สิบวันต่อมา งานมงคลของจวนหวังโหวก็เริ่มขึ้น เสียงดนตรีเริ่มดังขึ้นตั้งแต่หน้าจวนหวังอวี้โหว ตรงไปที่ตำหนักใหม่ขององค์หญิงฉางปิงบุตรบุญธรรมของฮ่องเต้ มีขันทีจางและหยางอ๋องรวมถึงรุ่ยอ๋องมาเป็นญาติให้ กว่าท่านโหวจะผ่านด่านไปรับเจ้าสาวได้ก็หนักพอสมควร เพราะต้องประลองทั้งบุ๋นและบู๊จนเหงื่อตกทั้งเจ้านายและบ่าว “สาแก่ใจข้าจริง ๆ” เฟิงหรานเอ่ยขึ้นก่อนจะหัวเราะร่วน เมื่อเห็นสหายหมดสภาพ แทบจะแบกเอาเจ้าสาวขึ้นหลังไม่ได้ “อย่าให้ถึงคราวกระหม่อมก็แล้วกัน” มิวายเอ่ยคาดโทษ ก่อนจะปีนขึ้นหลังม้าไปอย่างทุลักทุเลเพราะเข่าอ่อน สร้างเสียงหัวเราะเอ็นดูเป็นอย่างมาก จากนั้นขบวนรับเจ้าสาวก็เคลื่อนตัวไปที่จวนโหวเพื่อทำพิธีขั้นต่อไป เมื่อมาถึงหวังอวี้ก็รีบลงจากหลังม้า เพื่อมารับฮูหยินตนออกจากเกี้ยว ตามมาด้วยเสียงชื่นชมมากมาย “เหมาะสมกันยิ่งนัก” “ใช่ ๆ สตรีก็งาม บุรุษก็หล่อเหลา” “ดูสิเจ้าสาวงามอย่างกับเทพธิด