เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น
“สวัสดีนุเวย์ วันนี้อ่วมเลยผ่าตัดเคสที่สี่คงจะดึก ไม่ไหวยังไงก็สุขสันต์วันเกินนะหมอเวย์ รุ้งมีของขวัญจะให้ด้วยแหละ” หมอเวย์ยิ้มกริ่มในวันเกิดเขาจะมีหมอสายรุ้งและหมอนุชาอยู่ร่วมฉลองอวยพรวันเกิดเหมือเช่นทุกปี หมอคนสวยจะให้ของขวัญเขาเสมอเช่นกัน
“ไม่เห็นต้องลำบากเลยสายรุ้ง”
“ลำบากอะไรกันเล่า นี่มันก็ปีที่เท่าไหร่แล้วนะ” คุณหมอสาวยกนิ้วขึ้นมานับ เพราะทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ม.ปลายยันเป็นหมอและทำงานที่เดียวกัน
“รุ้งไม่พอหรอกเอานิ้วเท้าเราไปนับด้วย.....” หมอนุชาที่ติดตลกแกล้งหยอกเพื่อนรักทั้งสองคน
“เดี๋ยวเถอะ ไอ้หมอโรคจิต” หมอเวย์รีบด่าหมอนุชาทั้งสามคนต่างหัวเราะกันอย่างสนุกสนานในวันนี้เป็นวันสำคัญ หมอเวย์กับหมอนุชามีแผนการบางอย่างที่นอกเหนือจากวันเกิดปีนี้ เขาอยากได้ของขวัญชิ้นพิเศษมอบให้ตัวเองนั่นก็คือการสารภาพรักกับหมอสายรุ้ง
Rrrrrrrrrr
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของคุณหมอสาวก็แผดดังขึ้น คุณหมอสาวรีบหยิบมือถือขึ้นมาอ่านดูสายที่โทรเข้ามาทำให้เธอเผลอยกยิ้มที่มุมปากดวงตากลมโตฉายแววเป็นประกายแสดงถึงความดีใจ จนสองหมอหนุ่มเพื่อนสนิทถึงกับลอบมองด้วยความสงสัย จากนั้นก็รีบตัดสายทิ้งไปพร้อมกับล่ำราสองหมอเพื่อนสนิทอย่างรีบร้อน
“เอ่อ เรามีธุระด่วนเดี๋ยวรีบตามไปที่ร้านนะหมอเวย์ วันนี้จะฉลองให้เต็มที่เลยกับมิตรภาพของเรา หมอนุตามหมอเวย์ไปก่อนขอเวลาไม่เกินสองชั่วโมงจ๊ะ”
“ได้ เดี๋ยวสายรุ้ง....เรารอเธอที่ร้านประจำนะ วันนี้แต่งตัวให้สวยที่สุดด้วยวันเกิดเวย์ทั้งที” มือหนาจับที่ข้อแขนเล็กรั้งไม่ให้ไปก่อนจะเอ่ยบอกเพื่อนสาว ใบหน้าหล่อเหลาของหมอเวย์ดูท่าทางประหม่าเล็กน้อยเขารู้สึกเก้อเขินที่ต้องทำอะไรแบบนี้ เพราะทั้งหมดเป็นแผนการของหมอนุชาที่อยากจะให้เพื่อนรักทั้งสองคนได้ลงเอยคบกันสักที หลังจากที่รู้ว่าหมอเวย์แอบรักหมอสายรุ้งมานานตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมด้วยกัน
“หือ...โอ๋ ๆ มานี่มา” คุณหมอสาวหันหน้ามาสวมกอดร่างเพื่อนรักอย่างหมอเวย์เธอนั้นสนิทสนมและรักเขามากเช่นกัน ทว่าตัวเธอเองก็พอจะรู้ว่าหมอเวย์คิดกับเธอแบบไหนแต่นั่นมันกลับยิ่งทำให้เธอกังวล เพราะไม่อยากหักหาญน้ำใจเพื่อนสนิทและตัวเธอเองก็รักกับหมอหนุ่มรุ่นพี่อย่างหมอน่านน้ำไปแล้ว
“มาให้ได้นะสายรุ้งเราจะรอ....” เสียงนุ่มทุ่มกระซิบบอกข้าง ๆ หูของเพื่อนสาว เขาดีใจและสวมกอดเธอกลับหมอนุชาที่ยืนดูอยู่เขายิ้มและดีใจคิดว่า วันนี้สถานะของเพื่อนทั้งสองคงขยับเลื่อนขั้นมาเป็นคู่รักอย่างแน่นอน
“จ๊ะ เดี๋ยวเจอกันนะ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีและในทุก ๆ ปีจะมีเราอวยพรวันเกิดให้หมอเวย์เสมอ.... ขอบคุณนะที่ยอมเป็นเพื่อนกับเราเด็กนักเรียนทุนจน ๆ จากบ้านเด็กกำพร้าคนนี้ และก็หมอนุชาด้วยขอบคุณนะที่มาเป็นเพื่อนกับสายรุ้ง”
(“..........”)
ทั้งสามคนยิ้มให้กันมิตรภาพที่สวยงามเรื่องราวความทรงจำของทั้งสามคนนั้น มากมายหมอเวย์และหมอนุชาที่ฐานะร่ำรวยทุกอย่างแตกต่างจากหมอสายรุ้งมาก เพราะความต่างนี้ไม่มีใครในโรงเรียนมัธยมดังยอมเป็นเพื่อนกับเธอเนื่องจากยากจนลูกหลานที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้ต่างมาจากตระกูลที่ร่ำรวย มีแค่เพียงหมอสายรุ้งที่เป็นนักเรียนทุนเธอเป็นเหมือนแกะดำในโรงเรียนโดนเพื่อนล้อและไม่มีใครกล้าคบกับเธอ จะมีแค่สองหมอหนุ่มเท่านั้นที่ไม่สนใจและรังเกียจทั้งสามคนเลยเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่นั้นเรื่อยมา
ทันทีที่คุณหมอสาวเดินจากไปหมอเวย์ได้แต่มองตามแผ่นหลังเล็กของเพื่อนสาวไป ท่าทีของเธอนั้นดูเร่งรีบคงมีธุระสำคัญอย่างที่เจ้าตัวบอก สายตาอ้อยอิ่งของเขา ที่ไม่มั่นใจว่าวันนี้จะเสียเพื่อนรักไปเพราะเพียงความรู้สึกที่อัดแน่นข้างในอยากจะครอบครองสมหวังในรักข้างเดียวมาแสนนาน แต่ถึงอย่างนั้นแม้จะไม่สมหวังแต่มันก็ดีเสียกว่าเก็บเอาไว้เพียงลำพัง
เพราะความรู้สึกที่มีมันล้นในอกเขาไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหนเพราะเธอ....วันนี้จึงตัดสินใจยอมเสี่ยงสารภาพให้รับรู้ไป เพราะหมอสายรุ้งก็ไม่ได้มีแฟนหรือคุยกับผู้ชายคนไหนเท่าที่รู้จักกันมาหลายปี หากเขาไม่สมหวังแม้เธอจะปฏิเสธเขาก็น้อมรับยินดีที่จะขอดูแลเธอต่อไปในฐานะเพื่อนก็ไม่เสียหาย
“หมอเวย์อดทนอีกนิดนะเพื่อน หมอสายรุ้งคงพิจารณาคนอย่างมึงว่ะเธอต้องรับรักแน่ ๆ เพื่อน” มือหนาของหมอนุชาแตะไปที่ไหล่ของเพื่อนรักพร้อมตบเบา ๆ ให้กำลังใจ เพราะรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันที่หมอเวย์จะเปิดใจในวันเกิดของตัวเอง
“เออขอบใจว่ะ ตัวต้นเรื่องก็มึงนะไอ้หมอนนุถ้ากูอกหักมึงช่วยดามไหมล่ะสัด!”
“เหอะ! อกหักมึงก็ให้หมอออร์โธดามสิ นั่นไงพูดถึงก็มาเลยหมอน่านน้ำ เดินเร็วขนาดนี้รีบไปไหนของเค้าวะ” ท่าทีที่เร่งรีบของหมอน่านน้ำเขาเดินจ้ำอ้าวไปกดลิฟต์ โดยไม่ทันสังเกตเห็นสองหมอที่กำลังมองเขาอยู่
“ชิ! ไม่ตลกไอ้หมอรุ่นพี่ลูกเจ้าของโรงพยาบาลนั้นน่ะเหรอ พวกเสแสร้งทำตัวดีเป็นพ่อพระปั้นหน้าเก๊กหล่อไปวัน ๆ กูไม่ชอบขี้หน้ามันว่ะ”
“เฮ้ย ๆ นั่นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเชียวนะเว้ย! อนาคตผู้บริหารที่นี่มึงก็รู้”
“แล้วไง มันไม่ได้มีโรงพยาบาลเดียวปะว่ะ กูจะเปิดเองก็ยังไหว ”
“เออรู้แล้วครับท่าน รู้ว่ารวยตั้งแต่เกิดคุณหมอเวธัส ลูกชายนักการเมืองใหญ่กับคุณหญิงเจ้าของแบรนด์เพชรชั้นนำ”
“เหอะ! ว่าแต่กูพ่อแม่มึงก็ธรรมดาที่ไหน บ้านเช่าอสังหาธุรกิจร้านอาหารที่อเมริการองเท้าเสื้อผ้าที่กูใส่ ก็แบรนด์ตระกูลมึงทั้งนั้นไอ้หมอนุ”
“แฮร่ ๆ ก็จริงของมึง”
“มึงไปก่อนนะกูลืมเอกสาร เดี๋ยวตามไป” หมอเวย์ที่ต้องรีบไปเก็บเอกสารเพื่อเตรียมงานของวันต่อไป เขารีบเดินขึ้นไปที่ตึกจึงบอกให้เพื่อนเดินทางล่วงหน้าไปก่อน
“เค เดี๋ยวสองทุ่มเจอกันที่ร้านเดิมนะเว้ย!”
“อือ”
ระหว่างที่เดินไปเอาเอกสารที่ห้องทำงานเขาก็เห็นว่าลิฟต์นั้นไม่ว่าง ด้วยความเร่งรีบหมอเวธัสจึงเลือกใช้การเดินเท้าขึ้นบันได เพราะห้องทำงานของเขาอยู่ชั้นไม่สูงมากและถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว จึงถือโอกาสนี้เดินขึ้นไปในใจก็ตื่นเต้นที่จะรอคอยเวลานัดหมาย คำพูดมากมายที่เขาอยากจะบอกเพื่อนสาวที่ตนนั้นแอบหลงรักมาเนิ่นนานแรมปี
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าของคุณหมอที่จังหวะมั่นคงเดินขึ้นไปเขาก็สะดุด เมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนเล็ดรอดออกมาจากประตูทางเดินหนีไฟ เพราะทางบันไดนี้ไม่ค่อยมีคนไข้หรือหมอใช้สักเท่าไหร่และในตอนนี้ก็มีเพียงแค่เขาเท่านั้น
“อ๊ะ! พี่หมออย่าซนสิคะ” เสียงครางหวานออดอ้อนเล็ดลอดออกมาหลังประตูของบันไดหนีไฟ หมอเวธัสตกใจเพราะเสียงนี้มันคุ้นหูมาก
กึ๊ก!
ร่างสูงรีบหยุดชะงักเขาตกใจเพราะเสียง ๆ นี้มันช่างคุ้นเคย และเขาจดจำได้ดีว่าเจ้าของเสียงหวานนี้เป็นใคร ด้วยความสงสัยหมอหนุ่มที่ใจเต้นโครมครามราวกับว่ามันจะทะลวงออกมาจากอกเสียให้ได้ ถือวิสาสะเพราะต้องการพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้หูแว่วคิดไปเอง เพราะเพลียจากการทำงานหนักจึงค่อย ๆ แนบหูฟังราวกับว่าเขาเป็นพวกถ้ำมองชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน
“อ๊า อย่าค่ะ เดี๋ยวคนก็มาเห็นเข้า”
“ไม่หรอก ไม่มีใครใช้ทางเดินแถวนี้เชื่อพี่”
หลังจากมั่นใจว่ามีคนกำลังพลอดรักกันอยู่ข้างใน หมอเวธัสที่ทั้งตัวเหงื่อเริ่มผุดใบหน้านั้นซีดเผือดขาวโผลนเขาลังเลอยู่นานว่าสมควรจะแอบดูหรือไม่ ถ้าหากเสียงนั้นไม่ใช่เสียงของคนที่คุ้นเคยที่เขากำลังคิดว่าคือใคร เขาจะไม่เสียมารยาททำการถ้ำมองแบบนี้คุณหมอหนุ่มแพทย์ประจำบ้านศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก จึงเอื้อมมือที่สั่นเทาค่อย ๆ บิดลูกบิดช้า ๆ จากนั้นก็สอดสายตาเข้าไปดู
ปึก! ปึก!
“อืมมม...”
ภาพที่เห็นเพียงแผ่นหลังระหว่างชายหญิงที่สภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย เรียวขาเล็กหันหน้าเข้ากับกำแพงสองมือของเธอนั้นค้ำยันผนังเอาไว้ ร่างบางถูกซ้อนทับกับร่างสูงของชายผู้นั้น ส่วนมือหนาที่กอบกุมเนินอกนิ่มบีบเค้นมันอย่างบ้าคลั่งกระโปรงที่ถูกถลกขึ้นสูงรั้งเอวคอด
มือหนาที่จับเอวบางแน่นกระหน่ำกระแทกบั้นท้ายงามงอนครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นจังหวะเสียงดังสนั่นทั้งคู่อยู่ในห้วงอารมณ์เสน่หาเข้าด้ายเข้าเข็มกันอย่างถึงอกถึงใจ โดยไม่รู้ตัวว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองการกระทำบัดสีนี้อยู่
“ซี๊ดส์ ! สายรุ้งเธอนี่มันถึงใจพี่ชะมัด อ๊า....ให้ตายเถอะ”
“อื้อ พี่น่านน้ำเบา ๆ ค่ะ จุกไปหมดแล้วนะ คนบ้า อร๊าย!”
ปึก ! ปึก!
เอวหนาที่ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเสียงครางระงมบ่งบอกถึงความพึงพอใจ สลับกับเสียงเนื้อที่กระทบกันสั่นห้องภาพที่เห็นทำเอาหมอเวธัสถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เขาแทบจะหยุดหายใจเหมือนมีรถบรรทุกวิ่งผ่านเข้ามาชนจนโลกมืดดับไปทุกอย่างมืดสนิท ตัวชาหน้าชาไม่อาจเคลื่อนไหวเขาทำได้แต่ปล่อยให้หยดน้ำที่ล้นออกมาจากดวงตาคมกริบนั้น รินไหลลงมาซับบาดแผลสดที่อยู่ตรงหน้า แม้ใจอยากจะเข้าไปกระชากร่างทั้งสองให้แยกออกจากกัน แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรแบบนั้นเพราะสถานะของเขาเป็นได้แค่เพื่อน
“หึ! ช่างกล้าทำสายรุ้ง....หมอน่านน้ำ”
หลังจากเรียกสติกลับคืนมาหมอเวธัสจึงปิดประตูลง ปล่อยให้หมอสายรุ้งและหมอน่านเล่นบทรักเริงสวาทกันให้สมใจ
ร่างสูงทรุดตัวลงช้า ๆ สองมือกุมขมับนั่งก้มหน้าร้องไห้และใช้มือนั้นทุบอกแกร่งของตัวเองเขาแทบจะขาดใจตายตรงนี้ ในสมองขาวโพลนว่างเปล่าตกตลึงกับสิ่งที่เห็นเมื่อสักครู่ทั้งภาพและเสียงที่ชัดเจนตรงหน้า คิดไม่ถึงเลยว่าหมอสาวเพื่อนสนิทจะลักลอบมีความสัมพันธ์กับหมอรุ่นพี่ โดยที่เขานั้นไม่รู้มาก่อนและที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นผู้ชายที่เธอนั้นกำลังมีสัมพันธ์คือ คนที่หมอเวธัสไม่ถูกชะตาเอาเสียเลย
“ทำไม….สายรุ้งทำไมต้องเป็นไอ้น่านน้ำด้วย ฮือ....”
“ฉันช้าเกินไปใช่มั๊ย หรือว่าเธอไม่เคยจะใจตรงกัน”