“คนนี้เหรอป้า” เสียงผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดๆ ถามออกมาด้วยแหลมๆ และชี้มาที่ใบหน้าของพิมดาวอย่างไม่ให้เกียรติ
“ใช่คนนี้แหละ รับรองยังไม่เคยผ่านมือใครมา” ป้าอรยิ้มและพูดบอกอย่างภูมิใจ
“ป้าพูดอะไร ป้าอรจะให้พิมทำอะไรกันแน่ ไหนบอกให้นั่งเฉยๆ ไง”
“ก็นั่งเฉยๆ ไง มึงอย่าโวยวายกูรับเงินเขาไปแล้ว”
“กี่บาท ป้าเอาคืนเขาไปเลยนะ”
“กูใช้ไปหมดแล้ว” ป้าอรพูดบอกด้วยอารมณ์เสียที่คนเป็นหลานดื้อและไม่ยอมง่ายๆ
“กี่บาทบอกฉันมา ฉันจะหามาคืนให้”
“หกหมื่น มีคืนไหม และคืนตอนนี้ด้วย” เสียงผู้หญิงแต่งหน้าจัดเท้าเอวบอกด้วยเสียงที่หงุดหงิด
“หา...วันนี้ฉันหาไม่ทันหรอก อย่างไว้สุดก็สองเดือน ให้เวลาฉันหาก่อนได้ไหม” พิมดาวทำเสียงน่าสงสารให้อีกฝ่ายเห็นใจ
“สาวน้อยรับเงินไปแล้วก็ต้องทำงานให้คุ้มค่าหน่อยสิ” ผู้หญิงแต่งหน้าจัดเดินเข้ามาและจับคางเล็กให้เชิดขึ้นและยิ้มเย็นยะเยือกให้
“ฉันไม่ทำอะไรทั้งนั้น พิมจะกลับบ้าน” เธอปัดมือที่จับคางเธอออกและเตรียมหันจะเดินออกไป
“จับมันไว้ และเอาเข้าไปในร้าน” ทันทีเสียงที่ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดบอกเหล่าลูกน้องที่อยู่จุดต่างๆ ที่ตอนแรกไม่มี แต่ตอนนี้เดินออกมาและล้อมเธอเอาไว้
“ป้าอรช่วยพิมด้วย” พิมร้องขอให้ผู้เป็นป้าช่วยอย่างไร้สิ้นหนทาง
“อย่าเล่นตัวเลยอีพิม อดทนทำไปดีไม่ดีมึงทำมีเสี่ยใจดีรับเลี้ยงมึงขึ้นมา มึงจะสบายไปทั้งชาตินะ”
“พิมไม่เอา พิมไม่ทำ ช่วยด้วย” เธอตะโกนเสียงดัง เหล่าชายฉกรรจ์จึงปิดปากและอุ้มเข้าด้านใน ร่างบางได้แต่ดิ้นไปมาด้วยความไม่ยินยอม
“ถ้าไม่ซิงอย่างที่ป้าว่า ป้าเจอดีแน่”
“ฉันรับรองเลยมันยังไม่เคยกับใคร ฉันเอาหัวเป็นประกันเลย” ผู้เป็นป้าจีบปากจีบคอพูด ผู้หญิงแต่งหน้าเข้มยิ้มพึงพอใจ และหันหลังเดินเข้าไปในร้านที่เหล่าลูกน้องได้นำหญิงสาวตัวเล็กเข้าไปก่อนหน้า
“พยศมากเลยครับนายคุณภา ปล่อยพยศไปนั่นแหละ ยังไงคืนนี้มันก็ต้องรับแขก อย่าทำอะไรบนสินค้าล่ะถ้ามีริ้วรอยอะไรข่วนฉันเอาพวกแกตายแน่”
“ครับคุณภา” เหล่าลูกน้องรับคำสั่ง และยืนเฝ้าประตูที่ขังหญิงสาวเอาไว้
ตกเย็น
ปัง ปัง! เสียงทุบเคาะประตูดังขึ้นเป็นระยะ แต่ก็ไม่มีใครเปิดประตูให้เธอออกไป
“ใครก็ได้ช่วยด้วยฉันที ปล่อยฉันออกไป ได้โปรดฮื่อ ๆ” พิมดาวทุบประตูไปและร้องไห้ไปอย่างสิ้นหวังหมดหนทางที่จะหนี เธอไม่เข้าใจทำไมชะตาชีวิตเธอถึงเป็นแบบนี้ มันน่าตลกสิ้นดี ตั้งแต่เด็กเธอต้องคอยดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปในแต่ละวัน
แกร๊ก!!
ผ่านไปไม่นานก็มีเสียงคนเปิดประตู พิมดาวตั้งท่าเพื่อจะวิ่งหนีออกไปทันทีที่ประตูเปิด ทันทีที่ประประตูเปิดขาเรียวก็เริ่มวิ่งแต่มีชายฉกรรจ์ร่างหนาตัวใหญ่หิ้วปีกเธอกลับมาที่เดิมแทน
“หึ...พยศจริงนะเธอนี่ จับมันแต่งตัวคืนนี้มันต้องรับแขก เพราะแขกคนสำคัญจะเข้ามา”
“ค่ะ เจ๊ภา ลูซี่จัดให้” เสียงตอบรับอย่างยินดีและกระวีกระวาดเตรียมของ พิมดาวมองคนตรงหน้าที่ตัวเป็นชายก็จริงแต่ข้างในเป็นผู้หญิง กำลังเตรียมของเครื่องสำอางและของใช้ต่างๆ ตามที่หัวหน้าสั่ง
“อย่าเอามันมาลงที่หน้าฉันนะ ฉันไม่แต่ง” พิมดาวสะบัดแปรงที่กำลังลงละเลงใส่หน้าเธอออก และขัดขืนไม่ยอมง่ายๆ
“เจ๊ภาขา ถ้ายายคนนี้ไม่อยู่เฉยๆ ลูซี่ก็ไม่สามารถแต่งหน้าได้นะคะ”
“มึงจะยอมดีๆ หรือให้ลูกน้องกูบังคับมึงห๊ะ เลือกเอา” เจ๊ภาถามพร้อมดึงผมของพิมดาวแน่น “กูไม่รับประกันนะว่ามันจะทำอะไรมึงบ้าง” เจ๊ภายิ้มและแสดงสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน พิมดาวได้ยินจึงเลือกนั่งนิ่งๆ แทน เพราะกลัวคำที่ขู่ที่อีกฝ่ายพ่นออกมา
“หึ..กูก็คิดว่าจะแน่ จับมันแต่งตัวเร็วๆ ต้องเสร็จให้ทันก่อนสามทุ่มนะ ลูซี่”
“ค่าเจ๊ภา ลูซี่จะแต่งออกมาให้สวยที่สุดเลยค่ะ” ชายไม่แท้รีบรับคำและจัดการแต่งหน้าทันที
“นายครับวันนี้สามทุ่มจะไปที่ไนต์คลับไหมครับ”
ลูกน้องถามผู้เป็นนายและรอคำตอบ เพราะวันนี้ที่ไนต์คลับแจ้งเขามาว่าวันนี้มีเด็กเข้ามาใหม่
“มีเด็กใหม่เหรอ” เสียงเข้มเอ่ยถาม แต่ยังคงก้มนั่งอ่านเอกสารรายการสินค้าที่มียอดซื้อขายไม่วางตา
“ใช่ครับ เจ๊ภาถามว่านายจะสนใจไหมครับ เพราะเด็กยังไม่เคยรับแขกหรือออกไปกับใครครับนาย”
“อืม....สามทุ่มมีนัดอะไรไหม”
“ไม่มีครับ”
“โอเค แจ้งทางนั้นกลับไปว่าฉันจะเข้าไป”
“ครับ” ลูกน้องรับคำและรีบก้าวออกจากห้องทันที
ฟาโรห์หยุดอ่านเอกสาร และดูเวลา เพราะเวลานี้เขายังไม่อยากกลับบ้าน และจึงคิดที่จะไปตามที่ลูกน้องรายงานแทน