ธีมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ ในมือก็ถือกะละมังใส่น้ำกับผ้าผืนเล็ก ถ้าจะให้หญิงสาวนอนสภาพนี้เลยก็คงเหนียวตัวแย่ เขาเลยตั้งใจจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้สักหน่อย แต่เพียงแค่มือแตะผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำลงบนใบหน้าขาวเนียนที่แดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ เขาก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก
อึก !!
เหี้ย... อย่าใจเต้นแรงดิวะไอ้ธีม ท่องไว้เธอคือเจ้านาย... มึงรักขวัญ อย่าคิดวอแว
ความจริงเขาก็ดูแลเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยบ่อย ๆ
เพียะ!!
ธีมตบแก้มตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนจะลงมือเช็ดแขนเช็ดหน้าให้อีกฝ่าย
“หวังว่าพอคุณตื่นขึ้นมาจะรู้สึกขอบคุณในน้ำใจที่ผมมีให้บ้างนะครับ เพิ่มเงินเดือนอีกสัก 5,000 ก็ดี”
ธีมปัดผมที่ปรกหน้าพรีมออกให้อย่างอ่อนโยนแล้วบ่นกับคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง ก่อนที่จะหยิบหมอนกับผ้าห่มออกไปนอนที่โซฟาด้านนอก แต่ก่อนที่จะนอนเขาก็หยิบเอกสารที่ค้างออกมาทำให้เสร็จ
เช้าวันต่อมา
“โอ๊ยยย...” พรีมตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวอย่างหนัก เมื่อคืนเธอเมาสินะ แต่ว่าที่นี่มันคือที่ไหน
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
พรีมมองคนที่วิ่งเข้ามาหาตัวเองหลังจากที่ได้ยินเสียงเธอร้อง หัวหน้าฝ่ายการตลาดอย่างนั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นห้องนี้ก็ห้องของเขา แปลว่าตลอดทั้งคืนเธออยู่ห้องของผู้ชายคนนี้สองต่อสอง พอคิดได้แบบนั้น เธอก็รีบรวบผ้าห่มมากอดไว้แน่น
“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ” ธีมรีบพูดเพราะกลัวพรีมเข้าใจผิด ดูจากท่าทางแล้วคงคิดไกลน่าดู
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วนายทำอะไรฉันหรือเปล่า”
“อ๋อ... เมื่อวานคุณพรีมเมาหนักครับ ผมไม่รู้จะโทร.หาใครเลยพากลับห้อง แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ”
เฮ้อ หวังว่าจะเชื่อเขานะ
“นายได้กลิ่นเหม็นอะไรไหม” พรีมได้กลิ่นบางอย่างที่ไม่คุ้นชินลอยเข้าจมูกก็รีบถามเจ้าของห้องอย่างสงสัย
“เฮ้ยยย... ยาแก้แฮงก์ที่ต้มไว้” พอนึกได้ ธีมก็รีบวิ่งไปที่ห้องครัว
ส่วนพรีมก็รีบลุกขึ้น แต่เพราะอาการมึนเมาเลยทำเธอเซเล็กน้อย แต่พอตั้งสติได้ก็รีบเดินออกไปดู
“นายทำอะไรเหรอ” พรีมชะโงกหน้าไปดูอย่างสนใจ
“ต้มใบรางจืดแห้ง คุณพรีมรู้จักหรือเปล่า”
“ไม่”
“สรรพคุณมันแก้เมาค้างได้ ยาพื้นบ้านน่ะครับ แต่ก่อนผมไปดื่มกับหัวหน้าแล้วเมาบ่อย ๆ คนรักผมเลยเอามาทำอบแห้งให้... คุณพรีมไปนั่งกินข้าวรอก่อนก็ได้ ผมต้มข้าวต้มไว้รอบนโต๊ะแล้ว กินตอนร้อน ๆ จะได้สบายท้อง”
พรีมเดินลงไปนั่งลงที่โต๊ะตามที่ธีมบอก
“นายมีแฟนแล้วเหรอ”
“จะเรียกแฟนก็ไม่ได้หรอกครับ เรายังไม่ได้คบกัน แต่เราก็อยู่ด้วยกันมานานแล้ว” ธีมตอบพร้อมกับเทยาลงไปในแก้ว
“ทำไมไม่พาแฟนนายมาพักที่นี่ด้วยล่ะ ตามกฎสามารถพาครอบครัวมาพักด้วยได้นะ” พรีมบอกเผื่อเขาไม่รู้กฎข้อนี้ พลางตักข้าวต้มเข้าปาก
อือ รสชาติใช้ได้เลย ตานี่มีดีกว่าที่เห็น
“เธอยังเรียนไม่จบครับ เธอเรียนอยู่ปี 4 แต่อยู่ที่ต่างจังหวัดเลยไม่สะดวกมาอยู่ด้วย”
“งั้นเหรอ ระยะทางมันน่ากลัวนะ” พรีมพึมพำกับตัวเองเพราะมันเคยเกิดขึ้นกับเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง
“รสชาติพอกินได้ไหมครับ” ธีมเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องพูดแล้ววางแก้วยาลงข้าง ๆ พรีม ก่อนตัวเขาเองจะถอดผ้ากันเปื้อนและนั่งลงที่ตรงถ้วยข้าวตัวเองวางไว้
“อือ พอกินได้ นายเป็นผู้ชาย ทำไมทำกับข้าวเป็นล่ะ” พรีมถามอย่างสงสัย ที่จริงผู้ชายทำอาหารเป็นไม่แปลกหรอก แต่คนตรงหน้าเธอตอนนี้มันต่างจากที่คิดมากเกินไป ด้วยลักษณะรูปร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ในความคิดของเธอ หัวหน้าฝ่ายการตลาดคนนี้ไม่น่าที่จะเคยเข้าครัวเลยด้วยซ้ำ
“ฮ่า ๆ ผมต้องทำเป็นอยู่แล้ว ผมเป็นเด็กกำพร้าทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียน ทำแทบจะทุกอย่างที่ได้เงิน ร้านอาหาร ก่อสร้าง รับจ้างทั่วไป ขับแท็กซี่ช่วงปิดเทอม อย่ามองแบบนั้นสิครับ ถ้าไม่ทำผมก็ไม่มีเงินที่จะใช้จ่าย ผมไม่กลัวความเหนื่อยความลำบากจากงาน แต่ผมกลัวที่จะทำให้คนรอบข้างลำบากเพราะตัวเอง” ธีมรีบอธิบายต่อเมื่อเห็นพรีมทำหน้าอึ้ง
เธอไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะเคยลำบากมาก่อนขนาดนี้
“นายเก่งนะ ถ้าเป็นฉันคงทนไม่ไหว”
“ไม่หรอกครับ เราอยู่ในจุดที่ต่างกัน จะพูดแบบนั้นคงไม่ถูกไปทั้งหมด ผมคิดว่าถ้าผมไปอยู่ในจุดของท่านประธานผมก็คงอดทนต่อแรงกดดันไม่ได้แน่”
“เป็นคนดีกว่าที่คิด” พรีมพึมพำคนเดียว
“คุณพรีมอิ่มแล้วเหรอครับ”
ธีมถามเมื่อเห็นหญิงสาวอีกฝ่ายวางช้อนในมือลง
“ใช่ ท้องมันปั่นป่วนยังไงก็ไม่รู้” ใบหน้าของเธอดูไม่ค่อยโอเคเท่าไร
“ดื่มน้ำในแก้วสิครับ”
หญิงสาวที่ถูกบอกให้ดื่มมองน้ำออกสีน้ำตาลในแก้ว ยกมันจะขึ้นดื่ม แต่กลิ่นที่แตะจมูกมันแปลก
“ทนเอาหน่อยนะครับ ไม่งั้นวันนี้คุณพรีมต้องเมาค้างทั้งวันแน่”
คำบอกของเขาทำให้เธอสูดหายใจเข้าอย่างแรงก่อนที่จะยกมันขึ้นดื่มรวดเดียว ทำเอาเขาถึงกับอึ้ง
ที่จริงเขาอยากบอกว่าค่อย ๆ จิบก็ได้ แต่คงไม่ทันแล้วแหละ
“คือว่า เมื่อวานขอบคุณนะที่ช่วยดูแล”
“ไม่เป็นไรครับ สบายมาก แต่ก่อนที่คนรักหรือเพื่อนเมาผมก็ดูแลบ่อย ๆ”
“อือ... ฉันมีเรื่องจะถาม”
“ครับ ว่ามาเลย”
“ในสายตาพนักงานแบบพวกนาย ฉันเป็นประธานที่งี่เง่าแล้วก็นิสัยเสียมากใช่ไหม”
“พรวด ! แค่ก ! แค่ก”
คำถามของตรงหน้าทำเอาธีมที่กำลังตักข้าวเข้าปากถึงกับสำลัก
“ใจเย็นนาย” พรีมลุกเดินไปช่วยลูบหลังให้ธีม ธีมยกน้ำขึ้นดื่ม พอหายโล่งขึ้นมาหน่อย
“ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ” ธีมหันไปยิ้มแห้งให้คนที่มาช่วยตัวเอง
น่าขายหน้าชะมัด
“คือว่าที่จริงแล้วคนส่วนใหญ่เขาก็คิดแบบนั้นแหละครับ... แหะ ๆ” ธีมหัวเราะแห้งกลบเกลื่อน ลูบท้ายทอยไปมาอย่างกลัวความผิด แต่เขาก็ไม่อยากโกหกพรีมเพื่อเอาความดีใส่ตัว
“นายก็คิดแบบนั้นเหรอ”
ธีมนิ่งไปสักพักก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
“นายเป็นคนที่ซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเองมากเลยนะ” พรีมเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้แล้วพูด
“ขอบคุณครับ”
“เอาละ ท้องไส้ฉันเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว ขอบคุณสำหรับข้าวต้มกับยาแก้แฮงก์นี่นะ ฉันไปอาบน้ำก่อน วันนี้ฉันมีนัดคุยกับบอร์ดบริหาร”
“ได้ครับ ขาดเหลืออะไรบอกผมนะครับ”
พอเก็บถ้วยไปล้างเสร็จ ธีมก็มานั่งแชตโทรศัพท์กับคนรักของตัวเองสักพักก่อนที่จะเอาถ้วยไปล้าง พอเขาล้างเสร็จก็ดูเหมือนประธานสาวจะแต่งตัวเสร็จพอดี
“โทรศัพท์กับกระเป๋าเงินวางอยู่บนหัวนอนนะครับคุณพรีม ผมขอตัวอาบก่อน” ธีมโผล่หน้าออกจากห้องน้ำมาบอกพรีมที่อยู่ด้านนอก
“อือ ขอบใจมาก”
พรีมเดินไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง
เอก (15 สายไม่ได้รับ)
แม่ (ลูกไม่กลับบ้านเหรอวันนี้ โทร.กลับบอกแม่ด้วยนะ แม่เป็นห่วง)
จะโทร.มาทำไมเยอะแยะ เป็นห่วงเธอในฐานะเลขานุการดีเด่นอย่างนั้นเหรอ