3.หลุดปากเรียกชื่อจริง.💢

1749 คำ
เป่าเป้ยบ่นพึมพำออกมาด้วยความสับสนปนความเจ็บปวด ไม่มีวันไหนเลยที่เธอไม่คิดถึงพี่ชาย การที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ฝึกงานในบริษัทของเหยียนชุนก็เพื่อที่จะล้างแค้นให้พี่ชาย แต่คลิปที่เธอได้ฟังกลับทำให้เธอสับสน เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่หรือเปล่า ความรู้สึกที่ไม่เคยพูด ค่ำคืนในคอนโดหรูของเขา เหยียนชุนนั่งพิงพนักโซฟาในความเงียบ มือถือถูกเปิดคลิปเสียงบันทึกไว้จากใครคนหนึ่ง... เขาหลับตาลงช้าๆ ในหัวของเขาเต็มไปด้วยภาพของคิน ชายหนุ่มที่ร่าเริงพูดมาก และชอบถือกาแฟหวานเกินขนาดเข้ามาในห้องทำงานของเขาทุกวัน >“นายนี่ชอบทำหน้าดุ แต่แอบช่วยเหลือคนอื่นนะ” เสียงของคินดังขึ้น แต่ชุนกลับเงียบไม่ได้ตอบกลับอะไรคิน “….....” “แกล้งทำเป็นเย็นชา แต่มีน้ำใจล้นเหลือฉันดูออกนะ” คินพูดเล่นแบบนั้นเสมอ และชุนก็มักจะตอบกลับด้วยความเงียบแบบนั้นประจำ เขาไม่เคยแสดงออกอะไร ไม่เคยพูดว่ารู้สึกอะไร แต่ลึกๆ แล้ว…เขารู้ เขารู้ว่าคิน “รู้สึกกับเขาแบบไหน” และเขาเอง…ก็ไม่เคยรังเกียจ ไม่เคยผลักไส เขาแค่ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ในโลกของชุน…ความรักไม่ใช่สิ่งที่เขากล้าคว้ามาไว้ เขาโตมากับการวางหน้ากาก ความคาดหวังของตระกูล และความโดดเดี่ยวที่ฝังลึก ทุกอย่างถูกจัดวางไว้ให้เขาแล้ว > “ถ้าตอนนั้นฉันกล้าพอ ถ้าฉันพูดอะไรสักอย่าง นายอาจจะยังอยู่ก็ได้คิน” เหยียนชุนลืมตาขึ้นช้าๆ แววตานั้นแข็งและเศร้าในคราเดียวกัน ซึ่งไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่วันนี้…กลับมีใครบางคน เดินเข้ามาในชีวิตเขา พร้อมรอยยิ้มสดใส เสียงหัวเราะและ…ใบหน้าที่คล้ายกับคินอย่างน่าแปลกใจ > “เป้ยหลิน!” เขาพึมพำชื่อเธอเบาๆ และหัวใจของเขาเริ่มสั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หนึ่งเดือนต่อมาที่รีสอร์ตชานเมือง มีโครงการสัมมนาธุรกิจ 3 วันของบริษัทจัดขึ้นเป็นครั้งแรกนอกเมือง เป่าเป้ยได้รับหน้าที่ตามประกบเหยียนชุนตลอดงานในฐานะ “ผู้ช่วยฝึกงานพิเศษ” > “อย่าลืมเป้าหมายนะ เป่าเป้ย” เสียงหลินเตือนผ่านโทรศัพท์ >“อื้อ รู้แล้วน่า” เป่าเป้ยตอบหลินกลับไป >“อ่อยให้อยาก แล้วจากให้จำจบแบบนางพญา!” >“แกก็พูดเกิน” เป่าเป้ยแค่นหัวเราะแห้งๆให้กับหลิน แต่หัวใจเธอไม่ได้มั่นคงเหมือนตอนเริ่มเลย… ค่ำนั้น หลังเสร็จงานเลี้ยง พนักงานคนอื่นแยกย้ายกลับห้อง เหลือเพียงเธอกับเหยียนชุนที่ยังอยู่หน้าล็อบบี้ > “คุณเป้ยหลิน ห้องคุณอยู่ตึก C ใช่ไหมครับ?” พนักงานของรีสอร์ตเดินเข้ามาถามเธอ “ใช่ค่ะ…” “พอดีห้องคุณมีปัญหาเรื่องระบบน้ำกับแอร์มันเสีย ต้องปิดทั้งชั้นคืนนี้” เธอหันขวับไปมองพนักงานแทบจะไม่เชื่อหูของเธอ ว่ารีสอร์ตระดับตระกูลเหยียนมาพักจะห่วยแตกแบบนี้ > “หา?! แล้วฉันจะไปนอนที่ไหนล่ะคะ?” พนักงานหันมองเหยียนชุนอย่างมีความหมาย เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะลากเสียงถอนหายใจ > “ไปพักห้องผมก่อนก็แล้วกัน” >“ได้หรอคะ” เป่าเป้ยยิ้มอย่างพอใจ อะไรจะง่ายดายขนาดนี้แทบไม่ต้องลงมืออะไร ทุกอย่างเหมือนจะวิ่งเข้ามาหาเธอเอง สวรรค์คงต้องการจะช่วยเธอแน่ๆ “เก็บอาการหน่อยคุณเป้ยหลิน ทำอย่างกับ...” >“ท่านประธานคิดอะไร?หนูก็แค่ดีใจที่ไม่ต้องไปนอนห้องที่มันมีปัญหาแค่นั้นเอง” ชุนถอนหายใจดังกว่าเดิมแล้วเดินนำหน้าเธอไปที่ห้อง 🛏️ ภายในห้องพักของเหยียนชุน ห้องกว้าง เงียบ และเย็น มีเพียงแสงไฟสีส้มนวลจากหัวเตียง เป่าเป็นนั่งตัวตรงอย่างระวังที่โซฟามือกำกันไว้จนเปียกชุ่ม ขณะที่ชุนนั่งอ่านเอกสารเงียบๆบนเตียง >“คุณไม่อึดอัดเหรอคะ ที่ต้องให้ฉันมานอนด้วย…” เป่าเป้ยแกล้งถามไปงั้นแหละมีที่ไหนคนอื่นมานอนด้วยทำไมจะไม่อึดอัด ถามกลบเกลื่อนความกังวล > “อึดอัดสิ” เขาตอบตรงๆ โดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองเธอเลยแม้แต่นิดเดียว เอาแต่ก้มหน้าดูเอกสารสมกับเป็นเหยียนชุนคนเย็นชาจริงๆ >“แต่ไม่ใช่เพราะเธอ…เพราะฉันไม่ชอบคนแปลกหน้า” คำว่า “คนแปลกหน้า” เหมือนมีดกรีดลงบนตัวเธอ เธอเป็นแค่เด็กฝึกงานที่ใช้ชื่อปลอม… คนแปลกหน้าที่ตั้งใจจะหลอกให้เขารัก มันก็จริงอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ > “แล้วถ้าฉันไม่ใช่คนแปลกล่ะคะ?” เป่าเป้ยถามชุนเสียงเบาโดยไม่ได้ตั้งใจจะให้เขาได้ยินแต่.. เขาเงยหน้าขึ้นสบตาเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะพูด > “ถ้าเธอไม่ใช่คนแปลก…ฉันคงกลัวจะรู้จักเธอมากเกินไป” หัวใจของเป่าเป้ยกระตุกวูบกับคำพูดของชุน เธอเริ่มกลัวเหมือนกัน กลัวว่าคนที่ควรจะ “เป็นเป้าหมาย” จะกลายเป็นคนที่เธอรักจริงๆ >“หรอคะ😅? คุณชุนจะรับกาแฟมั้ยคะเดี๋ยวหนูไปชงให้” >“ดึกป่านนี้จะให้ฉันดื่มกาแฟ แล้วจะให้ฉันนอนตอนไหน?” >“ฮ่าๆ~จริงด้วย งั้นเอาโกโก้ร้อนมั้ยคะ?” เป่าเป้ยหัวเราะเสียงดังอย่างลืมตัว จนชุนชะงักไปแว้บนึง >“ไม่ต้อง อีกเดี๋ยวฉันจะนอนแล้ว” >“ค่ะ งั้นราตรีสวัสนะคะ” >“อืม” ห๊าาา!!เขาตอบด้วย ถึงจะแค่อืมก็ตาม แต่มันถือเป็นเรื่องที่ดี ดีกว่าการเงียบ😊 คำพูดที่ไม่ควรหลุด กลางดึกในห้องพักรีสอร์ต เป่าเป้ยนอนขดอยู่บนโซฟาด้วยผ้าห่มผืนเดียว เหยียนชุนนั่งทำงานต่อเงียบๆ บนเตียงโดยแอบเหลือบมองเธอเป็นระยะๆ เธอเงียบกว่าทุกวันไม่กวน ไม่พูดเยอะ มีแววเศร้าในดวงตา เหมือนเด็กที่ฝืนยิ้มกลบอะไรบางอย่าง เหยียนชุนเองสังเกตเห็นแม้ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร แต่ก็ยังเลือกเงียบต่อไปจนกระทั่ง… > “พี่คิน…อย่าทิ้งเป่าเป้ยไปนะคะ…” เสียงละเมอเบาๆ ทำให้ชุนชะงักหันไปมองเป่าเป้ยแล้ว นิ้วหยุดกดแป้นพิมพ์ เขาหันไปมองร่างเล็กที่ขดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนบาง หน้าซุกกับหมอน น้ำตาไหลอาบเปื้อนแก้ม > “เป่าเป้ย…” ชื่อที่ไม่ตรงกับข้อมูลในใบสมัครฝึกงาน ไม่ใช่ชื่อที่เธอใช้กับเขา เหยียนชุนนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกลงมาจากเตียงเดินมาหยุดข้างโซฟา มองใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาของเธออย่างใช้ความคิด แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ > “เธอ…เป็นใครกันแน่” ------------- 🌞เช้าวันรุ่งขึ้นหน้าล็อบบี้ >“เธอมีอะไรอยากบอกฉันไหม?” ชุนถามเป่าเป้ยด้วยสีหน้าเข้มขรึม เมื่อยืนลำพังกับเธอ > “ไม่มีหนิคะ☺️” เป่าเป้ยตอบพลางยิ้มเขินๆ เพราะรู้สึกเหมือนว่าเธอละเมอ เธอชอบเป็นบ่อยๆหลังพี่จากไป ไม่รู้ว่าละเมออะไรไปบ้าง > “เธอละเมอชื่อคน” เขาตอบเรียบแต่น้ำเสียงหนักแน่นและแววตาสงสัย >“แล้วก็ร้องไห้หนักมาก” หัวใจเป่าเป้ยกระตุกวูบ เธอไม่รู้ว่าหลุดอะไรออกไปบ้าง กลัวจนไม่กล้ามองหน้าเขา >“หนูคงฝันถึงพี่ชายค่ะ เขาเคยเรียกฉันแบบนั้น” เธอพยายยามพูดกลบเกลื่อนเสียงสั่น ขณะที่ชุนยังจ้องเธอนิ่ง สายตานั้นลึกซึ้งและยากจะคาดเดา แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไรต่อ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางเข้าล็อบบี้รีสอร์ต > “ชุนคะ!” หญิงสาวคนหนึ่งในชุดเดรสหรูหราเดินเข้ามา ริมฝีปากแดง แววตาเย้ยหยันมองมายังร่างบางของเป่าเป้ย พราวมุก— หญิงสาวคนเดียวกันกับในรูปเก่าๆของพี่ชายเธอที่เขายังเก็บไว้ และเธอคือคนที่เป่าเป้ย “เชื่อว่า” คือผู้หญิงคนนี้ที่ทำให้พี่เธอเสียใจจนจากโลกนี้ไป >“คุณมาทำอะไรที่นี่?” ชุนขมวดคิ้วถาม >“มาหาคุณไงคะ” คำพูดของเธอทำเอาชุนกำหมัดแน่น ถ้าไม่ติดว่าเคยรู้จักกันมาก่อนเขาคงด่าเธอไปแล้ว --------- ความลับของพราวมุก [เหตุการณ์เมื่อ 3 ปีก่อน – มหาวิทยาลัย Y] คาเฟ่เล็กหน้ามหาวิทยาลัย หญิงสาวนั่งจ้องแก้วกาแฟตรงหน้าอย่างเหม่อลอย หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสับสน เจ็บปวด และ…หึงหวง > “พราวมุก!” เสียงชายหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง คินเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม มือของเขาวางแก้วกาแฟอีกแก้วตรงหน้าเธอ > “ฉันขอโทษนะ ที่มาสาย” เสียงของคินรีบบอกคนตรงหน้าที่กำลังนั่งหน้างอ >“วันนี้ชุนเขาป่วยนิดหน่อย ฉันเลยแวะไปดูที่ห้องก่อนมา” ดวงตาพราวมุกแข็งกระด้างขึ้นทันทีที่ได้ยินชื่อ ชุน > “นายไม่เคยพลาดดูแลเขาเลยสินะ ถึงฉันจะเป็นแฟนนาย นายก็ยังทิ้งฉันไว้แบบนี้ทุกครั้ง” คินชะงักเหมือนกำลังพยายามพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจ > “ฉันไม่ได้ทิ้งเธอนะ ชุนเขาไม่มีใครเลยจริงๆฉันแค่..” คินหยุดกลางคัน > “แต่ฉันก็ไม่มีใครเหมือนกัน!” พราวมุกตวาดเสียงใส่คินทั้งน้ำตาเอ่อล้นออกมา ก่อนจะพูดต่อ >“นายเห็นเขาสำคัญกว่าฉันตลอด นายรู้ตัวไหม?” เธอลุกขึ้นทันที ก่อนจะหันหลังเดินหนี ทิ้งให้เขานั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น ในใจของเธอ ไม่เคยเกลียดเหยียนชุน… เธอแค่ อยากสำคัญกับคินเท่าที่ชุนเคยเป็น แต่ความเจ็บปวดนั้น ทำให้เธอเลือกทำบางสิ่งที่เปลี่ยนทุกอย่าง หนึ่งเดือนต่อมา พราวมุกหายตัวไปจากชีวิตคินโดยไม่บอกกล่าว ติดต่อไม่ได้แต่ปรากฏตัวอีกครั้ง… ในฐานะคนรักใหม่ของ “หัวหน้าของชุน” ตอนที่ชุนไปฝึกงานที่บริษัท และความลับที่ฝังลึกก็คือ เธอเคย “สารภาพรัก” กับเหยียนชุนแล้วถูกปฏิเสธด้วยคำพูดที่เย็นชาเพียงประโยคเดียว > “ผมไม่เคยคิดกับคุณเกินกว่าคำว่าเพื่อนร่วมงาน” มันคือคำที่ฝังใจเธอจนทุกวันนี้ และคือจุดเริ่มต้นของความเกลียด…ที่แปรเปลี่ยนเป็นไฟแค้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม