คลับ S
คืนนี้ค่อนข้างน่าเบื่อสำหรับการมาดื่มเลี้ยงฉลองสำหรับพี่รหัสของไอ้เม่าที่เพิ่งได้ติดต่อมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของอเมริกาว่าเขาได้รับเลือกเข้าเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้วยที่พี่เขาเป็นเด็กเรียน แต่ดันชอบจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ถึงขนาดเหมาคลับเลี้ยงรุ่นน้องที่รู้จักกัน งานมันเลยค่อนข้างกร่อยและเงียบ แม้จะมีเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟไม่อั้นก็ตามที แต่เพราะมันน่าเบื่อมาก ตอนนี้ฉันเลยเอาแต่นั่งพิงไหล่คิน ทิ้งตัวลงอย่างเบื่อหน่าย พร้อมกับดื่มไวน์ไปแล้วเป็นแก้วที่ 5 ได้
“วินเซนต์ แกออกไปคุยกับพี่ข้างนอกหน่อยสิ”
เสียงน้ันเรียกความสนใจจากทุกคน รุ่นของเม่าหรือไอ้วินเซนต์เดินเข้ามาหา เธอส่งยิ้มให้เราทุกคนก่อนหยุดสายตาอยู่ที่เพื่อนวินเซนต์ที่เราเรียกว่าเม่าอย่างเศร้าสร้อย
“ตอนนี้เลยเหรอ?” เม่าถาม ถึงทำท่าเหมือนอยากจะไป แต่ก็เหมือนเกรงใจพวกเราอยู่ มันคงคิดว่างานนี้ตัวเองชวนเพื่อนมา ถ้าไม่อยู่ด้วยคงเสียมารยาท
“ไปเหอะมึง พวกกูอยู่ได้ โตๆ กันแล้วเนี่ย” ฉันพูดขึ้นก่อนเม่าจะปฏิเสธพี่เขาไป ดูท่าแล้วพี่สาวคนนี้คงมีเรื่องสำคัญมากอยากคุย
ปกติพี่รหัสของไอ้เม่าจะไม่ค่อยเข้ามาทักพวกเรา หรือมาอยู่ใกล้ ตั้งแต่เรียนมาจนเธอจบออกไปแล้วเราอยู่ปีสี่กัน พี่เขาก็ยังคงรักษาระยะห่าง ยกเว้นตอนนี้ เหมือนกับว่าเธอกำลังต้องการทำอะไรบางอย่าง
“งั้นเดี๋ยวกูมา ถ้าจะกลับก็ส่งข้อความหาเข้าใจไหม”
“อือๆ”
แล้วมันก็ลุกเดินไปพร้อมกับพี่เขา เรากลับมานั่งเงียบเหมือนเดิม เวลยังคงใช้เวลาไปกับการเล่นเกมท่ามกลางงานเลี้ยง คนที่ฉันกำลังทิ้งตัวพิงไหล่อยู่ก็นั่งแชตคุยกับใครไม่รู้นานสองนานแล้วแบบไม่สนใจคนอื่นใดรอบตัว ส่วนฉันยังคงส่งไวน์เข้าปากไม่หยุด เพราะช่วงนี้เครียดหนักเรื่องโครงการ ไหนจะต้องออกไปดูงานต่างจังหวัดอีก
เราเรียนปีสุดท้ายแล้ว และสาขาวิศวะที่เราเลือกเรียนมันต้องเลือกที่จะออกพื้นสำรวจจริง ฉันคิดหนักเพราะไม่รู้จะลงไปที่ไหน กลาง อีสาน หรือตะวันออกดี มันหลายอย่างมากจนปวดหัวไปหมด โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานท่ามกลางผู้ชายที่แทบไม่มีประโยชน์สามตัวนี้
“เบาๆ หน่อย เดี๋ยวแม่งก็เมา” คนที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่นานพูดขึ้น มือใหญ่ดันหัวฉันออกจากไหล่ให้กลับไปนั่งตัวตรง
พอถูกผลักออกไร้ที่พิงหัวฉันก็หมุนทันที นี่ไม่รู้เลยว่าตัวเองเมา กระทั่งหัวโงนเงนทำท่าจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่
“เมาไร ไวน์แค่ห้าแก้วไม่สะทกสะท้านกระเพาะด้วยซ้ำ” ฉันเชิดหน้าขึ้น เริ่มเห็นหน้าคินไม่ชัดเหมือนคนสายตาสั้นไปแล้ว
“แน่ใจ? กูว่ามึงหน้าแดงแล้ว” คนตัวใหญ่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนฉันผงะถอย ด้วยความที่ตัวอ่อนปวกเปียกอยู่แล้วเลยหงายหลังตึงใส่ตักเวล หัวกระแทกต้นขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของมันเต็มๆ
“เชี่ยเวล ขาหรือเหล็กวะ แข็งฉิบหาย โอยย…หัวกู”
คนถูกด่าสะดุ้งเล็กน้อย เวลทิ้งโทรศัพท์ไว้ข้างตัวก่อนใช้นิ้วชี้ดันหัวฉันหนีจากตักมัน
“ถ้าแข็งก็ไม่ต้องมาหนุน ตักนี้มีไว้เพื่อแฟน ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่ใช่ผู้หญิงแบบมึงไอ้ดาว” พูดจบก็ทำท่าเหมือนจะอ้วกใส่ฉัน เหมือนรังเกียจกันแบบสุดๆ
ป๊าด!!! ไอ้บ้านี่ กล้าดียังไงมาทำหน้าทำตารังเกียจใส่ฉันแบบนั้นน่ะ
“ไอ้เวร…” กอดอกยืดตัวขึ้นทันใด ตอนนี้เมาคืออะไรฉันไม่รู้จักแล้ว “ถ้าวันไหนกูเลื่อนขั้นเป็นเมียมึงนะ…” ชี้หน้ามันอย่างเอาเรื่อง
ทว่ายังไม่ทันได้พูดจบประโยค หนึ่งมือใหญ่หยาบกร้านน้อยๆ ก็รวบนิ้วฉัน แล้วร่างทั้งร่างก็ลอยวืดหนีห่างจากเวล
ตุบ!
กลับมานอนบนตักแข็งๆ ของใครอีกคนแทนเฉยเลย
อะไรวะเนี่ย?
“นอนตักกูนี่ ไอ้เวลมันหวงตักก็ไม่ต้องไปบังคับนอนหนุนมัน” คินพูดอย่างไม่มองหน้าฉัน ตัวมันตอนนี้รินเหล้าอยู่ด้วยซ้ำ “อีกอย่าง ถ้าคิดว่าไอ้เวลจะเอามึงทำเมียนี่ฝันไปเหอะ คิดว่าทั้งโลกนี้เหลือมึงกับแมลงสาบให้เลือก มันยังเลือกแมลงสาบเป็นเมียเลยดาว”
อึก!
สะอึกจนแทบสิ้นใจ ทำไมเพื่อนแต่ละคนของฉันมันใจร้ายกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้กันจังวะ
“รู้ได้ไงว่าไอ้เวลมันจะไม่เลือกกู” ฉันพูดแล้วหันไปสะกิดเข่าเวลด้วยนิ้วเท้าเบาๆ เวลเงยขึ้น เลิกคิ้วตั้งคำถามแทนพูด “ระหว่างแมลงสาบกับกู มึงจะเลือกใครทำเมีย?” ถามมันไปตรงๆ เลย อยากรู้คำตอบเหมือนกัน
“มึงก็รู้ว่ากูเกลียดแมลงสาบ…”
“หมายถึงมึงจะเลือกกู?”
เวลเงียบไป มึงหน้าคินแล้วหลุบตามองฉันด้วยรอยยิ้มแสนร้ายกาจ “กูเลือกมึงก็เอามึงเป็นเมียไม่ลงว่ะ ขอไม่เลือกทั้งสองแล้วฆ่าตัวตายดีกว่า กูขอไปพบพระเจ้าดีกว่าต้องตกนรกอยู่กับมึง กับแมลงสาบ เอเมน”
พูดจบไอ้เพื่อนตัวดีก็สวดภาวนาถึงพระเจ้าที่มันนับถือ ก่อนขยับหนีจากฉันไกลกว่าเดิม เพราะเท้าฉันกำลังยกขึ้นเพื่อถีบมันด้วยความแค้น
ใจร้ายมาก! ไอ้เวลมันร้ายกว่าทุกคนเลยเรื่องปากเนี่ย
“ไอ้เวล ไอ้เลว! มานี่เลยนะ กูจะถีบปากหมาๆ มึงให้”
ฉันทำท่าจะลุกไปขย้ำหัวเวลให้ได้ แต่ตัวยังไม่ทันได้นั่งดีด้วยซ้ำก็ถูกผลักลงนอนที่เดิม
“มึงถามมันเอง จะไปโกรธอะไรมัน” คินพูดทั้งยังส่ายหน้าไปมา
“เออ ช่วยไม่ได้ อยากถามกูเอง มึงกูรู้ว่ากูเกลียดแมลงสาบ”
“แล้วมึงเกลียดกูด้วย?”
“ไม่ กูรักมึง แต่ไม่กล้าเอาทำเมีย เดี๋ยวหัวแบะ”
“หัวแบะ?” นั่นทำให้ฉันขมวดคิ้ว ทำไมเวลถึงพูดอย่างกับว่าฉันมีเจ้าของแล้วเลย ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วอีนับดาวโสดมากกว่า 8 ปีแล้วค่ะ
“เออ อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ แบบเพื่อนรักดีกว่า”
ฉันเงียบไป ครุ่นคิดกับประโยคของเวล พออ้าปากกะว่าจะถามอะไรต่อ ไวน์หนึ่งแก้วก็ถูกยื่นมาให้ตรงหน้าซะแล้ว
มองมันครู่หนึ่งก่อนเงยหน้ามองคนที่ยื่นแก้วให้ “อะไร”
“ดื่มไปมึงอ่ะ พูดมาก น่ารำคาญ”
“จ้ะ!”
เพื่อนฉันแต่ละคนนี่ดีๆ ทั้งนั้นเลยแหะ ให้เกียรติฉันดีทุกคนมันเลยสิน่า!
รับแก้วมาแล้วยันตัวลุกขึ้นดื่มดีๆ หลังจากนั้นเราสามคนก็เข้าโหมด Introvert ต่างคนต่างทำเรื่องของตัวเอง เวลกลับไปเล่นเกม คินนั่งพิมพ์ข้อความอย่างกับกำลังแข่งพิมพ์เร็ว ส่วนฉันนั่งชันเข่าดื่มเงียบๆ ดูบรรยากาศรอบข้าง จนกระทั่ง
ปุก!
หัวหนักๆ ปะทะเข้ากับไหล่กว้างของคนที่นั่งข้างๆ
“เมา?” คินเลิกคิ้วถาม แต่ก็ไม่ได้ผลักออก ยังยกแขนขึ้นโอบไหล่ฉันไว้หลวม เพราะไม่อยากให้หล่นลงไปนอนกับพื้น หรือโซฟา
ฉันเพียงพยักหน้าตอบ ซบหัวลงกับอกกว้าง ขยับตัวเข้าใกล้คินจนรู้สึกถึงความอุ่นของร่างกาย
“นอนได้นะ เดี๋ยวพากลับบ้าน”
“อือ”
พูดตอบเบาๆ ฉันพยายามหลับตาลงเพื่อพักผ่อน ทว่าไม่รู้ทำไมเปลือกตามันถึงไม่ยอมปิด ฉันเอาแต่โฟกัสหนึ่งสิ่งตรงหน้าอกคินที่มันนูนออกมาจนเห็นเป็นตุ่มเล็กๆ น่ารัก
ไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ถึงได้เอื้อมมือสะกิดมันเบาๆ สองสามครั้ง อาจจะเพราะฉันกำลังคิดว่ามันคือเห็บ เลยใจดีจะเขี่ยออกให้เพื่อนมั้ง
“อือ… ไอ้ดาว!” คินครางแผ่วตอนปลายเล็บโดนมัน “หยุดเลยนะ” ก่อนเปลี่ยนโทนเสียงเป็นเข้มขึ้น
ฉันยังไม่หยุด เขี่ยมันเล่นอยู่อย่างนั้นกระทั่งเหมือนคินจะทนไม่ไหวอีกต่อไป มันผลักฉันออกไปไกลจนแทบโดนเวลด้วยความแรง
“เขี่ยหัวนมกูอยู่ได้ไอ้ดาว เดี๋ยวแม่ง…!”
“เดี๋ยวอะไร พูดมาให้หมด” อายเพราะเมาเลยโมโหมากกว่าปกติ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพิ่งทำอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควรกับเพื่อนไป ฉันเท้าเอวมองคินอย่างเอาเรื่อง
“เดี๋ยวกูจับ… แม่ง!”
“…!”
ประโยคนั้นทำฉันอ้าปากค้าง ส่วนไอ้คนที่กำลังจดจ่ออยู่กับเกมถึงกับทำโทรศัพท์หล่นมือ