เมื่อสนามแข่งพร้อมแล้ว รถทั้งสองคันก็มาจอดเทียบ อยู่ระดับที่เสมอกันในเส้นแข่ง สายตาคมของทั้งคู่ จ้องกันอย่างไม่วางตา ด้วยที่ของเดิมพันในวันนี้ คือสิ่งที่อยากได้เหมือนกัน และการเอาชนะกันในวันนี้ มันก็ดุเดือดกว่าทุกครั้ง
เขาจะไม่ยอมปล่อยให้มันได้ สมดั่งใจ และเขาจะเป็นผู้ชนะไม่ใช่เสมอกันอีกต่อไป คนอย่างเขาต้องชนะเท่านั้นเพราะแพ้ไม่เป็น
ส่วนภีมเองก็มองคู่แข่งพร้อมกับยิ้มมุมปาก ด้วยที่รู้นิสัยไอ้หมอนี่ดี มันคงจะบ้าดุเดือดกว่าทุกครั้งและพยายามเอาชนะเขาให้ได้ แต่ไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไปหรอก เพราะวันนี้เขาเองก็จะไม่แพ้ เขาอยากเห็นคนบ้าดุเดือดอย่างมันคลั่งแล้ว คงจะสนุกไม่น้อย
ด้านกัญจาวีร์ ก็รู้สึกชาไปกับสิ่งที่ได้รับรู้ ก็ไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะทำได้ขนาด เอาเธอมาด้วยเพื่อมาเป็นสิ่งของเดิมพัน ให้คนที่ชนะในการแข่งวันนี้ได้เธอไป จากที่ต้องโวยวาย เธอก็เอาแต่นิ่งเงียบ พร้อมกับมองเขาด้วยสายตาที่เกลียดชังมากกว่าเดิม ทางไหนก็คงเลวร้ายเหมือน ๆ กัน
"พร้อมไหม" เสียงประกาศกร้าวของบุ๊คลินก็ดังขึ้น พร้อมกับรถทั้งสองคันที่มาจอดเทียบกัน
"ปี้น ๆ ๆ" และเสียงแตรรถของทั้งคู่ก็ดังขึ้นพร้อมกัน เพื่อเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว และทีมงานที่ดูแลรถก็ต่างถอยออกไปข้างสนาม
"โอเค"
พรึบ
และ MC สาวคนสวย ก็ปล่อยธงลงในทันที จากนั้นรถของทั้งคู่ก็เคลื่อนออกไปด้วยความเร็ว
พริ้ววว
เสียงโห่ร้องในสนามก็ดังขึ้น พร้อมกับหลายคนที่นั่งไม่ติดเก้าอี้ เนื่องจากมีการเดิมพันเกิดขึ้น ทั้งยังมีการพนันอีกด้วย แต่ละคนก็ลงกับเดิมพันครั้งนี้ไปมากเหมือนกัน ด้วยที่ไม่รู้เลยว่าใครจะชนะในรอบนี้
"ชื่อฟ้าใสเหรอเราอ่ะ" บุ๊คลินก็ถามขึ้น พร้อมกับมีสีหน้าที่สงสัย จะว่าไอ้นายน์มันหวง มันก็ยอมให้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นเดิมพัน จะว่าไม่หวงดูจากสายตาก็ไม่น่าใช่
"คะ...ค่ะ" เธอตอบด้วยความรู้สึกกลัว เพราะไม่ใช่แค่สายตาของบุ๊คลิน แต่มันเป็นสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น จับจ้องเธออย่างสงสัยเช่นกัน
"เป็นอะไรกับไอ้นายน์ เป็นเด็กมันป่ะ" ถามพร้อมกับเอาบุหรี่ออกมาดูด
"มะ... ไม่ใช่ค่ะ"
"ไม่ใช่แล้วมากับมันได้ยังไง คนแบบมันไม่เคยพาใครมาที่นี่ หรือตั้งใจไว้แล้วจะเอาเธอมาเดิมพัน"
"..." เธอก็เพียงแต่หันไปทางอื่น คนที่นี่ก็คงไม่ได้คิดดีกับเธอเหมือนกับเขา
"หึ จะเป็นอะไรกับมันก็ได้ แต่อย่ารักมันก็พอ เพราะไอ้บ้านี่มันไม่มีหัวใจ" พูดจบบุ๊คลินก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันที
ใช่เธอรู้ดี คนแบบเขามันไม่มีหัวใจ เขาคือคนเลวสำหรับเธอ และเธอก็ไม่มีวันที่จะรู้สึกอะไรกับคนแบบเขา
พริ้วววว
รอบแรกผ่านไปด้วยทั้งคู่ตีเสมอกันมา และครั้งนี้แข่งถึงสามรอบสนาม เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง พร้อมกับความตื่นเต้นที่มากกว่าเดิม
แต่กับเธอแล้วมีแต่ความไม่พอใจ เธอในวันนี้เปรียบเหมือนสิ่งของ ที่เขาเอาไปเดิมพันไว้ และถ้าใครจะชนะ ทางเลือกสำหรับเธอมันก็เลวร้ายพอกัน
พริ๊ววว
รอบที่สามผ่านไปด้วยความเร็วมากกว่าเดิม ทั้งคู่ก็ยังคงตีเสมอกันมา จนเสียงปรบมือในสนามดังขึ้นอีกครั้ง อย่างสนั่นหวั่นไหวแต่ละคนนั่งไม่ติดเก้าอี้ พร้อมกับกำเงินในมือไว้แน่น
พอมาถึงรอบที่สาม เธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาบ้าง ถ้าเขาแพ้ วันนี้เธอคงได้ไปกับคู่แข่งเขา ซึ่งก็นึกไม่ออกเลยว่าจะเจออะไรบ้าง และเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าคู่แข่งเขาเป็นยังไง จะน่ากลัวแค่ไหน ก็ได้แต่ข่มใจไว้ พร้อมกับกำมือแน่นและก้มหน้าลง ไม่กล้าแม้แต่เงยขึ้นมองว่าใครจะเป็นผู้ชนะ
ด้านกิติกร เขาก็คิดไว้แล้วว่ายังไงวันนี้ เขาต้องเป็นผู้ชนะ ด้วยที่ตอนนี้เขาเป็นต่อ และไอ้คู่แข่งเขาก็ห่างเขาริบ แต่ในตอนนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะอยู่ดี ๆ คันเร่ง ของรถคันนี้ก็เหยียบไม่ไป เขาก็รีบพยายามย้ำเท้าหนัก ๆ อยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล
ภีมที่มองอยู่ก็ยิ้มมุมปากออกมา รีบเหยียบคันเร่ง และขับผ่านเข้าไปโดยเร็ว ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นไปจนสุด ในที่สุดเขาก็คว้าชัยชนะครั้งนี้ไปได้
ปี้นนนนนนนนนนนน
คนที่เข้าเส้นชัยก็บีบแตรรถมายาว ด้วยความสะใจที่สุด เขาอยากเห็นหน้ามันมาก ตอนนี้มันจะทำหน้ายังไงอยู่เมื่อรู้ว่าตัวเองพ่ายแพ้
แปะ ๆ ๆ
เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้น บางคนดีใจจนถอดเสื้อขึ้นมาแกว่งไปมา บางคนหยิบแชมเปญขึ้นมากดเปิดเลย
เธอที่ก้มหน้าอยู่ ก็ไม่กล้าเงยขึ้นมาดูว่าใครคือผู้ชนะ จริงอยู่ว่าเลวร้ายเท่ากัน แต่กับเขาถือว่าได้ใกล้ชิดกว่า ถ้าอีกคนชนะเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเธอจะเป็นยังไง จนใจตอนนี้ส่วนมาก ภาวนาอยากให้ผู้ชนะเป็นเขา แต่แล้วความหวังนั้นก็ไม่เป็นจริง
"และการแข่งขันในวันนี้ ภีมเป็นผู้ชนะ"
เสียงคนที่เชียร์ และได้ชัยชนะก็ดังขึ้น แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้ดังมาก เพราะส่วนมากคนที่เชียร์กิติกรก็เยอะ
กัญจาวีร์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นผู้ชายคนนั้นเดินลงมาจากรถ ด้วยท่าทางสุดเท่ แต่ตอนนี้เขาสวมหมวกกันน็อคใบโตอยู่ เธอก็เลยไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง
และในตอนนั้นรถของกิติกร ก็ขับมาจอดพอดี เขาเปิดประตูลงจากรถ และเดินตรงมายังซุ้ม ด้วยอาการที่หัวร้อนอย่างรุนแรง หมวกกันน็อคราคาแพงถูกถอดออก และโยนทิ้งอย่างไร้ราคา ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาทีมงาน ด้วยอารมณ์ที่เดือดดาน
"แม่ง! ใครทำรถกู!"
"เฮ้ยยย ไอ้นายน์ใจเย็น" เป็นบุ๊คลิน วายุ มาวิน แล้วก็คิมหันต์ ที่วิ่งมาจับเขาไว้ด้วยความตกใจ
"พวกมึงไปดูรถกูดิ ไปแหกตาดู!" เขายังพูดด้วยอารมณ์ที่โกรธ จนทีมงานที่อยู่ตรงนั้นต่างรีบวิ่งเข้าไปดูรถ ก็เห็นว่าเกิดความผิดพลาดจริง ๆ ทำให้แต่ละคนหน้าซีด จนทำอะไรไม่ถูก
กัญจาวีร์ที่เห็นแบบนั้น ก็พยายามจะเดินถอย แต่เขาก็หันมาหาเธอก่อน และดึงตัวเธอเข้าไปอยู่ใกล้ๆ จนหลังบางแนบไปกลับอกแกร่ง ทำให้เธอได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงมากของเขา ภายใต้ชุดแข่ง
"แม่ง แพ้แล้วพาลเหรอวะ อ้างรถเสีย?" เสียงของคู่แข่งที่ได้ชัยชนะก็ดังขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่เย้ยหยัน
"..." กัญจาวีร์ที่เพิ่งเห็นหน้าคู่แข่งของเขาครั้งแรก เธอก็ชะงักไปเช่นกัน ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลา ทั้งหน้าดูร้าย ๆ เหมือนกับเขาเลย
กิติกรกัดกรามแน่นจนขึ้นนูน ก็ไม่คิดเลยว่าวันนี้เขาจะแพ้มันได้ มันเป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจที่สุด ยิ่งเห็นสายตาที่มันมองเธอ เขายิ่งหาทางออกกับเรื่องนี้ไม่ได้
"กูมารับเด็ก อ่อ เด็กกู" ภีมพูดพร้อมกับ ดึงตัวเธอให้เข้าไปหา แต่คนที่ไวกว่า ก็ดึงตัวเธอมากอดไว้ก่อน
"มึงจะเอาอะไร"
"ถามอะไรของมึง"
"อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ มึงอยากได้อะไร!" เขาถามแบบไม่หลบสายตา แม้จะรู้สึกแปลก ๆ กับการกระทำของตัวเอง แต่เขาคงยอมไม่ได้ถ้าปล่อยกัญจาวีร์ไปกับมัน
"หึ ดูมึงจะหวงนะ แต่ไม่เอาอะไรว่ะ เพราะกูได้ผู้หญิงคนนี้แล้ว" พูดจบก็ดึงตัวเธอไปยืนข้างๆ ก่อนจะมองอย่างเย้ยหยันและยิ้มมุมปากให้
"..." เมื่อทำอะไรไม่ได้แล้ว เขาก็เพียงแต่มอง เพราะไม่อยากอ่อนแอไปมากกว่านี้แล้ว ยิ่งมันรู้ว่าเขาหวง คนอย่างมันก็ยิ่งอยากได้
"ไปกันเถอะคนสวย คืนนี้ยังอีกนาน" พูดจบก็ดึงแขนกัญจาวีร์ให้เดินตามไป
"มะ...ไม่นะ นายน์" จนในที่สุดเธอก็พูดออกมา ด้วยความรู้สึกกลัวอยู่ในใจ ยิ่งได้ยินคำพูดแบบนั้น เธอก็ยิ่งกลัว กำลังจะเดินกลับไปหาเขา เพื่อหวังว่าเขาจะยอมช่วยเธอบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล...
"..." เขาก็เพียงแต่มอง นอกจากไม่ช่วยเธอแล้ว ยังหันหลังและรีบเดินหนี ไปจากตรงนั้นด้วยความหงุดหงิดทันที
"หึ เธออย่าคาดหวังอะไรกับคนแบบมัน รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวมันจะดึก" ภีมดึงตัวเธอ และพาเดินไปขึ้นรถหรูของเขาในทันที