พิชญาภาถอนหายใจ เธอคิดว่าเดินแบบเสร็จจะได้รีบกลับไปนอนแต่พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เธอก็มีสีหน้าเซ็ง
หญิงสาวส่งกระเป๋าของตนเองไปกองรวมกับเพื่อนๆ จากนั้นก็นั่งฟุบอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งรอให้เจ้าของงานตรวจกระเป๋าไปทีละใบตรวจชุดครบทุกใบแต่ก็ยังไม่มีต่างหูที่หายไป
“ต่างหูมันจะหายไปได้ยังไงต้องมีใครเอาไปแน่”
“มีใครออกจากห้องนี้ไปไหมหลังจากกลับมาจากเดินแบบแล้ว”
“พีชออกไปเข้าห้องน้ำค่ะ”
“เธอแอบเอาต่างหูไปหรือเปล่า”
“ฉันจะเอาไปทำไม”
“แต่เธอก็น่าสงสัยนะ เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ออกไปจากห้องนี้ ฉันจำได้ว่าตอนเดินเข้ามาเธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง”
“ฉันไม่ได้เอาไปจริงๆ ฉันแค่ออกไปเข้าห้องน้ำไม่เชื่อก็ลองดูกล้องวงจรปิดสิ”
“ที่นี่มีกล้องวงจรปิดก็จริงแต่ในห้องแต่งตัวและห้องน้ำไม่มีกล้องวงจรปิดนะ จะมีก็แต่ทางเดินเท่านั้น” เจ้าของสถานที่บอกกับผู้จัดงาน
ตอนนี้สายตานางแบบหลายคนหันมามองทางพิชญาภาเพราะหญิงสาวเป็นคนเดียวที่ออกไปจากห้องนี้
“พีชไม่ได้เอาไปจริงๆ นะคะ” หญิงสาวยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเธอไม่ได้ทำแบบนั้น เธอยินดีให้ทางผู้จัดค้นกระเป๋าของเธออีกครั้งจากนั้นก็บอกว่าเดินไปเข้าห้องน้ำห้องไหน
บอดี้การ์ดและออแกไนซ์เดินตามประกบหญิงสาวไปยังห้องน้ำแต่ก็ยังหาต่างหูเพชรไม่เจอ
“ถ้ายังไม่เจอแบบนี้ทุกคนก็จะยังกลับไม่ได้เดี๋ยว เราจะเรียกตำรวจให้มาสอบถามเรื่องนี้อีกที”
“โอ้ย...ยายพีชเอาไปก็บอกมาเถอะน่า เขาจับได้แบบนี้แล้วจะซ่อนไว้ทำไม”
“ก็ฉันไม่ได้เอาไปจะให้ฉันยอมรับได้ยังไงล่ะ”
เสียงแต่ละเสียงเริ่มแตกกันเป็นสองฝ่ายบางคนก็บอกว่าพิชญาภาถูกใส่ร้ายบางคนก็บอกว่าหญิงสาวอาจจะแอบเอาเครื่องเพชรไปให้คนอื่นทางด้านนอกแล้วก็เป็น
แล้วประตูห้องก็เปิดอีกครั้งพร้อมทั้งชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาด้านใน
“ดูเหมือนว่าพวกคุณกำลังหาต่างหูกันอยู่ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ แล้วคุณคือใครคะ”
“ผมเป็นคนที่รับผิดชอบสถานที่ครับ นี่ครับต่างหูที่พวกคุณกำลังตามหา”
“แล้วมันไปอยู่ที่คุณได้ยังไง”
“ผมเอามันออกมาจากกระเป๋าของนางแบบคนหนึ่ง”
“กระเป๋าของใคร ใช่ของยายพีชหรือเปล่า”
“ผมไม่รู้ว่ากระเป๋าใบนั้นเป็นกระเป๋าของใครแต่ผมรู้ว่าใครเป็นคนเอาใส่”
“ใครเป็นคนทำอย่างนั้นคะ”
“ผมว่าพวกคุณอย่ารู้เลยแค่นี้เขาก็คงรู้สึกผิดมากๆ แล้วเอาล่ะในเมื่อของครบแล้วก็แยกย้ายกันกลับเถอะ”
“เราต้องหาคนทำผิดนะคะ ถ้าคุณไม่บอกพวกเราแบบนี้พวกเราคงไม่สบายใจ”
“ผมว่าคนที่ทำเขารู้ตัวดีว่าทำอะไรลงไป ผมจะให้โอกาสเขาพูดความจริงครับแต่ถ้าเขายังไม่สำนึกผิดและติดต่อมาผมจะส่งคลิปหลักฐานให้กับทุกคนได้ดูเอง วันนี้ผมว่าเรารีบจัดการเอาเครื่องเพชรมอบให้กับผู้ประมูลดีกว่านะครับ”
เมื่อผู้จัดงานไม่ติดใจเรื่องนี้อีกแล้วนางแบบแต่ละคนก็แยกย้ายกันกลับพิชญาภา หายง่วงเป็นปลิดทิ้งเพราะตนเองโดนกล่าวหาว่าขโมยทั้งๆ ที่ไม่เคยได้สัมผัสมันเลยสักนิดหญิงสาวขับรถมายังผับที่อยู่ใกล้คอนโดเพื่อจะหาอะไรดื่มแก้เซ็ง
เธอสั่งเครื่องดื่มมาดื่มและนั่งมองบาร์เทนเดอร์พี่ทำงานมือเป็นระวิงเนื่องจากคือวันศุกร์แบบนี้นักท่องเที่ยวค่อนข้างจะเยอะมากเป็นพิเศษ นั่งดื่มไปได้สักพักเก้าอี้ข้างกายของเธอก็มีคนมานั่งด้วย
“ขอนั่งด้วยคนนะครับ”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบแต่ไม่ได้หันไปมองเพราะในสถานที่ท่องเที่ยวการทักทายลักษณะนี้ก็มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ
แต่ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้เธอต้องหันกลับมาแล้วก็ตกใจเมื่อผู้ชายคนนี้เป็นคนเดียวกับที่เธอเจอด้านหลังเวที
“อ้าวนี่เอง ขอบคุณนะคะ”
“ขอบคุณผมเรื่องอะไรครับ”
“ก็เรื่องต่างหูเมื่อกี้ไงคะ”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“ก็เขาคิดว่าฉันเป็นคนเอาไปเพราะฉันเดินแบบเสร็จคนแรกและออกไปเข้าห้องน้ำ ถ้าไม่ได้คุณฉันก็คงแย่ คุณชื่ออะไรคะ”
“ผมชื่อวรรธครับ”
“คุณวรรธให้ฉันเลี้ยงเครื่องดื่มได้ไหม เป็นการขอบคุณ”
“ได้สิ แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ”
“ฉันชื่อพีชค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณพีช”
“เช่นกันค่ะ”
หญิงสาวสั่งเครื่องดื่มมาให้กับปัณณวรรธหนึ่งแก้วจากนั้นก็เริ่มเงียบเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับเขายังไง ผู้ชายคนนี้มีหน้าตาคล้ายใครบางคนที่เธอรู้จักแต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
“คุณไม่อยากรู้เหรอว่าใครเป็นคนเอาต่างหูไป”
“ฉันไม่สนใจหรอกค่ะ ใครจะทำแบบนั้นมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันนี่คะ”
“ขอดูกระเป๋าคุณหน่อยสิ”
เมื่อพิชญาภาหยิบกระเป๋าสีดำของตนเองขึ้นมา ชายหนุ่มตรงหน้าก็ยิ้มเขา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเปิดคลิปวิดีโอที่ได้มาจากกล้องวงจรปิดที่ซ่อนอยู่ในห้องให้หญิงสาวดู
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะทำแบบนี้” เมื่อเห็นว่ามีคนจงใจเอาต่างหูมาใส่กระเป๋าระหว่างที่เธอออกไปเข้าห้องน้ำพิชญาภาก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก
“คุณเอาคลิปนี้มาจากไหนคะ”
“ในห้องนั้นมีกล้องวงจรปิดครับ”
“แล้วทำไมตอนแรกบอกว่าไม่มีล่ะคะ”
“เพราะไม่ยังไม่อยากตัดอนาคตใคร ถ้าทุกคนเห็นขาก็คงไม่กล้ามองหน้าใคร แต่ตอนนี้เขาก็คงถูกเรียกเข้าไปคุยแล้ว”
“คุณเข้ามาเอาต่างหูตอนไหนคะ”
“ผมให้การ์ดหน้าห้องเป็นคนเอามาให้ผมน่ะ พอดีว่าผมอยู่ที่ห้องควบคุม แต่ถ้าผมไม่เห็นและยังหาต่างหูไม่เจอก็คงจะต้องย้อนดูกล้อง ผมเลยตัดสินใจเอาต่างหูมาคืนดีกว่าเพราะไม่อยากให้ทุกคนต้องเสียเวลา”
“ถ้าคุณมาช้าเขาก็คงเรียกตำรวจ”
“ผมคุยโทรศัพท์สายสำคัญอยู่ครับก็เลยมาช้า”
“แต่ก็ดีนะคะที่ยังมา”
“คุณไปมีเรื่องอะไรกับเขาหรือเปล่าเขาเลยแกล้งแบบนี้”
“ฉันเคยรับงานเดินแบบงานเดียวกับเขาค่ะ แล้วผู้จัดงานให้ฉันใส่ชุดฟินนาเล่แทนเขา เขาก็เลยโกรธ แต่ไม่นึกว่าจะทำแบบนี้แต่นั้นมันก็ครึ่งปีแล้วนะคะ”
“ผู้หญิงโกรธแรงเหมือนกันนะครับ”
“ใช่ค่ะ
“แต่ผมว่าเขาจงใจจะทำให้คุณรับผิดชอบ”
“ฉันต้องขอบคุณคุณมากจริงๆ นะ คุณวรรธถ้าไม่ได้คุณป่านนี้ฉันก็คงถูกตำรวจจับไปแล้วแน่ๆ”
“แล้วคุณจะเอายังไงต่อล่ะ”
“ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับเขาหรอกนะ ต่างคนต่างอยู่แบบนี้ดีกว่า”
“แต่ถ้าเจอกันครั้งหน้าคุณก็ควรระวังตัวไว้นะ”
“คงไม่ต้องระวังตัวหรอกค่ะเพราะฉันคิดว่าจะพักงานพวกนี้ไว้ก่อน” เพราะเธออยากทุกเทให้กับการเรียนปีสุดท้ายอย่างเต็มที่