กับดักรัก 9 | เรียกพี่ครินทร์

1805 คำ
“เซย์! แม่อยู่ไหน!” เสียงของเซนต์ดังขึ้น หลังจากวิ่งตามโถงทางเดินมาหาน้องสาวที่นั่งเอามือซบหน้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เซลีนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของเสียง ที่ทำให้ผิดหวังซ้ำอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยโอบล้อมด้วยน้ำตาจ้องมองพี่ชายอย่างสั่นระริก ร่างบางเดินเข้าไปหาพี่ชายเพียงไม่กี่ก้าว แต่ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น เสียงสั่นๆ ถูกกลั้นไว้แทบไม่ไหวจนระเบิดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา “ตอนเซย์โทรหา พี่อยู่ที่ไหน!” เซนต์ชะงักไป ร่างสูงยังหอบหายใจจากการวิ่ง แต่คำพูดของน้องสาวทำให้เขาชะงักงันราวกับถูกตบหน้าเข้าอย่างแรง “เซย์โทรไปหลายสาย แต่พี่ก็ไม่รับ…” “เซย์…” เซนต์เอ่ยชื่อเธอเบาๆ พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอสวนกลับทันควัน “เซย์กลัว กลัวจนไม่รู้จะทำยังไง แล้วพี่อยู่ที่ไหนฮะ!” เซนต์กัดฟันแน่น ยอมรับความผิดโดยไม่อาจแก้ตัว เขาเดินเข้ามาใกล้ ยกมือหมายจะจับไหล่น้องสาว แต่เธอถอยกรูด “อย่ามาแตะต้องตัวเซย์!” เสียงของเธอเปล่งออกมาอย่างเด็ดขาด น้ำเสียงเปลือยเปล่าด้วยความเสียใจและสั่นกลัว “พี่เซนต์ไม่เคยอยู่เวลาเซย์ต้องการเลยสักครั้ง ไม่เคยเลย…” เธอหันกลับมาสบตาเขาอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยเปียกชื้นและแดงก่ำ แต่ลึกลงไปมีเพียงความว่างเปล่า “พี่มันก็แค่ คนที่บอกว่ารักครอบครัว แต่ไม่มีวันอยู่ตรงนี้เวลาที่ครอบครัวต้องการจริงๆ” เซนต์ยืนนิ่ง เหมือนมีมีดกรีดตรงหน้าอก ความรู้สึกผิดรุนแรงเกินกว่าจะทนไหว เขาขบกรามแน่น ดวงตาร้อนผ่าว แต่เขาไม่แม้แต่จะหลบสายตาเธอ “พี่ขอโทษ พี่ผิดเองที่ไม่รับสายเซย์” เขาก้มหน้ายอมรับความผิดครั้งนี้อย่างไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ “พี่ขอโทษเซย์ พี่ขอโทษ…” เซนต์ทรุดตัวลงกับพื้นพูดประโยคเดิมซ้ำๆ เนื้อตัวสั่นเทิ้มฟ้องว่ากำลังร้องไห้ เซลีนเม้มปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง ก่อนจะย่อตัวลงเสมอกับพี่ชาย มือเล็กเอื้อมไปแตะไหล่แกร่งเบาๆ “พี่ขอโทษที่ไม่ได้รับสาย…” “ไม่เป็นไร เซย์เองก็ขอโทษเหมือนกันที่พูดจาไม่ดีกับพี่ไป” เซนต์นิ่งงันไปชั่วอึดใจเมื่อได้ยินคำขอโทษจากปากน้องสาว เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำสบกับดวงตาคู่นั้นที่แม้จะเต็มไปด้วยความเสียใจ แต่ก็ยังคงอบอุ่นเสมอ “ไม่ เซย์ไม่มีอะไรต้องขอโทษเลย” เขาส่ายหน้าเบาๆ เสียงแหบพร่าอย่างคนที่ฝืนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “พี่ต่างหากที่ห่วยแตก” “อย่าพูดแบบนั้น” เซลีนพึมพำเบาๆ แล้วขยับเข้าไปใกล้อีกนิด นั่งข้างๆ พี่ชายที่ยังคุกเข่าอยู่กับพื้นหน้าห้องฉุกเฉิน เสียงนาฬิกาผนังเดินไปอย่างเชื่องช้า ทุกวินาทีมันเหมือนจะบีบอัดความรู้สึกไว้จนแน่นอก สองพี่น้องนั่งข้างกันโดยไม่พูดอะไรต่ออีกพักใหญ่ ความเงียบระหว่างพวกเขาไม่ใช่ความเงียบของคนแปลกหน้า แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยบาดแผล “พี่ขอโทษอีกครั้งนะเซย์ พี่…” เสียงเขาแผ่วลง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นพูดติดตลกฝืนๆ “พี่มันเป็นพี่ชายที่แย่ว่ะ” “พี่ไม่ได้แย่หรอก…” เซลีนตอบเสียงเรียบ ก่อนจะพูดต่อแบบไม่มองหน้า “อย่าโทษตัวเองเลย” ประโยคหลังไม่ได้ช่วยทำให้เซนต์รู้สึกดีได้เลย มันยิ่งทำให้เขาจมดิ่งกับความรู้สึกผิดที่ไม่ได้รับสายน้องสาว ก่อนหน้านี้เขาช่วยกิจกรรมรับน้อง ยุ่งมากจนไม่ได้แตะโทรศัพท์ พอพักเบรกถึงรู้ว่าโทรศัพท์แบตหมด เพราะลืมชาร์จตั้งแต่ก่อนออกมาจากบ้าน หลังจากชาร์จแบตเสร็จถึงรู้ว่าเซลีนโทรมาหลายสาย ยิ่งรู้ว่าอาการแม่ทรุดลงเขายิ่งรู้สึกผิดที่ไม่ได้มาอยู่ข้างๆ น้องสาวอย่างที่ควรทำ K1NG CLUB เซลีนเพิ่งเริ่มงานจึงไม่อยากหยุด เธอมาทำงานตามปกติโดยเซนต์เฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล สองพี่น้องหาทางออกเรื่องนี้ช่วยกันแต่ก็ดูริบหรี่ ระหว่างกำลังจัดเตรียมของสำหรับก่อนร้านเปิด เซลีนเหม่อลอยจนเผลอทำแก้วแตกไปหนึ่งใบ วันแรกของการทำงานอย่างจริงจังไม่เคยมีใครทำพลาด เดย์เรียกเซลีนมาคุยเพราะปล่อยผ่านไม่ได้ “เซย์ขอโทษค่ะ” เธอยกมือไหว้ขอโทษผู้จัดการร้าน “เป็นอะไรหรือเปล่า เมื่อวานพี่ยังเห็นเราทำงานกระฉับกระเฉงอยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงเหม่อ” เดย์กอดอกพร้อมกับขยับริมฝีปากเอ่ยถาม ดวงตาคมกดลงมองเซลีนนิ่งๆ “เซย์ขอโทษค่ะผู้จัดการ พอดีแม่เซย์ป่วยแล้วอาการท่านทรุด เซย์เลย…เครียดนิดหน่อย” “แล้วทำไมไม่ขอลา?” “เซย์เพิ่งเข้ามาทำงาน อีกอย่างวันนี้เป็นการทำงานวันแรก เซย์ไม่อยากให้ดูไม่ดีค่ะ” “แม่เราป่วยเหรอ” “ค่ะ” “มีอะไรที่พี่พอจะช่วยเราได้ไหม?” เดย์ดูออกว่าอีกคนกำลังมีเรื่องทุกข์ใจซ่อนอยู่ “ไม่มีค่ะ…” เธออยากพูดออกไปมากว่ามี แต่ด้วยความที่มันเป็นเรื่องเงินเลยไม่กล้า “อืม งั้นก็กลับไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวคุณครินทร์มาแล้วทุกอย่างยังไม่เรียบร้อยจะซวยเอา” กึกก ชื่อที่หลุดออกมาจากปากผู้จัดการร้าน ทำให้เซลีนชะงัก ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นมองเดย์อัตโนมัติ “เมื่อกี้ผู้จัดการบอกว่า…คุณครินทร์เหรอคะ?” “ใช่ นี่เราไม่รู้เหรอว่าคุณครินทร์คือเจ้าของที่นี่?” “ไม่ค่ะ…” เมื่อคืนเขาบอกเธอแบบนั้น แต่เธอกลับคิดว่าเขาโกหกเพราะอยากให้ดื่มด้วย ยืนนิ่งสตั๊นไปสามวิ ก่อนที่สมองจะเริ่มประมวลผล และเอ่นถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เขาเป็นเจ้าของจริงๆ เหรอคะ?” “ใช่ คุณครินทร์เป็นเจ้าของที่นี่ ลองเสิร์ชในกูเกิลดูได้” เซลีนกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ ความคิดในหัวกำลังวิ่งวนกันเละเทะเป็นฝูงแมวแตกตื่น ไม่ใช่เพราะทำแก้วแตกก่อนหน้านี้ แต่เพราะตอนนี้เธอกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายที่เข้าใจผิดว่าเป็นแค่ลูกค้า หากแต่ดันเป็น ‘เจ้าของ’ ที่นี่ “กลับไปทำงานต่อได้แล้ว” “ค่ะ ผู้จัดการ…” ฟังจากส้มเช้งรู้สึกว่าเขาคงรวยไม่เบา แต่ไม่คิดว่าจะรวยขนาดนี้ เมื่อคืนเธอทำพลาดมหันต์ และแอบหวังว่าเขาจะไม่ถือสากับเรื่องเมื่อคืนนะ ครินทร์เดินเข้ามาพอดี ทุกคนในร้านเหมือนมีเซนเซอร์รับรู้การมาของเขา ต่างหยุดนิ่งแล้วยกมือไหว้ “สวัสดีครับ/ค่ะคุณครินทร์” เซลีนที่กำลังจับผ้าเช็ดโต๊ะชะงัก หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม มือไม้ชาวูบแบบไม่ทันตั้งตัว เธอรีบยกมือไหว้เหมือนกับพนักงานคนอื่น พลางยิ้มแห้งให้เขาแบบแกนๆ “สะ…สวัสดีค่ะ” ดวงตาของครินทร์หันมามองเธอแวบนึง เซลีนรู้สึกเหมือนโดนสายตานั้นบีบคอเอาไว้ในมโน ใบหน้าคมคายนิ่งจนเธอไม่สามารถคาดเดาได้เลย ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะเดินผ่านหน้าเธอไป ราวกับเธอคืออากาศในร้าน ห้องทำงาน ฟุบ… ครินทร์ทิ้งตัวนั่งลงโซฟา ยกขาวางพาดโต๊ะตรงหน้าด้วยท่าทางสบายๆ มือหนาล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเข้าแอคหลุมเพื่อส่องไอจีเซลีน ก๊อก ก๊อก “ใคร” “เซย์เองค่ะ” “เข้ามา” แอดดด คนที่ได้รับอนุญาตค่อยๆ เปิดประตูห้องทำงานที่เป็นทั้งเจ้านายและรุ่นพี่ที่มหา’ลัยเข้ามา เซลีนถือถาดเครื่องดื่มและของว่างตรงเข้าไปหาครินทร์ ร่างบางย่อตัวนั่งลงแล้วจัดแจงทุกอย่างวางลงโต๊ะด้วยความเกร็ง ถึงแม้ไม่เงยหน้าขึ้นมองตรงๆ แต่เธอก็รับรู้ได้ผ่านหางตาว่ากำลังโดนจับจ้อง “เมื่อคืน…เซย์ขอโทษที่เสียมารยาทนะคะ” ครินทร์ไม่ตอบทันที เสียงเปิดขวดน้ำแร่ดัง แกร๊ก แทนคำพูด ก่อนที่เขาจะยกดื่มเงียบๆ สายตาคมยังคงจับจ้องคนตรงหน้าที่ยืนเรียบร้อยราวกับเด็กนักเรียนทำความผิดมา “เมื่อคืนเสียมารยาทยังไง?” เซลีนเงยหน้าขึ้นนิดหนึ่ง ก่อนจะเม้มปากแน่น “ที่เซย์พูดไม่ดี แล้วก็…เข้าใจผิดเรื่องคุณเป็นเจ้าของที่นี่ เซย์คิดว่าโดนหลอกเพื่อให้ยอมดื่มด้วย ก็เลยตอบไปแบบนั้น” “คิดว่าฉันเป็นผู้ชายประเภทไหนกัน ถึงต้องพูดหลอกล่อผู้หญิงด้วยเหตุผลนั้น?” “เซย์แค่…เข้าใจผิดไปค่ะ” “อืม” เขาพยักหน้าแล้วเอนตัวพิงพนักโซฟา สายตาจ้องมองใบหน้าสวยหวานที่คล้ายคู่อริจนน่าหงุดหงิด “แต่ก็ดี พนักงานแบบเธอหายาก ฉันชอบ” “งั้นเซย์ขอตัวไปทำงานต่อนะคะ” “เดี๋ยว” “คะ?” “นั่งดื่มด้วยกันก่อนสิ” แววตาคมเข้มปรายมองโซฟาตัวว่างเพียงนิด ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองเซลีน “แต่ตอนนี้ร้านใกล้เปิด…” “ฉันจะเพิ่มโบนัสให้พิเศษ ถ้าเธอนั่งดื่มกับฉัน” เซลีนบีบถาดในมือแน่น ใครบ้างจะไม่อยากได้โบนัส ยิ่งช่วงนี้เธอต้องการเงินยิ่งไม่กล้าปฏิเสธ “กะ…ก็ได้ค่ะ” เซลีนวางถาดลงข้างตัวเบาๆ แล้วขยับตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับครินทร์โดยเว้นระยะห่างพอสมควร ร่างบางตึงเครียดในขณะที่เขากลับผ่อนคลาย ครินทร์รินเหล้าลงแก้วเปล่าให้เซลีน สีเหลืองอำพันสะท้อนแสงไฟนวลเหนือศีรษะ เสียงน้ำแข็งกระทบขอบแก้ว ฟังแล้วกระตุกเส้นประสาทความประหม่าของคนตัวเล็กให้ตึงขึ้นกว่าเดิม “เคยดื่มเหล้าอยู่ใช่ไหม” เสียงเขาเอ่ยถามเรียบๆ แต่สายตานั่นกลับคล้ายจะรู้คำตอบอยู่แล้ว “ค่ะ แต่ไม่บ่อย” เซลีนตอบเบาๆ มือเรียวจับแก้วไว้แต่ยังไม่กล้ายกดื่ม “ก็ดี” เซลีนลอบกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบ รสชาติขมเผ็ดแล่นไหลผ่านปลายลิ้นจนต้องขมวดคิ้วทันที ร่างบางไอเล็กน้อยเพราะความแสบของแอลกอฮอล์ แต่เธอก็ฝืนยิ้มไว้ไม่ให้ดูเป็นเด็กมือใหม่มากเกินไป ครินทร์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะยกแก้วของตัวเองขึ้นชนกับของเธอ “ทำไมถึงยอมดื่มกับฉัน ทั้งที่เมื่อคืนปฏิเสธ” “เมื่อคืนเซย์ไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร” เสียงเธอสั่นนิดๆ ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และแรงกดดันจากสายตาคมที่จับจ้องไม่วาง “เลิกเรียกฉันว่าคุณได้แล้ว” “แล้วจะให้เซย์เรียกว่าอะไรคะ” “เรียกพี่ครินทร์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม