ชาเมลtalk
(เมลฟังอยู่ไหม) เสียงของวินถามขึ้นเพราะฉันไม่ตอบเขาหลังจากที่เล่นมาได้สามถึงสี่เพลงแล้ว
“ฟัง”
(แล้วทำไมไม่พูดบ้างละ)
“ถึงบ้านละ” จริงๆ ฉันถึงบ้านนานละแต่ยังอยากฟังเขาร้องเพลงอยู่
(ถึงแล้วหรอยังร้องไม่เสร็จเลยนะเหลืออีกตั้งหลายเพลง)
“แต่ฉันถึงแล้วไง”
(ก็ได้ๆ เดียวก่อนนอนโทรไปอีกนะ)
“.........” โทรมาอีกหรอแล้วเขาจะโทรมาทำไม
(โทรไปได้ไหม)
“อยากทำอะไรก็ทำเถอะแค่นี้นะ”
เบื่อคนอย่างคนเขาจริงๆ ถ้าจะโทรก็โทรเถอะจะมาบอกทำไม แล้วฉันเป็นอะไรเนี่ยนี้ฉันยอมคุยกับเขาแล้วหรอทำไมใจง่ายอย่างนี้ยอมยกโทษให้เขาได้ไงวะชาเมล
พอขึ้นมาบนห้องแล้วฉันก็ทบทวนหนังสือแล้วก็ค่อยอาบน้ำ ฉันไม่ค่อยได้ร่วมโต๊ะอาหารกับคนในครอบครัวหรอกเพราะไม่อยากทะเลาะกับป๊า ส่วนมากพี่แม่บ้านจะยกขึ้นมาให้มากกว่า แล้วเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรที่ฉันไม่กินข้าวด้วยเอาดีๆ ก็คิดว่าเขาแอบดีใจมากกว่าอีกนะที่เป็นแบบนี้
หลังจากที่อ่านหนังสือเสร็จฉันก็มาร์คหน้าต่อ ก่อนจะนอนฉันต้องใช้เวลาอยู่กับหน้าผมประมาณเกือบๆ 20นาทีเพราะหลายอย่างต้องลงหลายจุดมากเลยต้องให้เวลากับหน้าผมนิดนึง
~ตึด ตึด ตึด~
ฉันเหลือบมองโทรศัพท์ก็เห็นว่ามีคนโทรมาเลยรีบกดรับไม่ได้สนใจดูชื่อ
(นอนยัง) เสียงของนายวินถามขึ้นอย่างตื่นเต้น ฉันไม่คิดว่าเขาจะโทรมาจริงๆ ด้วยซ้ำ
“ยัง”
(เปิดกล้องได้ไหม)
“ไม่ ไม่เปิดเด็ดขาด” ฉันปฏิเสธเสียงเเข็งเพราะว่ายังไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะได้เห็นหน้าสดของฉัน
(ทำไมอะอยากเห็นหน้า) คำพูดของเขาทำเอาใจฉันสั่นพอสมควร มันเหมือนฟิลเเฟนเลยที่เขาพูดคำนี้ออกมา แต่ยังไงก็เถอะฉันไม่ใจอ่อนเเน่นอนเรื่องนี้
“ฉันล้างหน้าแล้ว”
(แล้วไงอยากเห็นหน้าสดเธอเหมือนกัน) เขาพูดออกมาอย่างธรรมดา แต่สำหรับฉันมันคือคำหยาบมากที่จะมาขอดูหน้าสด
“เป็นบ้าปะมาขอดูหน้าสดคนอื่น ขนาดพ่อแม่เขาอยู่บ้านด้วยกันเขายังไม่เคยเห็นเลยแล้วนายเป็นใครหรอ” ฉันพ้นคำพูดใส่เขาอย่างลืมตัว เพราะว่าอินเกินะไปหน่อย
(........)
“ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะได้เห็นหน้าสดของฉัน” ขนาดพี่คนส่งของที่มาตอนเช้าๆ เขายังไม่เห็นเลย ถ้าจะไปรับของฉันใส่เสื้อฮูดแล้วรูดขึ้นถึงเบ้าตาตลอด
(ขอโทษไม่คิดว่าจะจริงจังขนาดนี้) เขาอาจจะคิดว่าไม่จริงจังนะแต่วำหรับฉันมันสำคัญที่สุด
“อืม”
(แต่ผู้ชายเขาก็ชอบผู้หญิงหน้าสดนะ) นี้เขายังไม่อยากจบเรื่องหน้าสดหรอได้
“แล้วเป็นอะไรอะ ผู้หญิงซื้อเครื่องสำอาจหมดเป็นหมื่นๆ แต่มาบอกว่าชอบผู้หญิงหน้าสด นี้ถ้าใครพูดต่อหน้าฉันนะแม่จะตีให้เลย”
(เธอจริงจังไปปะเนี่ย ไม่เอาๆ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า) ก็ฉันมันจริงจังกับเรื่องแบบนี้นิ รู้แล้วเขาจะพูดออกมาทำไม
“แล้วโทรมามีอะไร”
(ถ้าไม่มีโทรมาไม่ได้หรอ) นี้เขากำลังจีบอยู่ปะเนี่ยทำไมคำพูดคำจาเป็นแบบนี้ ไม่เบาเลยพ่อหนุ่มคนนี้
“โทรมาจีบหรอ”
(แล้วถ้าบอกว่าใช่ละ)
“.......” ฉันอยากจะแกล้งเขาสักหน่อยแต่กลายเป็นว่าฉันต่างหากที่เขินกับคำพูดของเขา
(ชาเมล)
“อืม”
(เขินหรอ) นายนี้นั่งอยู่ข้างหลังรึเปล่าเนี่ยทำไมรู้เยอะไปหมดเลย
“ใครเขิน แล้วทำไมต้องเขิน”
(ไม่เขินก็ไม่เขิน ขอถามได้ไหมว่าทำไมเธอต้องขับรถกลับบ้านทุกวันเลยละแบบนี้ไม่เหนื่อยตายเลยหรอ)
“เหนื่อยดิ แต่ทำไงได้ฉันไม่มีคอนโด”
(แล้วทำไมไม่ซื้อคอนโด บ้านเธอก็รวย)
“ใครบอกนาย” เขารู้ได้ไงว่าบ้านฉันรวย
(ไอ้กิตเป็นคนบอก)
“เอาไว้เราสนิทกันกว่านี้นะฉันจะบอกนายเอง”
(อืม งั้นจะรอนะ)
“.......” ดูเหมือนการโทรมาครั้งนี้ของเขามันเปลี่ยนไปมากจากเดิม พูดดีกับฉันมาก ชวนคุยมากขี้น แล้วก็แปลกที่ฉันรู้สึกดีเหมือนกัน
(แล้วเหนื่อยไหมที่ขับรถแบบนี้ทุกวัน) คำถามของเขาทำใจฉันฟูมากเพราะไม่เคยได้ยินคำนี้ออกมาปากคนในครอบครัวเลยแต่วินเป็นที่พึ่งรู้จักแต่ฉันกลับได้รับคำถามนี้จากเขา
“........” ความน่ารักของเขามันก็มีเยอะนะแต่ทำไมพึ่งมาใช้
(เมลได้ยินไหม)
“ได้ยิน แต่ไม่รู้จะตอบว่าไง”
(หึ งั้นนอนเถอะเดียวต้องตื่นเช้าอีกกว่าจะถึงมหาลัย)
“อืมงั้นแค่นี้นะ”
(ค๊าบฝันดีครับ)
ฉันนั่งยิ้มนั่งน้อยยิ้มใหญ่กับคำพูดของเขาทั้งๆ ที่เขาวางไปแล้ว น่ารักจังนานแล้วนะที่ไม่มีคนมาคอยบอกคอยถามแบบนี้ พอกลับมารู้สึกอีกทีมันก็ดีไปอีกแบบ