"ฮ่าๆ อีเด็กโง่!!" เสียงหัวเราะของแม่เลี้ยงสะใจ "กูแค่ขู่จะกรีดหน้ามึงนี่ถึงขนาดฆ่าน้องชายตัวเองตาย โธ่..อีมิกิ ฮ่าๆ"
"ไม่จริง ฮึก"
"ตื่นแล้วเหรอเมจิ แหมช่างน่าเสียดายมึงไม่เห็นตอนที่อีมิกิแทงจวกใส่"
"มะ ไม่จริง~ ฮื้ออออ"
ทันทีฉันตะเกียดตะกายคลานตรงดิ่งไปหาน้องชายที่นอนจมกองเลือดหน้าของเขาที่มีรอยยิ้มตอนนี้ซีดเผือกก่อนที่ทุกอย่างจะเหมือนฝันร้าย
หลายวันผ่านไป
ตั้งแต่วันนั้นมิกิก็เปลี่ยนไป เธอมีท่าทางดุร้ายแล้วไม่ยอมพูดจากับฉันเท่าไหร่ ศพของน้องชายถูกฌาปนกิจอย่างเงียบเชียบโดยที่ไม่มีใครสงสัยอะไรพ่อกล่าวอ้างว่าน้องชายของฉันจมน้ำตาย และอาจเป็นเพราะบ้านหลังเก่าอยู่ในที่กันดารถึงไม่มีใครสนใจเท่าไหร่
ฉันร้องไห้มองเห็นควันสีเทาฟุ้งกระจายในขณะที่พ่อได้พูดกำชับเอาไว้ว่าถ้าฉันพูดเรื่องนี้กับใครน้องสาวจะต้องติดคุกไปจนวันตาย เพราะเธอเป็นคนลงมือทำ
หลายเดือนต่อจากนั้น
"มึงนี่ทำกับข้าวเก่งแถมเรื่องงานบ้านก็ดีไม่เหมือนอีมิกิใช้ให้รีดผ้าก็ยังไม่เรียบอีโง่!" แม่เลี้ยงตวาดเสียงไปใส่น้องสาวที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ "แล้ววันนี้พ่อแกคงไม่กลับอีกสินะ"
"ค่ะคุณพ่อบอกว่าอีกสองหรือสามวัน"
"น่าจะตายห่าไปซะ"
"_____"
• แม่เลี้ยงลุกขึ้นทาแป้งปัดหน้าก่อนจะออกไปสังสรรค์เฮฮาดื่มกินกับเพื่อนตามประสาคนขี้เมา•
"ไม่ต้องคิดมากนะ" เป็นครั้งที่ร้อยที่ฉันพยายามปลอบน้องสาว "มิกิไม่ได้ตั้ง.."
"อย่ามายุ่งได้ไหม!เป็นพี่ไม่ใช่แม่ไม่ต้องมาสั่งสอน"
"มิกิ"
โต้มมมม
ประตูถูกปิดกระแทกเสียงดังโดยที่มิกิปัดมือฉันทิ้งในตอนที่กอดปลอบ ทั้งที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำอะไรผิด
ในห้อง
"ถ้าพี่เป็นคนลงมือทำ ฮึก ก็คงไม่ต้องเป็นฉันหรอก อึก~ ฉันคงไม่ได้เป็นฆาตกร~ ฮื้อ" มิกิร้องไห้กอดหมอนเธอขย้ำผมตัวเองด้วยความร้าวรอน "ฉันเกลียดพี่!!"
กลางดึก
"มิกิไม่สบายหรอทำไมตัวร้อนจัง" เป็นปกติที่เราจะนอนด้วยกันเพราะบ้านหลังเล็กคับแคบเพิ่งสังเกตเห็นสิ่งปกติเมื่อน้องสาวกำลังตัวสั่น
"อย่ามายุ่ง"
"เดี๋ยวพี่ไปหาผ้าชุบน้ำให้นะ"
"บอกว่าอย่ามายุ่งไง!!"
"มิกิช่วยรับฟังหน่อยได้ไหมตอนนี้เราก็เหลือกันแค่สองคนพี่น้องแล้ยนะ ฮื้อ"
ฉันร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้นตั้งแต่สูญเสียน้องชายไปฉันก็เหลือเพียงน้องสาวที่รักเพียงเท่านั้นแต่เหมือนกับเธอจะโกรธเกลียดฉัน
"ออกไปฉันไม่อยากเห็นหน้าพี่"
• คำพูดสุดท้ายก่อนที่พิษไข้จะทำให้มิกิสลบไสล แต่งนั่นก็ไม่ทำให้ความรักใคร่ของพี่สาวทดถอยลงเธอรีบไปในห้องน้ำแล้วนำผ้าขนหนูมาเช็ดตัวเพื่อคลายความร้อนที่ระทมก่อนจะนั่งเฝ้าไข้ทั้งคืนจนพล็อยหลับไป•
"แม่ค่ะขอเงินหน่อยได้ไหมหนูจะนำไปซื้อยาให้น้องเมื่อคืนมิกิไม่สบายค่ะ"
"ไม่มีเว้ย แกก็ปล่อยให้มันตายไปอีกคนสิจะได้ไม่ต้องมีภาระไง"
"..."
"มองหน้าทำไม?"
"ถ้าอย่างนั้นหนูขอไปรับจ้างล้างจานร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊เกียวได้ไหม แล้วหนูขอแค่เงินไปซื้อยาพาราให้น้องเท่านั้นที่เหลือหนูจะยกให้แม่ค่ะ"
ร้านเจ๊เกียว
"เธอนี่ก็เก่งเกินคนนะเดินมาตั้ง 4 ซะ 5 โลเพื่อมารับจ้างร้านถ้วยชามเนี่ยนะ ขยันจริงแม่คุณ"
"น้องสาวหนูไม่สบายค่ะเลยอยากได้เงินไปซื้อยา"
"แล้วพ่อแม่ภาษาอะไรไม่ดูแลลูกเต้าสงสารแกจริงๆ เมจิมาทำงานที่นี่ตั้งแต่เจ็ดขวบแล้วมั้ง"
"ไม่เป็นไรค่ะหนูไหว"
"น่ารักแบบนี้ไงฉันถึงอยากให้แกย้ายมาอยู่ด้วยกัน"
• บ่อยครั้งที่เจ้าของร้านพูดด้วยความสนใจเพราะสงสารในตัวเด็กน้อยที่ขยันแต่เธอกลับตอบปฏิเสธทุกครั้งเพราะไม่อยากทิ้งน้องสาวหรือน้องชายที่ตายไปแล้วให้อยู่ลำพัง•
เพียะ
ผวะ
"กะ เกิดอะไรขึ้นหรอคะ" เมื่อได้ยินเสียงเอะอะทุบตีดังก็รีบวิ่งแจ้นเข้ามา
"น้องสาวมึงสิอ้วกใส่เสื้อผ้า!!สกปรก"
"เดี๋ยวหนูจะเอาไปซักให้นะคะวันนี้มิกิไม่สบายเธออาจจะกำลังป่วยหนักก็ได้"
"พ่อของพวกมึงทิ้งแต่ภาระให้กูแล้วหายไปเล่นแต่การพนันสักวันเถอะมันกลับมาจะไม่เจอลูกมันสักตัว"
เพล้ยง
"มิกิไหวไหม ฮึกก"
"แม่...แม่จ๋า"
"ฮื้อออ"
ฉันกอดร่างน้องสาวด้วยใจที่หดหู่ สภาพของมิกิใบหน้าบวมช้ำทั้งที่ยังป่วยหนักเสียงพึมพำร้องหาแม่ที่จากไปเพราะแม่ของพวกเราเป็นชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดตั้งแต่มิกิเพิ่งอายุได้ไม่กี่ขวบ "อดทนหน่อยนะมิกิ ฮึก"