ทฤษฎีหวงรัก 5 : วันแรกก็เอาเลย

1525 คำ
เวลาเดียวกัน ณ บ้านของวาฬ “อะไรนะ” เสียงทุ้มย้อนถามกลับผู้เป็นพ่ออย่างไม่เชื่อหูตัวเองกับสิ่งที่พึ่งได้ยินไปเมื่อครู่นี้ สิ่งที่ได้ยินทำเอาขนมที่กำลังกินอยู่หมดความอร่อยลงไปในทันที พ่อของโป๊ยเซียนพึ่งจะกลับไปไม่ถึง 5 นาทีก็ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับหน้าที่ใหม่เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปวาฬจะต้องอยู่กับโป๊ยเซียนตลอดเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง” พ่อพูดย้ำอีกครั้งตามคำขอของเขา สายตาที่มองมารับรู้ได้ว่าสิ่งที่ออกมาจากปากไม่ได้เป็นการพูดเล่นแต่อย่างใด “ทำไมต้องอยู่กับโป๊ยเซียน” ถึงเราจะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กเพราะบ้านอยู่ฝั่งตรงกันข้าม บ่อยครั้งที่เขาติดรถตู้บ้านโป๊ยเซียนไปลงที่มหาวิทยาลัยและก็บ่อยครั้งอีกเช่นกันที่โป๊ยเซียนกลับบ้านพร้อมเขา ระหว่างเราเป็นความสัมพันธ์ของเพื่อนอย่างชัดเจน แต่ที่น่าแปลกใจในครั้งนี้คือต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา 24 ชั่วโมงนี่แหละ “อยู่ตลอดเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นเวลาสองเดือนจนกว่าจะถึงวันเกิดของโป๊ยเซียน และจนกว่าจะหาบุคคลที่เป็นต้นตอของเรื่องนี้เจอ” ประโยคหลังที่ออกมาจากปากของพ่อนั้น ทำเอาคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ต้นตอของเรื่องนี้? “มีคนทำอะไรไม่ดีใส่โป๊ยเหรอ แต่โป๊ยเซียนมีของกันอยู่นะ” ห้าแถวนั้นเขาก็ลงเองกับมือ อักขระไม่ถูกลบล้างไปได้ง่าย ๆ “คิดว่ามี ทำโดยตรงไม่ได้เลยใช้ทางอื่นทำใส่โป๊ยเซียน ทำให้ตายโหงในช่วงที่คนคนหนึ่งกำลังดวงตกสุดขีดของชีวิต ผีห่ามันชอบนักล่ะ” ปกติโป๊ยเซียนดูเป็นผู้หญิงแรง ๆ และไม่ยอมคนแต่ยัยนั่นไม่ได้เป็นกับทุกคน จะเป็นกับพวกที่เข้ามาหาเรื่องตัวเอง ซึ่งปกติไม่มีใครกล้ายุ่งกับเธอหรอกคนที่โดนหาเรื่องจะเป็นเพื่อนในกลุ่มมากกว่าและนิสัยจริง ๆ ของโป๊ยเซียนก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ภาพลักษณ์ภายนอกแสดงออกด้วย “อยู่ยี่สิบสี่ชั่วโมงนี่ไม่ใช่ว่าต้องนอนห้องเดียวกันด้วยเหรอ” สิ่งที่พูดออกมาจากปากนั้นพูดอย่างไม่ใส่ใจและไม่คิดว่าจะต้องทำถึงขนาดนั้น ยังไงก็เป็นผู้หญิง ผู้ชายใครเขาจะให้ไปนอนห้องเดียวกันล่ะ “เออ” พ่อตอบกลับเพียงสั้น ๆ สามารถเรียกสายตาจากเขาให้มองไป “เฮ้ย...เอาจริงดิ” ลืมไปหรือเปล่าว่าอีกฝ่ายเป็นเพศไหน ไม่ห่วงลูกชายตัวเองเลยนะว่าจะโดนกระทำอะไรบ้าง พ่อไม่รู้แน่ ๆ ว่าโป๊ยเซียนเป็นยังไง ผู้ชายอย่างเขายังกลัวเลย “นอนด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ไปเรียนว่ายก็ไปด้วยกันเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก โป๊ยเซียนก็ไม่มีแฟนไม่มีคนคุยไม่มีปัญหาแน่นอน มึงไม่มีแฟนที่จะก่อให้เกิดปัญหาตามหลัง...หรือมี?” พ่อพูดอย่างหน้าตาเฉย เพราะการที่เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็กจนโตมันเลยดูเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันไปแล้ว “ไม่มี” เขาไม่มีสิ่งที่พ่อถามนั่นจริง ๆ ไม่มีเป็นตัวเป็นตน แต่ก็ไม่ได้ว่างอะไรขนาดนั้นที่จะต้องเอาโป๊ยเซียนเกาะไปไหนมาไหนด้วยทุกที่ “ทุกอย่างมันลงล็อกดีแล้ว ขออย่างเดียวห้ามบอกโป๊ยเซียนให้รู้ว่ามีคนกำลังจะทำอะไรใส่ ให้รู้แค่ว่าเป็นช่วงเวลาดวงตกทำให้ต้องอยู่กับคนดวงแข็งอย่างมึงก็พอวาฬ” “ง่ายดีเนอะ” ไม่มีอะไรง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว ทุกคนง่ายหมดยกเว้นเขานี่แหละ “มันต้องง่ายแล้วนาทีนี้ ถึงตายนะมึง” “ให้โป๊ยมันอยู่ในบ้านเลย จะให้เกาะสอยห้อยตามกันไปทำไม” เกิดเรื่องไม่ดีในช่วงนี้ก็แค่เก็บตัวให้ดี อยู่ในที่ปลอดภัยหรือว่าที่ปลอดภัยที่สุดคือพื้นที่บ้านของเขาเหรอ? “อยู่กับมึงนี่แหละ พ่อดูมาดีแล้วว่าต้องวาฬเท่านั้นคนที่เกิดวัน เดือน ปีและเวลาเกิดแข็งที่สุด...แล้วแข็งแค่นี้พอนะอย่างอื่นไม่ต้องแข็งตาม” สิ้นเสียงสายตาของเรา 2 คนพ่อลูกได้หันไปมองกันและกัน “เจอโป๊ยเซียนยังไงก็แข็งไม่ออก แรงกว่าผีอีก” เฮ้อ...ไม่ช่วยก็ตายทิ้ง ไม่เห็นจะมีตัวเลือกไหนที่พอจะเป็นทางออกสำหรับเขาเลย “ที่ไม่อยากให้โป๊ยไปด้วยเพราะติดปัญหาเรื่องการไปหาผู้หญิงล่ะสิ...สักวันเดี๋ยวพลาดนะวาฬ” มองเห็นลูกตัวเองเป็นคนยังไงเนี่ย “ไม่ต้องห่วง ไม่ได้มั่วขนาดนั้น” พูดจบก็เอนตัวนอนลงนอนเหยียดยาวไปกับโซฟา กลับมาให้ความสนใจที่ห่อขนมในมือตามเดิม “กูเห็นพูดแบบนี้พลาดทุกราย” “เดี๋ยวไม่ช่วยเลยนิ” มีแค่ไม่กี่เรื่องที่ต่อรองพ่อได้ แล้วคนในคำสั่งของพ่อก็เป็นคนที่ตัวเองนับว่าเป็นเพื่อนด้วย...จะไม่ช่วยก็ดูใจดำเกินไปหน่อย “จะปล่อยเพื่อนตายไปต่อหน้าต่อหรือไง” พ่อชำเลืองสายตามองมาและรอฟังคำพูดจากเขา “โป๊ยไม่ตายหรอก อ่อนกว่าพวกนั้นเหรอพ่อน่ะ” ไม่ตายเพราะเขายอมรับคำสั่งของพ่อแล้วนี่ไง... “หึ! มึงพูดอยู่กับใคร” พูดจบพ่อก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้เขานอนมองตามหลังจนกระทั่งลับสายตา แค่ไม่กี่เดือนอดทนเอาแล้วกัน เวลามันเดินไปไวจะตาย… แค่ต้องอยู่กับโป๊ยเซียนเรื่องแค่นี้ไม่ยากเกินความสามารถหรอก (โป๊ยเซียน) เช้าวันต่อมา ณ บ้านของวาฬ เวลา 09.00 น. ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าก้าวเดินขึ้นบันไดมายังชั้นสองของตัวบ้าน บรรยากาศรอบตัวในเวลานี้ที่มีเพียงความเงียบเพราะสมาชิกในบ้านทุกคนไม่ได้อยู่ในเวลานี้ วันแรกของการเริ่มต้นที่ฉันต้องมีวาฬอยู่ใกล้ตัว แต่บังเอิญบุคคลนั้นกลับไม่อ่านข้อความฉันตั้งแต่เมื่อคืนฉันตอนนี้ต้องขึ้นมาตามด้วยตัวเอง เราก็อุตส่าห์ยืนรอและพยายามโทรหาเป็นเวลาร่วม 30 นาทีอย่างใจเย็น แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบไร้การตอบรับใด ๆ สุดท้ายจึงต้องมาด้วยตัวเอง ลุงวิทบอกว่าให้ขึ้นไปปลุกที่ห้องได้เลย ฉันไม่เคยมาปลุกเขาในช่วงเวลาเช้าแบบนี้แต่เคยมาเอาของที่ห้องของวาฬอยู่บ่อยครั้ง เพราะหมอนั่นขยันลืมของเก่งเป็นที่หนึ่ง กริ้ก! ประตูห้องนอนของวาฬถูกเปิดออกโดยที่ฉันไม่คิดที่จะเคาะส่งสัญญาณบอกคนในห้องด้วยซ้ำ เพราะรู้ดีว่าเจ้าของห้องในเวลานี้คงนอนหลับไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว ความสามารถในการนอนที่มากกว่าชาวบ้านเขาก็คือนอนได้ราวกับคนซ้อมตาย “เฮลโล ~ สวัสดีค่ะคุณรชต ยินดีต้อนรับสำหรับเช้าวันใหม่!” เสียงทักทายยามเช้าที่มาพร้อมกับสายมองไปยังบุคคลที่นอนคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่ม ผ้าห่มพื้นหนานูนขึ้นตามสัดส่วนของร่างกายและความสูงที่คลุมขึ้นมาถึงหัว เวลานี้ฉันไม่เห็นอะไรเลยเห็นเพียงแค่ผ้าห่มเท่านั้น ส่งเสียงเรียกแทบตะโกนขนาดนี้ก็ยังไม่มีการตอบกลับ สาบานเถอะวาฬนี่คือการนอนของแกนึกว่าตาย! เสียเวลาสุด ๆ ที่ฉันต้องไปเรียนนะ ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อขอร้องและลุงวิทก็เป็นผู้เสนอความคิดนี้มา ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงไม่สนใจทำตามพวกเขาอย่างแน่นอน แต่เพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่ก็ต้องยอม แค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น ตอนนี้ฉันจึงต้องปลุกให้วาฬตื่นขึ้นมาให้ได้ พรึ่บ! ผ้าห่มที่คลุมตัววาฬอยู่นั้นถูกกระชากเปิดออกด้วยฝีมือของฉันเอง เสียงตะโกนลั่นขึ้นเพื่อเป็นการปลุกให้เพื่อนได้ตื่นขึ้นมาแต่แล้ววินาทีที่ผ้าถูกเปิดออก สิ่งแรกที่ฉันเห็นก็คือแผ่นหลังขาวเปลือยเปล่าโชว์รอยยันต์อักขระไทยเต็มหลังและส่วนล่างที่ไม่ได้ใส่อะไรปกปิดอยู่เลย “วาฬตื่นได้ กรี๊ด!!” ปากที่กำลังขยับพูดต้องเปลี่ยนเป็นส่งเสียงกรี๊ดแทนให้กับสิ่งที่ตาเห็น ผ้าห่มถูกปล่อยจากมือแต่สายตาก็ยังเอาแต่จ้องมองภาพตรงหน้าตาค้าง เจ้าของชื่อสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจจากเสียงกรี๊ดของฉัน มือหนายื่นมาดึงผ้าห่มกลับไปคุมตัวเองเอาไว้ตามเดิม แล้วพลิกเปลี่ยนเป็นท่านอนหงายทำให้เราได้สบตากันอย่างตรงไปตรงมา “วันแรกก็เอาเลยเหรอโป๊ย เฮ้อ…” จังหวะที่วาฬพลิกตัวนอนหงายเมื่อกี้ฉันเห็นไอ้ตรงนั้นตั้งโด่ขึ้นมาด้วย… ไม่แปลกใจว่าทำไมผู้หญิงถึงติดไอ้วาฬกันจัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม