“รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไงต่อ”
“คะ?” ญาดาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
“กินยาคุมด้วยล่ะ เพราะฉันไม่ต้องการให้มีอะไรผิดพลาด”
“ค่ะ คุณเหมันต์”
“หมดธุระแล้วก็ออกไปได้...”
คำสั่งของเขาทำให้ญาดากลืนน้ำลายอึกใหญ่ เธอรู้ว่าเขาพูดเช่นนั้นเพราะกลัวว่าเธอจะลืมกินยาคุม หากตั้งครรภ์ขึ้นมาอาจสร้างปัญหาใหญ่ที่เขาไม่ต้องการ แต่เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ในร่างกายของเธอมีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขากำลังเติบโตอยู่เงียบ ๆ
ญาดาก้มหน้าก้มตาเดินออกจากห้องทำงานของเขาไปโดยไม่พูดอะไรอีก เธอไม่กล้าบอกเขาเพราะไม่รู้ว่าหากวันหนึ่งเขารู้ความจริง เขาจะรับได้หรือไม่หรืออาจเลือกจะทำอะไรที่เธอไม่คาดคิดก็ได้
บอดี้การ์ดสี่คนที่ยืนเฝ้าหน้าห้องทำงานของเหมันต์ พวกเขายืนนิ่งในท่วงท่าคุ้นชินของผู้ได้รับการฝึกมาอย่างเข้มงวด
แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความสงสัย เมื่อได้รู้ว่าญาดาได้รับสิทธิพิเศษเกินกว่าผู้หญิงคนใดที่เคยได้รับจากมาเฟียหนุ่มผู้ไม่สนใจใครนอกจากผลประโยชน์ของตัวเอง
เรื่องนี้ไม่ปกติเอาเสียเลย...
พวกเขาต่างเคยเห็นมาแล้วนับไม่ถ้วน ผู้หญิงสวยระดับดารานางแบบ คนในวงสังคมหรือแม้แต่ทายาทเศรษฐีที่พยายามยัดตัวเข้ามาในชีวิตของเหมันต์
สุดท้ายก็ถูกปฏิเสธด้วยคำพูดเย็นชาหรือไม่ก็ถูกกันออกไปหลังจากมีความสัมพันธ์เพียงคืนเดียว
เหมันต์ไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนแต่ก็ไม่ได้เลวทรามเสียทีเดียว แต่ทุกคนรู้ดีว่าเขาไม่เคยปล่อยให้ใครเข้าใกล้ตัวนานเกินความจำเป็น
ความสัมพันธ์สำหรับเขาก็แค่เรื่องของผลประโยชน์หรือความบันเทิงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่กับญาดาทุกอย่างดูแตกต่างไปจากทุกครั้ง
การ์ดเชิญสุดหรูสำหรับเหมันต์มาเฟียหนุ่มผู้กุมอำนาจเหนือธุรกิจสีเทาหลายแขนงในฮ่องกง ไปร่วมงานกาล่าดินเนอร์สุดหรูซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีบรรดานักธุรกิจระดับแนวหน้า นายทุน และเจ้าสัวผู้ทรงอิทธิพลจากหลายประเทศร่วมงาน
ทุกอย่างควรจะดำเนินไปตามแผน หากไม่ใช่เพราะนางแบบสาวคนดังที่เขาตั้งใจจะควงไปร่วมงานเพื่อเสริมบารมีกลับล้มป่วยกะทันหันและต้องเข้าโรงพยาบาล
เหมันต์ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดทว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้ตนเองต้องปรากฏตัวอย่างโดดเดี่ยวในค่ำคืนนี้
เขาจึงหันไปมอง ‘ญาดา’ ลูกหนี้สาวควบตำแหน่งเมียเก็บกำลังช่วยแม่บ้านก้มหน้าก้มตาถูพื้นอย่างขยันขันแข็ง
มือเรียวเปื้อนฟองน้ำยาทำความสะอาด และละอองเหงื่อเกาะตามหน้าผาก เธอพยายามขัดถูกคราบหนักบริเวณมุมประตูทางเข้าหายไปให้หมด ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองคนที่เดินผ่าน
เสียงรองเท้าหนังราคาแพงเหยียบลงบนพื้นหินอ่อน เหมันต์ปรากฏตัวขึ้นในสูทสีดำเข้ม ดวงตาคมเข้มใต้กรอบหน้าเคร่งขรึมก้มมองหญิงสาวที่กำลังทำงานอยู่ตรงหน้า เขายืนล้วงกระเป๋ามองภาพนั้นอยู่ครู่หนึ่ง
“หยุดได้แล้ว”
“แป๊บนึงค่ะ เหลืออีกนิดเดียวก็จะสะอาดแล้ว”
“ฉันบอกให้หยุด...ก็ต้องหยุด!”
เด็กดื้ออย่างญาดาถึงกับชะงักและยอมหยุดแต่โดยดี เธอวางไม้ถูพื้นลงข้างตัว แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเต็มตา
“ฉันให้เธอทำหน้าที่เมีย ไม่ใช่แม่บ้าน!”
“คือว่าป้าแม่บ้านปวดขาค่ะ ฉันเลยอาสามาช่วย”
“ถ้าอยากช่วยมากนักไว้วันหลังฉันจะสั่งให้เธอทำความสะอาดบ้านทั้งหลัง รวมทั้งของโรงแรมกับคาสิโนของฉันด้วย”
“คุณเหมันต์คะ การที่ฉันมาอยู่บ้านคุณในฐานะลูกหนี้หรือเมียเก็บ ฉันไม่รู้จักใครที่นี่สักคน แต่ป้าเอิงเป็นคนที่ช่วยดูแลฉัน แนะนำฉันเรื่องต่าง ๆ การที่ฉันตอบแทนด้วยการช่วยงานเล็ก ๆ น้อยๆ คงไม่ทำให้คุณเสียหายหรอกค่ะ”
เหมันต์ได้ยินญาดาตอบกลับด้วยเหตุผลก็ทำให้เขาเงียบจนพูดไม่ออกเช่นกัน ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นมายืนเถียงเขาฉอด ๆ แบบนี้เขาคงไม่เอาไว้แน่
“คืนนี้จะมีงานกาล่าเธอต้องไปด้วย” เหมันต์สบตาเธอแล้วกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าหวานที่มีเหงื่อซึมเงยขึ้นพร้อมกับดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเองโดยไม่รู้ตัว
“ฉะ...ฉันเนี่ยนะคะ?”
“ใช่ ฉันจะให้คนพาเธอไปเตรียมตัว”
“...”
ญาดากะพริบตาถี่อย่างยังไม่แน่ใจว่านี่เป็นเรื่องจริง ก่อนจะตอบพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ
พูดจบร่างสูงหันหลังเดินจากไปโดยมีบอดี้การ์ดเดินตามหลังประกบไม่ห่าง ทิ้งไว้เพียงความเงียบและกลิ่นน้ำหอมลึกลับที่ชวนหลงใหลอิ่งอยู่กลางแดดยามสาย
หญิงสาวยืนมองตามร่างสูงไปจนลับตา ก่อนจะถอนหายใจพรืดออกมา
‘บางก็สงสัยว่าเป็นเจ้าหนี้หรือเป็นเจ้าชีวิตแน่ให้ทำนั่นทำนี่อยู่ได้...’
เธอหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อบนหน้าผาก ก่อนจะก้มลงเก็บไม้ถูพื้นอย่างระมัดระวังไม่ให้ตัวเองลื่นล้มเพราะทุกฝีก้าวของญาดาเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเจ้าตัวน้อยในครรภ์