20.40 น.
“เสร็จสักที เธอนี่สวยจริงๆ เลยนะ ชื่อพิมดาวใช่ไหม” ลูซี่ชมผลงานตัวเองและเอ่ยถามคนตรงหน้า
“ใช่ เราชื่อพิมดาว”
“ทำงานวันแรกเหรอ”
“ไม่ได้ตั้งใจมา แต่โดนป้าหลอกมาขาย”
“ไม่ต้องกลัวไปหรอก ถ้าแขกคนไหนเธอไม่พร้อมรับก็ปฏิเสธ และคอยนั่งเชียร์ดริ้งก็พอ เจ๊ภาแกไม่ว่าหรอก วันนี้แกดุเพราะแขกรายใหญ่จะเข้ามาเห็นแกว่านะ”
“อือ ขอบใจนะ” พิมดาวยิ้มและขอบคุณที่อีกฝ่าย
“เสร็จยังลูซี่ แขกจะมาถึงแล้ว” เจ๊ภาเดินเข้ามาและหยุดยืนสำรวจพิมดาวไม่วางตาและค่อยๆ เผยรอยยิ้มออก
“เป็นไงเจ๊ถูกใจใช่ไหม”
“เออ เธอนี่สวยไม่เบา แต่ฉันไม่ชอบชุดเธอเอาซะเลย ลูซี่หยิบชุดนั้นมาที” เจ๊ภายืนชี้ชุดสีแดงมันวาวรัดรูปข้างหลังลูซี่ทันที
“ลูซี่ให้พิมดาวใส่แล้ว แต่หล่อนปฏิเสธ ลูซี่เลยให้ใส่อีกชุดแทน” ลูซี่บอกและหยิบชุดให้เจ๊ภาไปด้วย
“ไม่ชอบก็ต้องใส่ ไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้พิมดาว อย่าให้ฉันโมโหไปมากกว่านี้นะ โอ๊ยแต่ละคนไม่ได้ดั่งใจฉันเลย”
“แต่มันโป๊ ฉันไม่กล้าใส่” สาวน้อยรีบปฏิเสธออกมาอีกทันที
“เธออายุเท่าไร” เจ๊ภาถามและยืนมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างขัดใจ
“ 20 ค่ะ”
“ 20 ก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะ ทำไมพูดไม่รู้เรื่องต้องให้สั่งหลายครั้ง เอาชุดนี้ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้แขกจะมาแล้ว”
“พิมเชื่อเจ๊ภาเถอะ ไปเปลี่ยนชุด” ลูซี่เข้ามาเสริมทัพอีกแรง หญิงสาวจึงต้องจับใจหยิบชุดไปเปลี่ยนอย่างจำใจ
ผ่านไปสักพักพิมดาวก็เดินออกมาด้วยชุดหวาบหวิวรัดรูปสีแดงมันวาว และเป็นชุดที่โชว์หน้าอก เว้ากว้างโชว์เนินเนื้ออกตูมและชุดสั้นเกลือบปิดก้นไม่มิด เธอเดินออกมาจึงพลางใช้มือปิดเป็นพัลวัน
“ต้องอย่างงี้สิ ใส่รองเท้าคู่นี้ดู รีบถอดอีรองเท้าผ้าใบเด็กน้อยของเธอออกเร็วๆ พิมดาว จะสามทุ่มแล้ว” เจ๊ภารีบกำชับอย่างร้อนรน
“ค่ะ ค่ะ” พิมดาวรีบรับและถอดเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
ฟาโรห์ก้าวเท้าเข้ามาในพื้นที่โซน vip ที่ทางร้านจัดให้เขาประจำเป็นพื้นที่ส่วนตัวมีที่จอดรถโดยเฉพาะ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีข่าวซุบซิบเล็ดลอดออกไปได้
“สวัสดีค่ะ คุณฟาโรห์มาตามเวลาแป๊ะเลยนะคะ” เจ๊ภารีบเข้ามาต้อนรับและจัดการเทผสมเครื่องดื่มอย่างที่ชายหนุ่มชอบดื่มประจำ
ฟาโรห์เลิกคิ้วมองและทำหน้านิ่งตามเคย ลูกน้องจึงต้องเอ่ยคุยแทนเพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น
“ไหนเจ๊ที่บอกว่าจะเอาให้นายดู เร็วๆสิครับ” ลูกน้องคนสนิทรีบท้วงให้นำตัวเด็กใหม่เข้ามา
“ใจร้อนจัง เด็กมันตื่นเต้นและอายนิดหนึ่ง คุณฟาโรห์อย่าถือสานะคะ รับประกันสวยหยาดเยิ้มเลยละคะ” เจ๊รีบคุยโอ้อวดและรีบพาสาวน้อยเข้ามาด้านใน
ขาเรียวก้าวเดินเข้ามาโดยมีอาการสั่นๆ ด้วยรองเท้าส้นสูงที่ไม่ถนัดจึงยิ่งทรงตัวอยาก พิมดาวก้าวเข้ามาหยุดตรงกลางที่เจ๊ภาบอกให้เธอยืนตรงนี้เพื่อให้มาเฟียหนุ่มสำรวจได้ง่าย
ฟาโรห์จ้องเรือนร่างบางตัวเล็กอย่างนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา สายตาสแกนทุกเรือนร่างขึ้นลง
“เจ๊ออกไปข้างนอกกันเถอะ” ลูกน้องคนสนิทรีบพาเจ๊ภาและตนออกมาข้างนอก เพื่อให้เวลาเจ้านายหนุ่มได้เต็มที่
“เดินมานั่งนี่” ฟาโรห์เรียกหญิงสาวให้มานั่งที่ข้างๆ ตัวเอง
พิมดาวก้าวเดินเข้ามาด้วยอาการเกร็งๆ และกลัวคนตรงหน้า ถึงแม้เธอเห็นเขาแค่เพียงชั่วพริบตาก็สัมผัสได้ถึงความดุดัน ยิ่งคนอื่นบอกว่าเขาคือมาเฟียที่คุมกิจการยักษ์ใหญ่หลายสาขาที่รู้จัก เธอยิ่งเกร็งและกลัวจนตัวสั่น
“กลัวฉันเหรอ” ฟาโรห์เอ่ยถามเมื่อร่างบางนั่งข้างเขาเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะ” พิมดาวรีบตอบอย่างไม่โกหก
“หึ...” ฟาโรห์กระตุกยิ้มชอบใจ ที่หญิงสาวข้างกายตอบอย่างไม่โกหกและนั่งตัวสั่นเป็นการยืนยันคำพูดว่ากลัวเขาจริงๆ
“กลัวฉันทำไม ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย หรือเพราะลายสักนี่” ฟาโรห์เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ไม่ใช่ค่ะ ลายสักคุณสวยดีค่ะ พิมกลัวเพราะพิมไม่ได้เต็มใจมานั่งอยู่ตรงนี้”
“ทำไมรังเกียจฉันเหรอ” ฟาโรห์ถามและโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆ
“ไม่ใช่ค่ะ คุณช่วยพิมหน่อยได้ไหมคะ ขอร้องล่ะ พิมโดนบังคับมา พิมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น สงสารพิมเถอะนะคะ” พิมดาวรีบตอบอย่างล้นลานและไว้ขอร้องเขาทั้งน้ำตา เพื่อให้ชายหนุ่มสงสารและช่วยเธอออกไป
“ชื่อพิมเหรอ”
“ใช่ค่ะ พิมดาว หรือเรียกพิมก็ได้ค่ะ”
“ฉันฟาโรห์ ไม่ต้องกลัวฉันหรอก ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ จะร้องไห้ทำไม” ฟาโรห์บอกด้วยหน้านิ่งโดยไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่อารมณ์ไหน
“ค่ะ คุณฟาโรห์ช่วยพิมได้ไหมคะ พิมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”
“คงไม่ได้หรอก เพราะฉันจ่ายเงินซื้อเธอไปแล้ว”