คืนนี้เป็นคืนแรกที่ญาดาย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ของเหมันต์ เธอตั้งใจว่าจะพักผ่อนให้เต็มที่เสียหน่อย ทว่าเพื่อนรักอย่างคติยาโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ญาดาก็เล่าให้ฟังตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบว่าต้องเจออะไร
โดยคติยาเอ่ยปากบอกว่าถ้ามีเวลาว่างจะชวนไปทำบุญสะเดาะเคราะห์เผื่อจะเจอเรื่องดี ๆ บ้าง และที่สำคัญอีกไม่กี่วันจะต้องนำบทความวิจัยไปให้อาจารย์ที่ปรึกษาดูว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
พอญาดาได้ยินคำว่าบทความวิจัยก็ตาโตขึ้นมาทันที เพราะเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้เธอลืมไปสนิทเลย หลังจากวางสายจากเพื่อนรักร่างบางเดินไปเปิดแลปท็อปขึ้นมาดูข้อมูล
ดวงตากลมโตมองไฟล์งานวิจัยที่ยังค้างคาก็ปวดหัวขึ้นมาทันที ยิ่งพยายามอ่านเท่าไหร่ยิ่งไม่เข้าใจเพราะข้อมูลก็ดูจะซับซ้อนขึ้นทุกที จะถามอาจารย์ที่ปรึกษาตอนนี้ก็คงจะไม่ได้
ญาดาตัดสินใจเดินไปถามบอดี้การ์ดในบ้าน ทั้งคนซ้าย คนขวา แต่ไม่มีใครรู้เรื่องการเงินระหว่างประเทศอย่างที่เธอกำลังทำวิจัยเลยสักคน
มาเฟียหนุ่มที่กำลังทำงานในห้องเห็นหญิงสาวในกล้องวงจรปิดเดินถือแล็ปท็อปไปถามคนนั้นทีคนนี้ทีก็ถึงกับขมวดคิ้วเป็นปม เขาจึงถามโจบอดี้การ์ดคนสนิทว่าญาดากำลังทำอะไร
โจตอบว่ากำลังไล่ถามเรื่องงานวิจัยอะไรสักอย่าง ถ้าหากไม่ได้คำตอบตามที่ต้องการเธอคงไม่ยอมกลับห้องไปพักผ่อน เหมันต์จึงให้บอดี้การ์ดไปเรียกญาดามาพบ
“มีอะไรคะคุณเหมันต์”
“บอดี้การ์ดของฉันกำลังทำงานอยู่ อย่าให้ฉันเห็นว่าเธอไปกวนเขาอีก” เขาตอบเสียงเรียบขณะยังคงถือแก้วเหล้าไว้ในมือ
“ฉันไม่กวนบอดี้การ์ดของคุณแล้วก็ได้ ถ้าคุณช่วยฉัน...” ญาดากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพลางถือโน้ตบุ๊กแนบอกไว้แน่น
“เรื่องอะไร?”
“ฉันต้องการข้อมูลทำวิจัยค่ะเป็นหัวข้อเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเงินทุนระหว่างประเทศซึ่งมันซับซ้อนมาก แล้วฉันกลัวว่าจะเรียนไม่จบถ้าหาข้อมูลไม่ได้”
“แล้วมันธุระกงการอะไรของคนอื่น”
นาทีนี้ต้องหาคนช่วยไว้ก่อน ญาดากะพริบตาปริบ ๆ “คุณเป็นมาเฟียที่เก่ง ใจดี มีความรู้ ความสามารถ ฉลาดหลักแหลม”
เธอพูดอวยแบบใสซื่อจนเขาเลิกคิ้วสูง
“เรื่องแค่นี้คงไม่เกินความสามารถคุณหรอก ใช่ไหมคะ” เธอรีบเสริม
เหมันต์วางแก้ววิสกี้ลงบนโต๊ะ ได้ฟังญาดาพูดอวยซะขนาดนี้ ถ้าไม่ช่วยก็คงเสียชื่อหมดสินะ
น่าเบื่อจริง ๆ ทั้งที่ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขาด้วยซ้ำ
“ถ้าฉันช่วยเธอก็อย่าทำตัววุ่นวายในบ้านฉันอีก เธออยู่ในสถานะลูกหนี้และคู่นอนเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าของบ้านที่จะทำอะไรตามอำเภอใจได้”
“ฉันรู้หน้าที่ของตัวเองดีค่ะ แต่เรื่องการศึกษาก็สำคัญกับฉันมาก ฉันอยากเรียนจบปีนี้....” ญาดาก้มหน้าลงทำหน้าตาน่าสงสาร
มาเฟียหนุ่มเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะคว้าแลปท็อปของเธอมาดูข้อมูลและช่วยเธอทำวิจัยในส่วนที่ยากจะเข้าใจ
“ขอบคุณค่ะ” ญาดาเงยหน้าขึ้นพลันทำให้ดวงตาของหญิงสาวเป็นประกายทันที
“ความจำในแล็ปท็อปมันจะหมดแล้ว เธอเก็บอะไรไว้เยอะแยะ”
“ฉันโหลดเพลงไทยเดิมเก่า ๆ ลงเครื่องไว้ค่ะ ส่วนใหญ่จะโหลดทั้งอัลบั้มเพราะค่อนข้างหายาก”
“ก็ดี...” เขาพูดขณะกำลังกดแป้นพิมพ์
ตัวเขาเองเป็นคนชื่นชอบเพลงเก่าเช่นกัน เวลาเจอคนที่ชอบอะไรเหมือนกันมันก็ทำให้รู้สึกดีไม่ใช่น้อย “ฉันสรุปข้อมูลการเงินให้เธอหมดแล้ว และก็อัปเกรดความจำลงเครื่องเธอให้ด้วย”
“ขอบคุณนะคะที่คุณช่วยฉัน”
“อย่าลืมสิ ฉันไม่ได้ทำให้เธอฟรี ๆ”
“ฉันทราบค่ะ”
“...ถอดเสื้อผ้าออก...”
หน้าที่ของญาดาคือเป็นเมียเก็บชั่วคราวเพื่อรอเวลาคู่หมั้นตัวจริงของเขากลับมาจากฮ่องกงนั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้
หญิงสาวทำตามคำสั่งของเขาด้วยการถอดเสื้อผ้าออกหมดเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่า ดวงตาเรียวเล็กของเขาจับจ้องเธอทุกสัดส่วนเพราะหน้าอกใหญ่ขาวนวลเนียนกับเอวคอดที่ชวนให้น่าลิ้มรสแถมบริเวณส่วนล่างก็กระตุ้นความปรารถนาของเขาได้อย่างดี
เธอยังคงสวยเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน มาเฟียหนุ่มขยับเนคไทออกและปลดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงเช่นกัน
เหมันต์โน้มใบหน้าหล่อก้มลงจูบหญิงสาวตรงหน้า ริมฝีปากอวบอิ่มของเธอทำให้เขาบดขยี้และดูดดึงได้อย่างพึงพอใจ
ลิ้นสากขยับเข้าไปข้างในโพรงปากเล็กมอบรสจูบอันดุเดือดให้กับหญิงสาวร่างบาง
เขาไม่อาจหาคำตอบให้กับตัวเองได้ว่าทำไมการจูบกับญาดาถึงทำให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเคยจูบกับดารานางแบบคนอื่น ๆ ก็ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้
จากนั้นร่างสูงนั่งพิงเก้าอี้และให้ญาดานั่งคุกเข่า หญิงสาวต้องทำหน้าที่ของตัวเองด้วยการปรนเปรอให้เขามีความสุขที่สุด
มือบางจับแกนกายขยับขึ้นลงไปมาจนมันแข็งตั้ง และใช้ริมฝีปากเลียละเลงบริเวณเวณส่วนหัวซึ่งมีปลายแยกสองฝั่ง
“อ่าห์...” เหมันต์ครางอยู่ในลำคอ ฝ่ามือหนาจับศีรษะของหญิงสาวที่กำลังปรนเปรอกดขึ้นลงไปมาตามความต้องการของตัวเอง
จากนั้นญาดาก็ใช้ริมฝีปากครอบกายแกนขนาดใหญ่ จนกระทั่งถึงจุดที่พึงพอใจแล้วเหมันต์ให้เธอนั่งคล่อมบนตักเขา หน้าอกใหญ่แนบชิดใบหน้าหล่อคมทำให้เจ้าตัวยกมือขึ้นมาบีบเคล้นลูบคลำสลับกันการใช้ริมฝีปากดูดดึงไปมา
“อื้อ อ๊า” หญิงสาวครางออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะการใช้ลิ้นของเขาทำให้เธอเสียวซ่านไปทั้งตัว จากนั้นญาดาก็หย่อนสะโพกลงบนแกนกายที่แข็งตั้งชูชันของเขา
“อื้อ...”
ท่อนลำขนาดใหญ่ถูกสอดใส่เข้ามาพลันทำให้หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บและเสียวซ่านเพราะตั้งแต่มีอะไรกับเขาครั้งนั้นก็ไม่ได้มีอะไรกับใครอีกเลยทำให้กลีบดอกสีสดยังคงคับแคบเหมือนครั้งแรกไม่เปลี่ยน
มาเฟียหนุ่มออกแรงขยับสะโพกทั้งเร็วทั้งหนักสลับกันไปมา มืหนายังคงจับที่เอวคอดและใบหน้าหล่อยังคงซุกไซ้บนหน้าอกใหญ่ไปพร้อมกัน
“อ๊า อื้อ อ๊ะ”
“อ่าห์ อื้ม”
หลังจากนั้นร่างสูงก็ลุกขึ้นยืน และจับญาดากลับหลังหันแนบชิดกับกำแพงห้องทำงาน มือหนาจับท่อนลำสอดใส่ในรอยแยกจากด้านหลังจนเข้าไปลึกที่สุด
ฝ่ามือหนากุมมือบางและพาออกแรงขยับสะโพกเข้าออก ท่านี้เขาสามารถเอาแกนกายเข้าไปได้ค่อนข้างลึกซึ่งทำให้เธอรู้สึกจุกไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็เสียวจนไม่อยากให้เขาหยุดเช่นกัน
ไม่นานนักหลังจากที่ถึงจุดที่พึงพอใจแล้ว ญาดาก็คว้าเสื้อผ้าของตัวเองมาใส่ให้เรียบร้อย ส่วนเหมันต์ก็เดินกลับไปนั่งเก้าอี้หนังสีดำหยิบซิการ์ขึ้นมาจุดสูบ