหวงลูกสาวที่อ่อนแอขี้โรคคนนี้มากและตัวเธอเองก็ไม่เคยจะได้ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
เธอถูกดูแลประคบประหงมมาตั้งแต่แบเบาะเนื่องจากโรคที่เป็นอยู่ แม้ฐานะครอบครัวจะไม่ได้ดีมากแต่เธอก็ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ครอบครัวหามาได้ ก็หมดไปกับการดูแลรักษาใบหม่อน ซึ่งเสาหลักของบ้านอย่างพ่อเป็นเพียงพนักงานบริษัทธรรมดา ๆ และแม่เป็นแม่บ้านที่ดูแลลูกสาวกับสามี
หลายวันต่อมา
หลังจากจัดการกับงานศพของหมอสายรุ้งหมอเวย์และหมอนุชา ยังข้องใจกับผลการชันสูตรศพทางตำรวจปิดคดีว่าเป็นอุบัติเหตุ เนื่องด้วยหมอสายรุ้งไม่มีญาติจึงไม่มีคนติดใจเอาความ และทั้งสองหมอก็หาหลักฐานมายืนยันโต้แย้งไม่ได้ ส่วนหมอน่านน้ำก็ได้เดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศกำหนดการกลับมาก็ในอีกสองปี
“หักห้ามใจซะบ้างไอ้เวย์ ตั้งแต่ที่รุ้งจากไปสภาพมึงก็เหมือนศพเดินได้ กูไม่อยากเสียเพื่อนไปอีกแล้วว่ะ” หมอนุชาหยิบแก้วเหล้าจากมือหมอเวย์แล้วกระดกขึ้นมาดื่มแทน เนื่องจากเห็นสภาพเพื่อนรักในตอนนี้เขาอดเป็นห่วงไม่ได้
“เหอะ! กูไม่เชื่อว่ารุ้งจะฆ่าตัวตาย”
“เวย์หลักฐานอะไรก็ไม่มี มึงจะทำอะไรได้”
“กูจะใช้เส้นสายพ่อสืบเรื่องนี้เอง คนที่กูสงสัยตอนนี้ปล่อยมันเสวยสุขไปก่อน”
“ใคร มึงช่วยบอกกูได้ไหมกูไหว้ล่ะ สายรุ้งก็เพื่อนกูนะเว้ย!”
“คนที่กูเกลียดในโรงพยาบาลนี้ไงล่ะ พ่อพระของทุกคน”
“เฮ้ย! มึงจะใส่ความพี่น่านน้ำไม่ได้นะเพื่อนไม่ชอบขี้หน้าเขาก็ไม่ควรกล่าวหาเขาแบบนี้”
“สายรุ้งคบกับมัน”
“ฮ่ะ! จะเป็นไปได้ยังไงนอกจากมึงสายรุ้งก็ไม่เคยดีกับใครหรือชอบใครเลยนี่ ถ้าคบกันเธอต้องบอกเพื่อนอย่างพวกเราสองคนสิ”
“หึ! ในวันนั้นวันเกิดกูสายรุ้งนัดเจอมันที่บันไดหนีไฟ ทั้งสองคนนั้นกำลังมีอะไรกัน” หมอเวย์เล่าไปหัวเราะแสยะยิ้มไปทั้งน้ำตา เขาเมามายและอยากจะลืมเรื่องราวทั้งหมดทำได้เพียงแค่ระบายให้หมอนุชาฟัง
“พระเจ้า! สายรุ้งเธอไม่น่าจะ.....”
“อืม กูก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่กูเห็นมันมากับตาสายรุ้งกับมันพลอดรักกัน ฮ่ะ ฮ่ะ เซอร์ไพรส์ไหมล่ะมึง”
“เชี่ย! ไอ้เวย์กูสงสารมึงว่ะ เวรกรรมอะไรของมึงวะกูชักไม่มั่นใจไอ้หมอน่านน้ำแบบมึงซะแล้วสิ”
“พ่อมันเป็นเจ้าของโรงพยาบาล หลักฐานพยานทุกอย่างถูกทำลายหมด ผลชันสูตรก็ไม่รู้ว่าจะจริงแท้แค่ไหน สายรุ้งไม่ใช่คนประมาทเธอฉลาดและรอบคอบมันไม่ใช่อุบัติเหตุ” แววตาดุดันมองไปที่แก้วเหล้าในมือ หมอเวย์ยังคงปักใจเชื่อว่าหมอน่านน้ำมีส่วนรู้เห็นในการตายของหมอสายรุ้ง
“คนที่อยู่กับสายรุ้งเป็นคนสุดท้ายก็คือมันนุ กูคิดอย่างอื่นไม่ได้เพราะเวลาตายของเธอห่างจากเวลาที่กูเจอพวกเขาไม่ถึงชั่วโมง”
“อืม.....มันก็อาจจะเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ นอกจากพวกนั้นจะทำลายหลักฐานและสร้างพยานเท็จ”
“ระดับพวกมันจะทำยังไงก็ได้ ยิ่งสายรุ้งไม่มีญาติคดีเลยปิดง่าย ๆ แค่บอกว่าเป็นอุบัติเหตุเพราะไม่มีแรงจูงใจว่าเธอจะฆ่าตัวตาย”
“มึงทนได้ยังไงวะ ถ้าเป็นกูคงทนเห็นภาพบาดตาตอนคนที่รักไปมีอะไรกับคนอื่น แล้วเธอก็ดันมาตายอีกไอ้เวย์ตายในวันเกิดมึงซะด้วย มิหนำซ้ำมึงยังเป็นคนผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจของสายรุ้งให้กับคนไข้อีกมันอะไรกันวะเนี่ย....”
“หึ! อย่างน้อยกูก็ยังเหลือหัวใจของสายรุ้งนี่มันยังอยู่ เธอไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์สักหน่อย”
“มึงเพี้ยนไปรึเปล่า หัวใจก็บริจาคไปให้คนอื่นแล้ว มึงนั่นแหละควักแล้วเย็บเองกับมือ”
“ใช่ กูจะแต่งงาน”
“แค่ก ๆ” หมอนุชาถึงกับสำลักเหล้าลงคอน้ำหูน้ำตาไหลพราก ที่ได้ยินหมอเวย์บอกว่าเขากำลังจะแต่งงาน
“กับใครคนที่พ่อแม่มึงจับคลุมถุงชนเหรอ ลูกสาวไฮโซบ้านไหนล่ะ”
“กับคนไข้ที่รับหัวใจจากสายรุ้งไง”
“ไอ้เวย์ มึงบ้ารึเปล่ามึงคิดอะไรอยู่”
“เออ มึงแค่รอเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวก็พอที่เหลือกูจัดการเอง ไม่เกินความสามารถของกูหรอก”
“ไอ้บ้า....มึงจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักกัน เพราะในตัวเธอมีหัวใจของคนที่มึงรักผู้หญิงเค้าจะโอเคเหรอวะ ไม่ได้รักไม่ได้ชอบกันสักหน่อย”
“หน้าอย่างกู.....รักไม่ลงก็เป็นผู้หญิงที่แปลกแล้วมั๊ย กูไม่ดีตรงไหนเธอจะอยากแต่งกับกูจนตัวสั่นเสียมากกว่า”
“ถ้าหากผู้หญิงคนนั้นมีคนรักแล้วล่ะ มึงจะแย่งเค้ามางี้?”
“ยัยเด็กนั่นโสด กูสืบข้อมูลมาหมดแล้วทางสะดวก พ่อแม่หล่อนก็ดูชอบกูดีออกเข้าทางนั้นง่ายเลย”
“เออ ๆ อย่าไปผิดลูกผิดเมียใครเข้าล่ะ กูล่ะปวดหัวกับมึงซะจริง ๆ”