ตอนที่ 2
สถานีตำรวจอำเภอปาย
ห้องสอบสวนของสถานีตำรวจ ภาคินัยนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้แข็งทื่อ ใบหน้าคมเข้มเคร่งเครียด สายตาจดจ้องไปยังร้อยตำรวจเอกประพนธ์ที่กำลังอธิบายรายละเอียดของอุบัติเหตุ
“ภรรยาของผมเธอไม่ได้เป็นคนขับเองเหรอครับ” ภาคินัยถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ครับคุณภาคินัย” ร้อยตำรวจเอกประพนธ์ตอบ
“ผมไม่ทราบว่าคุณรู้จักผู้ชายคนนี้หรือเปล่า” ตำรวจยื่นบัตรประชาชนของชายคนหนึ่งให้ภาคินัยดูบนโต๊ะสอบสวน ภาคินัยมองภาพถ่ายบนบัตรด้วยความสงสัย เขาไม่รู้จักชายคนดังกล่าว จึงยื่นบัตรประชาชนคืนให้กับตำรวจ
“ไม่รู้จักครับ แล้วเขามาอยู่ในรถภรรยาของผมได้ยังไง” ภาคินัยถามขึ้นด้วยความแปลกใจปนสงสัย
“เขาชื่อว่ารณพีร์ เป็นคนขับรถให้ภรรยาของคุณในวันที่ประสบอุบัติเหตุ” ร้อยตำรวจเอกประพนธ์อธิบาย ก่อนจะหยิบกระเป๋าหนังสีดำใบหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก แล้วยื่นให้ภาคินัย
“นี่เป็นกระเป๋าของคุณเนตรดาวครับ ข้างในมีโทรศัพท์มือถือของเธอ” ภาคินัยรับกระเป๋ามาด้วยมือที่สั่นเทิ้ม เขาจำได้เป็นอย่างดีว่ามันคือกระเป๋าที่เนตรดาวใช้เป็นประจำ
ขณะที่ตำรวจยื่นกระเป๋าของภรรยาคืนให้ ภาคินัยก็กำลังครุ่นคิดว่าชายคนที่มากับเนตรดาวเป็นใครกันแน่ ภรรยาของเขาไม่เคยนอกใจมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่คิดเลยว่าเธอจะนอกใจ
แต่ทันใดนั้นเองสติของภาคินัยก็กลับคืนมา เมื่อเห็นร่างระหงของหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องสอบสวน เธอมีใบหน้าที่สวยหวานทว่าดวงตาช่างดูหม่นหมองนัก
“สวัสดีค่ะคุณตำรวจ ดิฉันและคุณป้าเป็นญาติของคุณรณพีร์ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่วเบา พร้อมกับยืนอยู่ข้างๆ คุณป้าของเธอ ทั้งสองคนมีสีหน้าเศร้าสร้อยไม่ต่างกัน
ภาคินัยรีบลุกขึ้นและผายมือเชิญให้เธอกับคุณป้านั่ง เพราะหมดธุระของตนเองแล้ว ภาคินัยขับรถกลับมายังโรงแรมที่เขาเข้าพัก เขาทรุดตัวลงบนโซฟากำมะหยี่ ก่อนจะโทรสั่งงานลูกน้องในไร่องุ่น และแจ้งว่าเขาอาจจะต้องอยู่ดูแลภรรยาที่โรงพยาบาลต่ออีกสักระยะ
พ่อเลี้ยงหนุ่มวางกระเป๋าของภรรยาลงบนโซฟา ก่อนจะล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมาดู เพราะอยากรู้ว่าผู้ชายคนที่ขับรถให้ภรรยาเป็นใครกันแน่ เพราะเขาไม่รู้จักชายคนนี้มาก่อนเลย จะว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นก็ไม่ใช่ เพราะว่าเพื่อนๆ ของภรรยาเขารู้จักหมด ภาคินัยตัดสินใจโทรหาปูเป้ เพื่อนสนิทของเนตรดาว เพื่อสอบถามถึงนายรณพีร์ตามที่ตำรวจบอก
“ปูเป้รู้จักผู้ชายที่ชื่อรณพีร์ไหม” เขาถาม
“รณพีร์... ไม่รู้จักเลยอ่ะภีม” ปูเป้ตอบ ภาคินัยโทรหาเพื่อนๆ คนอื่นๆ ของเนตรดาว แต่ก็ไม่มีใครรู้จักรณพีร์เลย เขารู้สึกเหมือนถูกปิดล้อมด้วยความมืดมิด
ภาคินัยยังไม่อยากปรักปรำเนตรดาวว่าคบชู้สู่ชายโดยไม่มีหลักฐาน เขาตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ของภรรยาออกมาจากกระเป๋าสะพายของเธอ ก่อนจะรีบเปิดมันออก แต่ก็ต้องผิดหวังที่ต้องสแกนลายนิ้วมือเสียก่อนถึงจะเข้าไปดูข้อมูลในโทรศัพท์ของเธอได้
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเนตรดาวเลย จึงไม่รู้มาก่อนว่ารหัสหน้าจอมือถือคือรหัสอะไร ตกเย็นเขาเดินทางไปเยี่ยมเนตรดาวที่โรงพยาบาล ก่อนจะใช้นิ้วมือของเธอเพื่อปลดล็อคมือถือ
ภาคินัยก็จัดการปิดระบบการสแกนลายนิ้วมือ เหลือเอาไว้เพียงรหัสผ่านที่เขาสร้างขึ้นมาใหม่เท่านั้น เมื่อเขาเยี่ยมเนตรดาวในช่วงเย็นเสร็จเรียบร้อย
ประมาณสองทุ่ม เขาก็เดินทางกลับมาที่โรงแรม โทรศัพท์ของเนตรดาวถูกวางเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง หลังจากที่ภาคินัยอาบน้ำเสร็จ เขาก็รีบหยิบมันขึ้นมาดู สิ่งแรกที่พ่อเลี้ยงหนุ่มมุ่งเป้าในการสืบค้นเรื่องราวในครั้งนี้ก็คือ พวกข้อความแชทต่างๆ เขาจึงรีบเข้าไปอ่านไลน์ของเธอ แล้วก็เห็นรายชื่อที่สะดุดตา ซึ่งเป็นคนที่สนทนาครั้งล่าสุดกับเนตรดาว และชื่อนั้นก็จำเป็นที่ภาคินัยต้องเข้าไปอ่านอย่างรวดเร็วด้วยความอยากรู้ เมื่อคนส่งข้อความ มีชื่อสั้นๆ ว่า “คุณพีร์!”