ชาเมลtalk
ฉันถ่ายงานเสร็จก็เปลี่ยนชุดเตรียมออกไปหาอะไรกินดีกว่าแล้วค่อยกลับบ้าน
“ชาเมลเธอลืมฉัน” ฉันหากุญแจรถในกระเป๋าแหงนหน้าขึ้นมาพอดีก็มีวินอยู่ข้างหน้าละ
“นี้นายยังไม่กลับอีกหรอ” ฉันมองหน้าเขาอย่างตกใจ ทำไมเขาไม่กลับไปละฉันก็บอกแล้วไงว่าทำงานอยู่ นี้เขารอฉันนานเหมือนกันนะ
“ก็บอกว่าจะไปกินข้าวไง” เขาพูดพร้อมกับยิ้มให้ อะไรกันเนี่ยทำไมวันนี้เขาแปลกจังแล้วมายิ้มให้ทำไม คนในกองก็เริ่มจับจ้องมาที่ฉันกับเขาละ
“ใครบอกจะไปกับนายอย่ามาทำตัวน่ารำคาญได้ไหม” ฉันรีบพูดตัดบทแล้วเดินออกมาเพราะเดียวก็เป็นข่าวอีกเขายิ่งเป็นลูกเจ้าของบริษัทด้วย ถ้าเป็นขึ้นมาฉันไม่มีงานจะเอาเงินที่ไหนใช้
“อย่าพูดมากเลย ไปกันดีกว่ารถเธอนะ” แต่เขาก็เดินตามฉันมาก่อนจะจับมือแล้วพามาที่รถฉัน ฉันได้แต่ทำหน้างงงวยมากเขาทำอะไรอยู่ตอนนี้ เขาจับฉันมานั่งที่เบาะตรงข้ามคนขับส่วนเขาก็ไปประจำที่คนขับ
“นานเป็นไรมากปะ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะทำไมต้องไปกินข้าวด้วยกันหรอ” ฉันพูดอย่างเสียงดังเพราะตอนนี้ไม่มีใครได้ยินแล้ว งงกับการกระทำเขามาก
“...” เขาทำหน้าตกใจที่ฉันพูดเสียงดัง
“นายเลิกทำแบบนี้เถอะไหนว่าให้เเฟนแค่ต่อหน้าเอเจไงนี่มันจะล้ำเส้นเกินไปแล้วนะ”
“ก็แค่อยากชวนกินข้าว”
“แต่ฉันไม่อยากกินไง”
“แล้วมันจะตายรึไงแค่ไปกินข้าวด้วยกันอะ” เขาเริ่มพูดขึ้นเสียงดังพร้อมกับใส่อารมณ์ ดีไม่ต้องแกล้งทำเป็นอ่อนโยนหรอกฉันไม่ชอบพูดแบบนี้แหละ
“ไม่ตาย แต่ฉันไม่อยากไป”
“ชาเมลตอนนี้ฉันถือไผ่เหนือกว่าเธออยู่นะ เธอไม่มีสิทธิปฏิเสธฉัน” ฉันว่าแล้วเขาต้องเห็นฉันเป็นแค่คนที่เอาไว้แก้แค้นมองฉันเป็นแค่ตัวเดินเกมเท่านั้น เกลียดผู้ชายแบบนี้ที่สุด
“ถือไผ่เหนือกว่าหรอ ได้งั้นอยากไล่ใครก็ไล่ออกไปเถอะมันไม่เกี่ยวกับฉันไล่ออกให้หมดเลยนะ” จริงๆ ฉันไม่ควรรับข้อเสนอนี้ตั้งแต่แรกเลย
“......” เขามามองที่ฉันพร้อมกับกำหมัด ทำไมจะต่อยฉันหรอ
“ลงจากรถฉันไป แล้วอยากไล่ใครออกก็เชิญเลยนะ”
เขาจ้องหน้าฉันด้วยความโกรธก่อนจะประกบริมฝีปากมาที่ปากฉันอย่างเร็ว ฉันพยายามใช้มือทุบที่อกเขาแต่ก็ไม่ได้ผลเขาเห็นว่าฉันไม่ยอมเปิดปากก็กัดที่ปากฉันจนฉันยอมเปิดให้
รสจูบของเขามันดีจริงๆ ดีจนตอนนี้ฉันเคลิ้มตามไปหมดอ่อนระทวยไปทั้งร่างกาย
“ฉันบอกว่าอย่าทำแบบนี้ไง” ฉันรีบตั้งสติก่อนจะเคลิ้มไปมากกว่านี้ ให้ตายสิชาเมลเธอเป็นอะไรของเธอวะ
“แต่เธอก็เคลิ้มไปกับฉัน”
“ลงไปจากรถฉัน แล้วหวังว่าเราคงจะไม่ต้องเจอกันอีกนะ” ฉันรีบลุกจากเบาะแล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูดึงแขนเขาให้ลงมาจากรถก่อนจะขึ้นไปนั่งที่คนขับเองแล้วรีบขับออกมา
จะบ้าตายฉันกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย เกือบไม่รอดอีกแล้วนะเมลเอ้ย เอาจริงๆ ฉันไม่ควรทำงานนี้ตั้งแต่แรกเพราะมันไม่มีอะไรตอบแทนเลยมีแต่เสียกับเสียทั้งนั้นนี้ดีนะที่ยังมีสติพอถอยออกมาก่อนไม่งั้นก็ไม่รู้จะเสียงอะไรไปบ้าง
วินtalk
ผมไม่น่าไปพูดแรงกับเธอขนาดนั้นเลยจนตอนนี้เธอไม่สนผมแล้ว เธอบอกให้ผมไล่คนออกเลยแล้วแบบนี้ผมจะเอาอะไรไปเป็นข้ออ้างเจอเธอวะไอ้วินเอ้ยงานเข้าแล้ว
@วันต่อมา
"จะเศร้าเหี้ยอะไรขนาดนั้น" ไอ้กิตถามขึ้นหลังจากที่อาจารย์เดินออกไป ผมคิดถึงแต่เรื่องชาเมลครับไม่รู้จะเอาไงต่อดี
"คนมีเมียอย่างมึงแม่งไม่เข้าใจหรอก"
"......."
"กูจะจีบชาเมล"
"แค่วิธีเข้าหามึงก็ผิดแล้วไอ้วินเอาอะไรไปชอบเขา" ไอ้กิตกระตุกยิ้มแล้วพูด
"ก็กูไม่รู้ว่าต้องเข้าแบบไหน"
"แต่ปกติมึงก็เข้าบ่อยนิ"
"มันคนละเข้าไอ้พีช" เข้าแบบนั้นผมเข้าบ่อยครับ แล้วก็ชอบเข้าด้วย
"อยากมีแฟนหรอพี่วินเลิกเหี้ยก่อนเลย" แพมตบที่ไหล่ผม เอาจริงๆตอนนี้ผมรู้สึกว่าพวกมันกำลังรุมด่าผมอยู่
"แหม่มแพมทีไอ้กิตยังไม่เลิกเหี้ยมันก็มีแฟน"
"อะไรกูไม่ได้เหี้ยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว"
"มึงจะไปเถียงกับไอ้กิตทำไม มึงชอบเขาก็ไปบอกเขาดิมาพูดแบบนี้เขาจะรู้หรอ" ผมอยากถีบไอ้พีชจริงๆ ผมบอกชาเมลไปสิบรอบแล้วแต่เธอไม่สนใจไง
"กูบอกไปแล้ว แต่เธอไม่สนใจกูอะ"
"งั้นมึงก็ทำใจ"
"คนอย่างวินไม่มีวันที่จำมานั่งทำใจเว้ย"
"กูจะรอดู"
"รอดูเลยแพมกูจะมีเมียต่อจากไอ้กิตแน่" ผมว่าแล้วยืนขึ้นอย่างมั่นใจก่อนจะเดินออกจากห้อง เรื่องนี้จริงๆผมไม่ได้บอกใครเลยนะครับว่าแกล้งเป็นแฟนกับชาเมลแต่ไอ้กิตมันอ่านเกมออกแล้วไอ้ไปเล่าให้แพมกับพีชฟัง น่าอายชะมัด
ผมใช่เวลาขับรถกลับคอนโดไม่นานก็ถึงแล้วก็มานั่งคิดเรื่องชาเมลอีก หรือจะโทรไปขอโทษเธอ
พอคิดได้อย่างงี้ผมก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเธอทันที
(ค่า เมลค่ะ) เธอรับแล้วพูดเสียงหวานออกมา นี้เธอคงไม่ได้เม้มเบอร์ผมไว้สินะ
"ฉันเองวิน อย่าพึ่งวางนะ"
(......) นี้ถ้าผมไม่บอกอย่าพึ่งวางเธอก็คงวางไปแล้ว
"เมล คือฉันขอโทษ" กลัวจะพูดออกมาได้มันต้องใช้ความกล้าอย่างมากครับ ความรู้สึกเหมือนตอนพรีเซนงานหน้าห้อง
(......) และเธอก็ยังไม่ตอบผมอีกเช่นเคย
"ขอโทษที่อาจจะล้ำเส้นเกินไป"
(แล้วมาขอโทษทำไม)
"ก็รู้สึกผิดไงเลยมาขอโทษ"
(ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนอย่างงนายจะรู้สึกผิด) ผมว่าแล้วเธอต้องไม่เชื่อ แต่ผมจริงใจนะเว้ยอยากขอโทษ
"ทำอะไรอยู่หรอ" ผมว่าเปลี่ยนเรื่องคุยเถอะเดียวเธอจะกลับมาโกรธอีก
(กำลังขับรถกลับบ้าน)
"งั้นฉันคุยเป็นเพื่อนนะ"
(ไม่ต้อง)
"ชาเมล นะๆขอคุยเป็นเพื่อน"
(.....) เงียบแบบนี้แสดงว่าตกลงครับ
"เอางี้แล้วกันฉันดีดกีตาร์แล้วก็ร้องเพลงให้เธอฟังดีกว่า" ผมรีบไปหยิบกีตาร์มาแล้วร้องเพลงให้เธอฟัง นี้คือเริ่มการจีบเลยนะเนี่ย