บทที่ 5 BAD DANGEROUS

1709 คำ
บทที่ 5 “อือหืม~ อีวา มึงดังแล้วค่ะอีดอก” ในขณะที่พวกฉันกำลังนั่งกินของเล่นกันที่ร้านนั่งชิวแถวๆ มหาลัยหลังจากที่เรียนกันเสร็จแล้ว อยู่ ๆ แบมบี้มันก็พูดขึ้นมาพร้อมกับโชว์หน้าจอโทรศัพท์มือถือของมันที่มีรูปของฉันกับเดเนียลนั่งใกล้กันตอนอยู่ที่โรงอาหาร... “สาวการตลาดหน้าสวยหุ่นดีโปรไฟล์เริดกับหนุ่มวิศวะสุดหล่อที่สาวๆ ค่อนมหาลัยให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เขาไม่ว่างแล้วนะคะหลังจากที่สืบมาได้ว่าทั้งคู่โสดมาตลอดเพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังจีบกันเด้อ แหม่ๆ คนหล่อคนสวยเจอกันจะปิ๊งๆ กันก็ไม่แปลกเนอะ แต่ๆ แต่จะจริงไม่จริง อันนี้ยังไม่รู้เด้อ แต่มีคนบอกว่าวันนี้ชายหนุ่มไปหาถึงคณะเลยนะจ๊ะ หืม~ซี้ดปากรอเลยจ้างานนี้ สืบต่อไปว่าจะเป็นไง หุหุ ที่มาเพจใต้จมูก” “ขึ้นฟีดเพจใต้จมูกของมหาลัยเลยนะมึง” อลิสที่อ่านจบแล้วหันมาพูดกับฉันที่กำลังดูดน้ำชาไข่มุกอย่างไม่แยแสอะไรกับข่าวที่มันอ่านไปเมื่อกี้นี้ ก็ฉันไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไงกับข่าวที่เพจเอาไปลงไง ก็เลยนั่งเงียบๆ ไป “เอวา ถ้าเกิดเฮียไซเขารู้มึงจะไม่เดือดร้อนเอาเหรอว่ะ เพราะลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนเฮียรามที่ชื่อองศาเรียนอยู่คณะวิศวะเหมือนกันน่ะมึง เขาก็ต้องเอาไปให้เฮียไซดูแน่อะ” แบมบี้ว่าด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงฉันกับข่าวที่มันเห็นเมื่อกี้ “ก็ถ้าเขาเห็นแล้วยังไงต่อว่ะมึง เขาจะหึงกูจนทำร้ายร่างกายกูงี้อ๋อ ไม่มีทางหรอก เขาไม่ทำอยู่แล้วเพราะเขาไม่ได้รู้สึกหึงหวงกูเลยสักนิด...” “ดีซะอีก กูจะได้ค่อยๆ ถอยห่างจากเขา เพราะตอนนี้ก็เริ่มเบื่อแล้วเหมือนกัน” ฉันพูดออกไปตามความรู้สึกตอนนี้ คือไม่รู้สิ เมื่อคืนพอได้ยินหมอนั้นพูดแบบนั้นกับฉันมันทำให้หัวใจของฉันชาวาบไปทั้งดวง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้สึกอะไรกับคำพูดของเขาเลยสักนิด แต่เมื่อคืนมันกลับแตกต่างไป แตกต่างจนฉันเริ่มกลัวใจตัวเอง “ที่มึงพูดออกมาแบบนี้ เพราะมึงเริ่มรู้สึกกับเฮียเขาแล้วใช่ไหมเอวา กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหมถ้าคิดจะเล่นกับไฟมึงต้องเย็นกว่าไฟ” แบมบี้ว่าสีหน้าหงุดหงิดที่ฉันพูดออกไปแบบนั้น ก็มันเป็นคนเตือนฉันมาโดยตลอดว่าการอยู่แบบไร้สถานะไม่มีใครชนะหรอกนอกจากจะได้ความเจ็บปวดกลับไป แต่ตอนนั้นฉันก็ดื้อด้านที่จะอยู่แบบนี้ “...” “เออๆ เอาเหอะแบมอย่างน้อยๆ มันก็รู้ตัวก่อนและคิดจะออกมาก่อนที่จะเลยเถิดกว่านี้อะ” มิล่าที่เห็นว่าฉันนั่งเงียบไป มันก็เลยพูดออกมาพร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดคอฉันอย่างเทคแคร์... พลั่ก!!! กรุ๊งกริ๊ง~ เสียงลูกค้าคนอื่นผลักประตูร้านเข้ามาพร้อมกับเสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้นทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองในขณะที่มิล่ามันยังกอดคอฉันอยู่ ฉันจึงสบตาเข้าพอดีกับคนที่อยู่ในบทสนทนาของฉันกับเพื่อนเมื่อกี้ ใช่ คนที่ผลักประตูเข้ามาก็คือไซเรน “วา เฮียไซมาที่นี่ทำไมวะ” มิล่ากระซิบเบาๆ ข้างๆ หูฉันทันทีที่มันเห็นไซเรนยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่หน้าประตู ก่อนที่จะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งผลักประตูตามเข้ามาเกาะแขนไซเรนแล้วทั้งคู่ก็เดินผ่านโต๊ะที่ฉันนั่งไปนั่งโต๊ะข้างหลังฉันที่ว่างอีกที ไซเรนนั่งลงข้างหลังฉันทำให้แผ่นหลังของเขาสัมผัสกับแผ่นหลังฉันพอดี มิล่าที่เห็นแบบนั้นมันก็เลยยกแขนของมันออกจากคอของฉัน มันคงรู้สึกได้มั้งว่าคนข้างหลังฉันมันตั้งใจชนแผ่นหลังกับฉัน “มึง เฮียไซมากับใครวะ” อลิสยื่นหน้ามาถามฉันเบาๆ ด้วยความอยากรู้พร้อมกับพยักหน้าไปทางด้านหลังของฉันที่มีสองคนนั้นนั่งอยู่... “เด็กเอกอิงค์ปีสามรู้สึกว่าเคยเป็นดาวคณะด้วยว่ะชื่อมิริน...ถ้ากูจำไม่ผิดนะ” แบมบี้พูดออกมาเสียงเบาขณะที่สายตาของมันก็มองไปข้างหลังของฉันเช่นกัน หึ! เรื่องชาวบ้านไว้ใจมันได้เลยรู้ทุกเรื่องทุกอย่างจริงๆ แต่แล้วไม่เห็นมันเคยมาบอกว่าไซเรนควงเด็กคนนี้อยู่นะ แสดงว่าเพิ่งควง “จริงอ๋อว่ะแบม แล้วนี่ตัวจริงเฮียป่าวว่ะ ถึงกับถ่อมาหาถึงมหาลัยเลยน่ะเว้ย ทียัยเอวารู้จักกันมาจะ3เดือนแล้วอะ กูไม่เห็นจะมาหาแบบนี้เลยน่ะ” เพี้ยะ! “โอ๊ยอีแบมมึงตีกูทำไมเนี้ย” “มึงพูดอะไร ช่วยดูหน้าเพื่อนมึงตอนนี้ด้วย อีกนิดเดียวจะแดกหัวมึงอยู่แล้วอลิส” แบมบี้หันไปดุอลิสที่มันพูดออกมาเมื่อกี้ “แฮร่ ๆ โทษทีเพื่อนรักกูไม่ได้หมายถึงแบบนั้นน่ะมึง” ยัยอลิสหันมายิ้มแห้งๆ ให้ฉันหลังจากที่แบมบี้ฟาดมือไปที่แขนมัน จริงๆ ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกที่เพื่อนพูดแบบนั้น แต่เป็นเพราะฉันนั่งทำหน้านิ่งๆ อยู่มั้งเลยดูเหมือนฉันกำลังทำสีหน้าไม่พอใจอยู่ “กูไม่เป็นอะไร เขาอยากทำอะไรก็เรื่องของเขาดิ ไม่ได้เกี่ยวกับกูอยู่แล้ว” ฉันพูดเสียงดังออกไปหวังจะให้เขาได้ยินด้วยนั่นแหละ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยากให้เขาได้ยิน แต่คืออารมณ์มันกำลังหงุดหงิดอะหรือฉันจะเป็นเมนส์ว่ะ พรึบ! “แล้วนี่มึงถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกทำไมวะเอวา” “กูร้อน” ฉันถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่ไซเรนเป็นคนสวมให้ฉันเมื่อเช้าออกพร้อมกับรวบผมไปอีกข้างเผยให้เห็นต้นคอระหงส์ของตัวเอง ก็ฉันเริ่มรู้สึกร้อนจริงๆ อะ อีกอย่างรู้สึกหงุดหงิดอึดอัดไปหมด ต้องใช่แน่ ๆ อารมณ์จะเป็นเมนส์ชัวร์ “โอ้โห่นั่นมันบักแตงโมเหรอ นมใหญ่ฉิบหาย” เสียงอลิสว่าพร้อมกับทำตาตกใจเกินเบอร์มากที่เห็นว่านมฉันมันใหญ่จนเสื้อคับไปหมด “กระดุมเสื้อมึงจะปริกระเด็นโดนลูกตากูอยู่แล้วนังชะนี” เสียงแบมบี้ว่าออกมาอีกคน “ฮ่าฮ่าฮ่า เออๆ จริงด้วยมึง อีกนิดเดียวกระเด็นใส่ตากูกับอีแบมชัวร์อะ” หลังจากที่พวกมันเลิกแซวฉันไปแล้วทุกคนก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองต่อไป ส่วนไอ้คนข้างหลังฉันก็นั่งคุยกะหนุงกะหนิงกันไป เหอะทีอีเด็กนี้ละดูอ่อนโยนมากทีกับฉันนี่ห้วนใส่ตลอด ฉันที่ขี้เกียจนั่งฟังเขาสองคนคุยกันก็เลยหยิบหูฟังขึ้นมาใส่แล้วเปิดเสียงเพลงดังกระหึ่มหูเกือบจะหนวก 10นาทีผ่านไป... พลั่ก!! กรุ๊งกริ๊~ ตึก ตึก ตึก “ฉันไลน์หาไมไม่ตอบว่ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายที่กำลังยืนอยู่ที่หัวโต๊ะทันทีที่เหมือนจะคุยกับฉัน ก่อนที่เขาจะลากเก้าอี้ตัวที่ว่างมานั่งอยู่ข้างๆ ฉัน ใช่ค่ะ ไอ้เดเนียลนี่แหละที่เดินเข้ามาหาฉันด้วยสีหน้าหงุดหงิด ซึ่งมันก็ไลน์มาหาฉันจริงนั่นแหละ แต่ฉันไม่สนใจที่จะเปิดอ่านเอง ฉันจึงถอดหูฟังออกแล้วหันไปตอบมัน “ไลน์ไม่คุ้นเลยไม่เปิดอ่าน” “ฉิบ เธออย่ามากวนฉันเอวา ชื่อเดนียลตัวเบ้อเร่อขนาดนั้นหรือเธอตกภาษาอังกฤษถึงอ่านไม่ออกหะ ให้ฉันไปติวถึงห้องเอาม้ะจะได้อ่านออก” มันว่าสีหน้ากรุ้มกริ่มซึ่งฉันไม่ชอบเอาซะเลย “จิ๊ นายนี่มันน่ารำคาญจริงๆ แล้วมาหาฉันมีอะไร” ฉันรำคาญมันที่ชอบมาเต๊าะฉันด้วยคำพูดบ้าๆ พวกนั้น จึงหันไปถามด้วยสีหน้าหงุดหงิดใส่มัน “มาจีบว่าที่เมีย” ปัง! เฮือก! เสียงอะไรสักอย่างดังมาจากโต๊ะข้างหลังพวกฉันอย่างเสียงดังจนทุกคนในโต๊ะสะดุ้งตกใจกันหมด ก่อนที่เจ้าตัวจะหันมาขอโทษพวกฉัน “โทษที พอดีแก้วมันลื่นมือ” “มึง!” หลังจากที่เดเนียลมันหลุดปากพูดว่าจะมาจีบฉันคนข้างหลังฉันก็หันมาขอโทษพร้อมบอกว่าแก้วหลุดมือ แต่ที่สงสัยคือ ไอ้เดเนียลเนี่ยมันไปรู้จักกับไซเรนได้ไง เพราะพอมันเห็นหน้าไซเรนมันก็ลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับไซเรนด้วยสีหน้าโกรธขึ้งทันที และฉันก็เห็นว่าไซเรนเขาก็ยืนจ้องหน้ากับเดเนียลอยู่เหมือนกัน... แต่หมอนี้จะนิ่งมากกว่า นิ่งไม่นิ่งก็ดูเอาเองละกันขนาดโดนจ้องหน้ายังเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองด้วยท่าทางนิ่งๆได้เลย แต่ไม่นานไซเรนก็เดินออกจากโต๊ะตัวเองแต่ไม่ได้เดินออกไปเปล่าๆนี่สิ หมอนั้นมันดันกระแทกไหล่ของเดเนียลด้วย โคตรจะหาเรื่องเลย “ไอ้เวรเอ้ย” หมับ!! ฉันรีบจับมือเดเนียลไว้เมื่อเห็นว่ามันกำลังจะเดินตามไซเรนออกไป ก่อนจะดึงให้มันนั่งลงตามเดิมพร้อมกับพูดว่า... “ฉันไม่ชอบพวกอันธพาล” ใช่ ฉันแค่ไม่อยากเห็นใครต้องมาต่อยตีกันต่อหน้าฉัน ถึงมันจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันก็ไม่ชอบเห็นภาพพวกนั้น เพราะฉันไม่ชอบความรุนแรงไงละ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม