บทที่6 เมียเก็บ

1678 คำ
“พี่ริชพูดมันหมายความว่ายังไงคะ ชมพูไม่เห็นจะเข้าใจ” หัวใจของชมพูเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะกับคำพูดของท่านประธานหนุ่มไร้หัวใจคนนี้ “ฉันหมายถึงว่าฉันเอ็นดูเธอตั้งแต่แรกต่างหาก ใครจะพูดยังไงก็ไม่สน ถ้าหากทำให้เธอไม่สบายใจ ฉันไม่ปล่อยคนที่พูดจาใส่ร้ายเธอลอยๆ เอาไว้แน่” ท่านประธานภูริชเอาจริง สั่งจารุวี เลขารองประธานออกไปตามพนักงานสาวด้านล่างที่ซุบซิบนินทาคนสำคัญของเขา ซึ่งทั้งสองคนเพิ่งเข้ามาทำงานได้แค่สองเดือนเอง “พวกเธอใช่ไหมที่เป็นคนพูดจาดูถูก หาว่าเลขาฝึกหัดของฉันเป็นเหมือนพวกผู้หญิงหิวเงิน อ่อย ให้ท่าฉันเพื่อหวังรวยทางลัดใช่ไหม” น้ำเสียงเข้มปนเกรี้ยวกราดทำเอาสองพนักงานข้างล่างสะดุ้ง “เอ่อ คือว่า...” สองพนักงานสาวก้มตาต่ำเพียงเกรงกลัวความผิด ใครก็รู้ว่าถ้าหากทำให้เขาโกรธเมื่อไหร่ ต้องถูกไล่ออกสถานเดียว “ฉันถามว่าจริงไหม!” เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นทำให้สองพนักงานหวาดกลัวสุดขีดรีบเปิดปากบอกความจริง “ชะ ใช่ค่ะ พวกเราเป็นคนพูดเอง พวกเราแค่พูดตามข่าวลือเท่านั้นเองนะคะ อย่าไล่พวกเราออกเลยค่ะท่านประธาน” “ข่าวลือเหรอ ใครเป็นคนปล่อยข่าวลือนั่น?” ภูริชฉุกคิด หรือว่าจะเป็นเจนนี่ที่คอยขัดขวางผู้หญิงทุกคนแทนเพื่อนรัก “ดิฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะท่านประธาน อย่าไล่พวกเราสองคนออกเลยนะคะ พวกเราไม่ได้ตั้งใจ” “พี่ริช เอ่อ ท่านค่ะ ชมพูว่าท่านอย่าไล่พวกเธอสองคนออกเลยค่ะ อย่าทำเรื่องเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องใหญ่สิค่ะ” ชมพู ในฐานะเลขาฝึกหัดของเขาช่วยพูดโน้มน้ามใจเขาอีกคน “แต่ยังไงกฎก็ต้องเป็นกฎ สองคนนี้ทำงานไม่ได้เรื่องตั้งสองครั้ง ฉันยังใจกว้างให้โอกาสแก่พนักงานทุกคน แต่ถ้ามีครั้งที่สาม พวกเธอเตรียมตัวเก็บข้าวของออกไปจากที่นี่ได้ ฉันไล่พวกเธอสองคนออก” คำสั่งเด็ดขาดของท่านประธานภูริช สองพนักงานปากดีหวาดกลัวจนตัวสั่นสะท้านไปทั่วตัว พวกเธอถูกเจ้านายไล่ออกเพราะทำงานไม่มีคุณภาพถึงสองครั้งและซุบซิบนินทาใส่ร้ายป้ายสีผู้หญิงของเขา เพียงเพราะได้ยินมาจากข่าวลือเท่านั้น “ออกไป อย่าให้ฉันเห็นหน้าพวกหล่อนอีก!” จารุวีต้องพาอดีตพนักงานสาวสองคนปากดีรีบออกจากห้อง ดูท่าว่าเขาจะโกรธของจริง ชมพูคงเป็นผู้หญิงสำคัญสำหรับท่านประธานหนุ่มถึงได้ออกโรงปกป้อง แบบนี้เบญจมาศคงรับศึกหนัก “พี่ริช ทำไมถึงต้องทำเพื่อชมพูด้วยล่ะคะ” “เธอยังไม่เข้าใจฉันอยู่อีกเหรอ เธอนี่มันซื่อบื้อกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เสียอีก” รอยยิ้มมุมปากก่อนจะยกกาแฟดำดื่มจนหมดถ้วยแก้วรวดเดียว “ก็ชมพูไม่เห็นเข้าใจเลยนี่ค่ะ พี่ริชออกโรงปกป้องลูกน้องตัวเองดีกว่าคู่หมายของพี่ริชเสียอีก” “ฉันไม่อยากได้คู่หมายหรือคู่หมั้นที่คุณแม่จัดแจงเอาไว้ให้ ชีวิตทั้งชีวิตเป็นของฉัน โดยเฉพาะเรื่องหัวใจก็เช่นกัน มันอาจจะเร็วเกินไปที่ฉันจะพูดคำนี้กับเธอ แต่ฉันรีรอไม่ได้อีกต่อไป” ชายหนุ่มเองไม่อยากพลาดโอกาสอีกต่อไป เขากลัวว่าจะมีผู้ชายคนไหนมาแย่งเธอ โดยไม่ได้สิ่งที่ต้องการ “พี่ริช หมายความว่ายังไงคะ” ชมพูไม่กล้าคาดคิดว่าท่านประธานหนุ่มผู้มีฐานะร่ำรวย ตระกูลชื่อดังเป็นที่รู้จักจะมาลดตัวมาสนิทสนมกับเด็กยากจน “ฉันจะไม่อ้อมค้อม ตั้งแต่ที่พบหน้าเธอครั้งแรกในวันนั้น หัวใจเย็นชาของฉันกลับเกิดอาการใจเต้นแรง สั่นไหว ไม่เคยเกิดกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน จนตอนนี้ฉันรู้ใจตัวเองว่าฉันรัก รักในความดีและความจริงใจของเธอ ชมพู” น้ำเสียงเข้มทุ้มใหญ่เอ่ยแววอบอุ่น อ่อนโยนแก่เลขาสาวฝึกหัดตรงหน้า เขาเสแสร้งทำเป็นผู้ชายใจดีเพื่อให้หญิงสาวตายใจ “พี่ริช มะ เมื่อกี้พี่ริชพูดว่าอะไรนะคะ” หูของเธอไม่ได้ฝาดไปเองใช่ไหม เขาจะมาบอกว่ารักหญิงสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีที่เหมาะสมกับเขาสักอย่าง “ฉันจะไม่พูดซ้ำ และครั้งนี้จะเป็นคำพูดที่ฉันจะพูดเพียงครั้งเดียว” ภูริชหยุดพูดชะงักก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ชิดร่างบางที่ยังช็อคค้างอยู่นั่น สายตาคมกริบส่อแววถึงความจริงใจต่อเลขาสาวฝึกหัดคนนี้ “ฉันรักเธอ” “....” คนที่ถูกหนุ่มหล่อที่เปรียบเสมือนผู้ชายในฝันของเธอ อึ้งหนัก เธอคิดเองว่าตอนนี้ยังฝันไปแน่เลย “ฉันรักเธอ ชมพู มาเป็นเมีย(เก็บ)ของฉันเถอะ!” ริมฝีปากหนาค่อยโน้มลดลงมาแนบชิดกลีบปากอวบอิ่ม แต่ไม่ทันที่เขาจะล่วงเกินหญิงสาว ชมพูตั้งสติก่อนผละออกจากคนตัวสูง “พี่ริชคิดจะทำอะไรคะ ชมพูหิวข้าวแล้วค่ะ” ใบหน้าหวานเก็บซ่อนสีหน้าขวยเขินเอาไว้ คำบอกรักจากปากของประธานหนุ่มทำเอาใจบอบบางแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “นั่นสินะ ฉันเองก็รู้สึกหิวแล้วเหมือนกัน หิวจนตาลายแทบไม่รู้ว่าตรงไหนข้าว ตรงไหนคือคน” “ตะ แต่ว่าคนกินไม่ได้นะคะ” นักศึกษาฝึกงานรีบถอยก้าวออกจากเขากับคำพูดมีเลศนัยแก่คนเจ้าเล่ห์ “ใครบอกว่ากินไม่ได้ กินบนเตียง!” ภูริชเอ่ยหยอกล้อเหยื่อสาวเล่นเพื่อให้คนตัวเล็กรู้สึกสบายและไว้วางใจมากขึ้น “พี่ริช!” “ฉันแค่ล้อเล่นเอง ทานข้าวกันดีกว่า หวังว่าเธอจะชอบ” เมื่อบอกความในใจของตัวออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้ เขาก็ไม่ต้องปิดบังความรู้สึกนั่นอีก ชมพูกลับอบอุ่นกับฝ่ามือหนาร้อนระอุที่จับกุมมือเธอเข้ามานั่งโซฟาเทียบเท่ากับผู้บริหารหนุ่มสูงส่ง “ขอบคุณค่ะพี่ริช” นักศึกษาฝึกงานไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองเป็นคนทลายกำแพงหัวใจเย็นชาของท่านประธานไร้หัวใจ เธอเองก็แอบชอบเขาตั้งแต่แรกจึงลองเปิดใจรับเขาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีคู่หมายที่เขาไม่ต้องการก็ตาม ............ เบญจมาศเข้ามาบริหารงานที่โรงแรมของคุณพ่อวรินทร ซึ่งพ่อเธอต้องการกระชับมิตรสัมพันธ์กับลูกชายเจ้าของบริษัทตลาดหลักทรัพย์มากกว่าภูริช คนที่คุณแม่รุจิดาต้องการเป็นว่าที่ลูกเขย “นี่อัครวินทร์ ลูกชายของอคินทร์ มาเป็นตัวแทนของพ่อเขาเข้าร่วมประชุม เบญจมาศ ลูกสาวคนเดียวที่จะมารับกิจการช่วงต่อจากฉัน” คุณท่านวรินทรเอ่ยแนะนำให้สองหนุ่มสาวรู้จักกัน อัครวินทร์ถือว่าเป็นหนุ่มหน้าตาดีไม่แพ้กับภูริช คนที่เธอแอบปลื้มมานาน แต่เธอไม่สนใจ “ลูกเบญ ทำไมทำตัวไม่น่ารักกับเขาแบบนี้” คนเป็นพ่อเอ่ยห้ามปราบลูกสาวเอาแต่ใจ “ไม่เป็นอะไรหรอกครับคุณวรินทร ลูกสาวของคุณคงไม่ชอบใจผมก็ได้ เพราะเธอคงคิดถึงคู่หมายตัวเองที่เขาไม่เอา แต่ก็ยังตามตื้ออยู่ได้ จริงไหมครับคุณเบญ” น้ำเสียงเข้มเอ่ยยียวนกวนประสาททำเอาสาวเจ้าอารมณ์ขึ้นง่าย “นี่คุณอัครวินทร์ มันจะมากเกินไปแล้วนะ” เบญจมาศยิ่งไม่มีความอดทนกับใครยิ่งโมโหปรี๊ดมาก “ผมแค่พูดความจริง ผมผิดตรงไหนเหรอครับ” คนตีหน้ามึนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ราวกับว่าตัวเองไม่ได้พูดผิด “ผิด! ผิดตรงที่คุณพูดมันออกมานะสิ” “อ้อ เป็นคนหลงตัวเอง รับความจริงไม่ได้” อัครวินทร์รู้สึกดีที่ได้แกล้งลูกสาวเจ้าของโรงแรมชื่อดัง แน่นอนยิ่งแหย่ก็ยิ่งปรี๊ดแตกทุกที “นายอัครวินทร์!” “ใจเย็นๆ ลูกเบญ คุณอัคร ผมต้องขอโทษแทนลูกสาวของผมด้วยนะครับที่พูดจาไม่ดีใส่คุณ ลูกเบญมากับพ่อ เดี๋ยวนี้” “พ่อ” เบญจมาศถูกคุณพ่อเอ็ดดุ เพียงเพราะทำมารยาทเสียใส่ลูกค้ารายใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุนที่นี่ “หึ! นี่น่ะเหรอลูกสาวของคุณวรินทรที่พ่อต้องการอยากได้เธอมาเป็นสะใภ้ เสียใจด้วย เพราะฉันไม่ชอบลูกคุณหนูขี้วีนเหวี่ยงอย่างเธอ เบญจมาศ” แต่เกลียดอย่างไรก็ย่อมได้อย่างนั้น.... _______ “วันนี้มีงานอะไรด่วนพิเศษไหมคุณเลขาฝึกหัดของฉัน” หลังจากชมพูทำหน้าที่เก็บกวาดชามจานออกไปจากที่นี่เสร็จแล้ว ประธานหนุ่มเจ้าเล่ห์หยัดยิ้มย่ามใจก้าวตรงมาประชิดตัวร่างบางที่มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม คนตัวเล็กถูกเขารวบตัวประชิดแนบอกแกร่งที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เผลอทำให้เธอใจเต้นแรง “พะ พี่ริช เอ่อ ชมพูขอดูตารางงานในวันนี้ก่อนนะคะ” เมื่อเจอใบหน้าคมสันหล่อใกล้ชิดปลายจมูกของเธอทำให้ไม่ค่อยมีสติกับงาน “ฉันบอกกับเธอแล้วว่าเลขา(ฝึกหัด)ของฉันทุกคนต้องมีความจำดีเลิศ ว่ายังไง สรุปวันนี้มีงานเร่งด่วนไหม” “มะ ไม่มีค่ะ มีแค่งานค้างเมื่อวานที่ต้องทำให้เสร็จและงานเซ็นเอกสารแค่สองสามแฟ้มเฉยๆ ค่ะ ไม่มีการนัดพบลูกค้าหรือคุยเจราคู่ค้าคนใหม่ค่ะพี่ริช” “อ๋อ เหรอ ถ้าอย่างนั้นดีเลย เราจะได้หากิจกรรมอะไรสนุกๆ ออกกำลังกายในร่ม” สายตาส่อแววหื่นกระหายปิดไม่มิดสำรวจเรือนร่างสวยงามน่าสัมผัส โดยเฉพาะทรวงอกใหญ่เสียดสีอกแกร่งแทบควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เธอจะได้เป็นเมีย(เก็บ)บนเตียงของเขาอย่างนั้นหรือ ชมพู!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม