พรีมลืมตาตื่นช้า ๆ ด้วยความเมื่อยล้า เธอมองไปรอบห้องที่ตอนนี้เริ่มจะคุ้นตากับมัน ก่อนจะมองไปรอบ ๆ และพยายามมองหาเจ้าของแต่ก็ไม่เจอ เธอก้มมองตัวเองที่ตอนนี้ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย คงจะเป็นธีมสินะที่ทำให้
ตุ้บ !!!
“โอ๊ยยยย” พรีมที่ตั้งใจลุกเดินออกไปข้างนอกก็ไม่รู้ว่าทำไมขาตัวเองถึงไม่มีแรงจนแทบยืนไม่ไหวเลยทรุดลงกับพื้น แต่พอนึกย้อนกลับไปถึงสถานการณ์เมื่อคืนก็พอจะรู้แล้ว แค่คิดก็ทำเอาแก้มของเธอแดงระเรื่อขึ้น
“คุณพรีม” ธีมที่อยู่ด้านนอกก็รีบวิ่งมาดู ก่อนที่จะช้อนพรีมมาไว้ในอ้อมแขนและวางลงที่เตียงนอนอีกครั้ง
“จะไปไหนครับ อยากได้อะไรหรือเปล่า ทำไมไม่บอกผม” เขานั่งลงข้าง ๆ แล้วถามพร้อมกับหยิบน้ำที่ตัวเองวางไว้ข้าง ๆ ให้เธอดื่ม
“ฉันแค่ไม่เห็นนายเลยจะลองเดินไปดู”
“คุณไม่ควรขยับตัวมาก เมื่อคืนก็ไข้ขึ้นทั้งคืน” ธีมบอก
“พรวด !! แค่ก ๆ ฮะ !! เมื่อคืนฉันไข้ขึ้น แต่เดี๋ยวนะ เมื่อคืนงั้นเหรอ แล้วตอนนี้วันไหน”
เมื่อวานตอนที่มีอะไรกันกับธีมมันน่าจะประมาณ 5 โมงเย็น อย่าบอกนะว่าเธอสลบไปตั้งแต่ตอนนั้น
“วันอาทิตย์ ตอนนี้ก็กำลังจะบ่าย 2 ครับ”
คำพูดของธีมทำให้พรีมถึงกับหน้าแดง
ยัยพรีม ยัยบ้าเอ๊ย เรื่องแค่นี้ถึงกับสลบไปเป็นวัน อีกฝ่ายคงดูถูกเธออยู่แน่ อายุ 30 แล้วยังอ่อนหัดขนาดนี้
“เจ็บมากไหมครับ”
“ฮะ !”
“ก็เห็นคุณพรีมเดินไม่ได้”
“นายช่วยอย่าพูดเรื่องแบบนี้ด้วยหน้าตาใสซื่อได้ไหม มันทำฉันอาย”
ให้ตายสิ ผู้ชายคนนี้มี 2 บุคลิกจริง ๆ สินะ เมื่อคืนยังดูเป็นสัตว์ร้ายอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นไอ้ตูบตัวเดิมที่ชอบทำท่าทางสำนึกผิดแบบที่เธอเคยเห็นอีกแล้ว
“ผมขอโทษ” ธีมพูดอย่างเหม่อลอย
“นายรู้สึกผิดเหรอ”
ธีมพยักหน้า
“ฉันต่างหากที่ต้องรู้สึกผิด ฉันเป็นคนอ่อยนายและบอกให้นายทำ ทั้งที่ฉันก็รู้ว่านายมีแฟนอยู่แล้ว” พรีมพูดพลางมองแก้วน้ำในมือ
“ไม่หรอกครับ ถ้าผมหักห้ามใจได้มันคงไม่เกิด อีกอย่างเรียกว่าแฟนก็ไม่ได้เต็มปาก... เอาละครับ เดี๋ยวผมไปตักข้าวต้มมาให้ คุณคงหิวแล้ว”
ประโยคกลางธีมพูดเสียงเบาจนแทบจะจับใจความไม่ได้ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง พอพูดจบเขาก็เดินออกไป ส่วนพรีมก็ได้แต่นั่งสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ แม้จะรู้สึกเจ็บปวดและอยากได้คนปลอบใจขนาดไหน เธอก็ไม่ควรยุ่งกับคนมีแฟนแล้ว
พรีม เธอไม่ควรขาดสติเพราะเรื่องแบบนี้ แล้วแบบนี้เกียรติที่เธอเคยมีมันจะหลงเหลืออะไร
หญิงสาวได้แต่พรรณนาต่อว่าตัวเองที่ขาดสติจนเข้าไปทำร้ายชีวิตคู่ของคนอื่น
หลังจากนั้น คนที่เดินออกไปก็กลับมาพร้อมข้าวต้มหอม ๆ ที่ยังร้อนอยู่เพราะธีมเพิ่งจะทำเสร็จ ทุกอย่างเต็มไปด้วยความเงียบ ระหว่างที่หญิงสาวกำลังนั่งกินข้าวต้ม เธอก็ไม่ได้พูดอะไร ธีมเองก็ไม่พูดอะไร เขาเลือกที่จะดูงานในโทรศัพท์เพื่อรออีกฝ่าย
“กินยาหน่อยนะครับ”
ธีมพูดขึ้นเมื่อเห็นพรีมกินข้าวเสร็จแล้ว เขายื่นยาแก้ปวดกับลดไข้ให้พรีม เธอรับมันมาไว้ในมือก่อนจะป้อนเข้าปากตัวเอง
“ฉันว่า... ฉันควรกลับ” หลังจากที่เงียบกันอยู่นาน พรีมก็พูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
“ไหวเหรอครับ พรุ่งนี้ค่อยออกไปตอนทำงานเลยก็ได้”
“ฉันไม่อยากให้นายลำบากใจ”
“ผมไม่ลำบากใจหรอกครับ ผมแค่รู้สึกผิด” ธีมบอกหน้าตาเศร้า
“ฉันจะไม่บอกใคร มันจะเป็นความลับระหว่างเรา ฉันสัญญาว่าแฟนนายจะไม่มีทางรู้” พรีมให้คำมั่น
ครืด~~ ครืด~~~ เสียงสั่นจากโทรศัพท์ของพรีมที่วางอยู่หัวเตียงดังขึ้น ธีมเลยหยิบมันแล้วยื่นให้เจ้าของ
พี่เอก
“ค่ะพี่เอก” พอเห็นชื่อ พรีมก็รีบรับสายทันที ปกตินอกเวลางานเธอมักจะเรียกเขาแบบนี้จนเป็นความเคยชิน เลยลืมไปว่าชายหนุ่มอีกคนไม่ได้รู้ถึงความสนิทสนมของเธอกับเลขานุการ
(คุณพรีมอยู่ไหนครับ)
“พรีมอยู่ข้างนอก มีอะไรหรือเปล่าคะ”
(พี่มาหาพรีมที่บ้าน แต่เด็กในบ้านบอกว่าพรีมไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน ที่คอนโดฯ ก็ไม่ได้เข้าพัก พี่เลยเป็นห่วง)
“พรีมควรดีใจไหมคะที่พี่เอกเป็นห่วง” พรีมยิ้มอ่อน
ธีมที่นั่งอยู่รู้สึกเป็นส่วนเกินเลยเดินออกมา ปล่อยให้พรีมคุยโทรศัพท์ต่อ
(อย่าพูดเล่นสิพรีม ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ)
“อยู่กับเพื่อน”
(ใคร เพื่อนที่ไหน)
“ถ้าไม่รู้ว่าพี่เอกเลิกรักพรีมแล้ว พรีมคงคิดว่าพี่เอกกำลังหวงนะคะ แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ พรีมสบายดี”
(ถ้างั้นพี่ไม่กวน พรีมช่วยอ่านและอนุมัติเอกสารให้หน่อยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเอาเข้าไปให้เซ็น)
“ได้ค่ะ”
หลังจากเธอวางสายโทรศัพท์เสร็จก็เดินออกมาข้างนอก แม้ตอนนี้เธอพอจะลุกขึ้นยืนและเดินได้แล้ว แต่ก็ยังเจ็บและแสบอยู่หน่อย ๆ
“นายทำอะไร”
พรีมเดินเข้าไปใกล้ธีม พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังชงอะไรสักอย่างใส่ในแก้วก็ถามขึ้น ทำเอาธีมรีบเอามือปิดปากแทบไม่ทัน
(พี่ธีมคะ เสียงใคร) เสียงหญิงสาวในโทรศัพท์ดังขึ้น
“ไม่มีอะไรครับเด็กดี คงเป็นเสียงข้างห้อง” แม้มันจะเป็นการโกหกที่งี่เง่า แต่ธีมก็เลือกที่จะพูดเพราะไม่อยากให้ขวัญคิดมาก
คงคุยกับแฟนอยู่สินะ แล้วไอ้เสียงออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้มันคืออะไร ไม่คิดเลยว่าธีมที่ตัวโตขนาดนั้นจะมีมุมอ้อนแฟน นึกว่าจะเป็นสัตว์ร้ายคอยตะครุบเหยื่ออย่างเดียว เธอตีมือของธีมเบา ๆ เพื่อให้ปล่อยมือที่ปิดปากตัวเองไว้
(แล้วสรุปพี่ธีมจะถามสูตรไปให้ใครเหรอคะ) ปลายสายถาม
“ว่าจะไว้ชงกินเองครับ พี่คิดถึงฝีมือของขวัญนี่นา”
(ถ้างั้นวันหยุดพักร้อนก็กลับมาหาขวัญนะคะ... โอ๊ะ พี่ธีม เพื่อนขวัญมารับแล้ว ขวัญไปก่อนนะคะ)
“ครับ อย่าซนล่ะ ถ้าเงินไม่พอใช้ก็โทร.บอกพี่”
(รับทราบค่ะ รักพี่ธีมนะคะ)
“พี่ก็รักขวัญครับ”
พอวางสายเสร็จธีมก็ยื่นแก้วบรรจุเครื่องดื่มที่ตัวเองเพิ่งจะชงเสร็จให้หญิงสาวที่ยืนมองตัวเอง
“อะไร” พรีมรับแต่ถามอย่างงง
“น้ำขิงต้มผสมน้ำผึ้งครับ ช่วยลดไข้กับแก้เจ็บคอ”
“นายโทร.ถามแฟนเพื่อมาทำให้ฉันกินเหรอ”
คำถามของพรีมทำให้ความรู้สึกผิดยิ่งเกาะกุมหัวใจของธีมมากขึ้น เขารู้สึกเหมือนตัวเองทำผิดต่อขวัญมากขึ้นไปอีก แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะมาอ้างเพื่อไม่ดูแลคนตรงหน้า
“เอ่อ... ฉันขอโทษ ขอบใจนะ” พรีมรู้ตัวว่าพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดก็พูดขอโทษธีมทันที
“ไม่เป็นไรครับ”
“ฉันอยู่ที่นี่นายคงลำบากใจจริง ๆ เดี๋ยวฉันอาบน้ำเสร็จจะกลับเลย”
“ได้ครับ ถ้าคุณพรีมสะดวกแบบนั้น”
รอบนี้ธีมไม่รั้งพรีมไว้ เพราะเขาเห็นว่าพรีมเริ่มดีขึ้นแล้ว อีกอย่างเขาไม่อยากอยู่กับคนตรงหน้าสองต่อสองเลย ภาพและรสสัมผัสมันยังติดตราตรึงในหัวใจ สัมผัสแปลกใหม่ที่เคยได้ลิ้มลองลองความหวานของดอกฟ้ากำลังทำให้เขาติดใจ เพราะฉะนั้นเขาควรจะอยู่ให้ห่างมัน
พรีมอาบน้ำเสร็จก็กลับตามที่บอก ระหว่างทางที่กลับเธอก็นึกถึงแต่เซ็กซ์เร่าร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองกับธีม แก่นกายอันใหญ่โตและลีลาบ้าคลั่งของอีกฝ่ายทำให้เธอถึงกับหน้าแดงจนต้องหาที่จอดรถเพื่อเรียกสติที่เตลิดไปไกลของตัวเอง
การที่ถูกปฏิบัติราวกับเป็นสิ่งของสำคัญมันทำเธอรู้สึกเป็นคนสำคัญ แม้กระทั่งกับเอก เรื่องบนเตียงอีกฝ่ายยังไม่ขนาดนี้เลย
โอ๊ยยยย... ยัยพรีม เลิกคิดได้แล้ว ต่อให้เขาแสนดีแค่ไหนเขาก็มีเจ้าของแล้ว