บทที่ 3

1339 คำ
เยี่ยนฟางเดินทางไปเมืองหานโจว ห่างจากเมืองหานตงสามร้อยลี้ ขบวนของนางถือว่าเดินทางไม่ช้าหรือเร็วเกินไปสิบวันก็มาถึงเรือนของท่านแม่นาง จางลี่จิ่นมีเรือนในสินเดิมสามที่ด้วยกัน แต่เยี่ยนฟางเลือกที่หานโจวเพราะทิวทัศน์ที่งดงามตามคำบอกเล่าของแม่นมจาง แล้วก็ไม่ได้ทำให้นางผิดหวังบ้านนอกตัวเมืองที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย รายล้อมไปด้วยขุนเขาและสายน้ำ ตามที่นางเคยเห็นในภาพวาดที่งานประมูลในภพของนาง เท่านี้เพียงพอแล้วสำหรับนาง รายได้ที่ต้องหาค่อยคิดที่หลังว่าจะทำเช่นไร ตอนนี้ขอดื่มด่ำธรรมชาติก่อน เมื่อคนขับรถม้าลงของเสร็จก็เดินทางกลับทันที เยี่ยนฟางยังใจกว้างยัดเงินให้อีกคนละห้าตำลึง เพราะระหว่างทางที่มาทุกคนไม่ทำให้นางลำบากใจเลยสักนิดแม้จะเป็นเพียงคุณหนูที่โดนขับไล่ออกจากตระกูล อาจจะเป็นเพราะตอนที่มารดาของร่างเดิมยังอยู่ไม่เคยกดขี่ทาสในเรือนเลยสักครั้ง แม่นมมองบ้านแล้วน้ำตาก็พานจะไหล เยี่ยนฟางเพียงแค่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ แม้นางจะเป็นบ่าวแต่มิเคยได้รับความลำบาก เมื่อต้องประสบโชคร้ายคงยังทำใจยอมรับไม่ได้ ทั้งคู่เก็บกวาดเรือนให้พออยู่ได้ไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยเดินทางเข้าเมืองเพื่อหาช่างซ่อมเรือนและหาซื้อทาสเพิ่ม เช้าวันรุ่งขึ้นเยี่ยนฟางเช่าเกวียนจากในหมู่บ้านข้างเคียงเพื่อเดินทางเข้าตัวเมือง เรือนของนางอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียงสองเค่อเท่านั้น นางไปติดต่อช่างซ่อมเรือนก่อน เมื่อนัดแนะเวลาไปดูเรือนเรียบร้อยก็ไปโรงค้าทาส เรื่องเช่นนี้เยี่ยนฟางให้แม่นมจัดการ เงินที่นางหยิบมาจากคลังของโม่โฉวนั้นเพียงพอให้นางใช้ชีวิตไปได้ทั้งชีวิต แต่นางไม่ยอมจะอยู่เฉยอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องคิดสักนิดว่าตนต้องทำสิ่งใดดี หากจะให้ออกปล้นก็ดูจะไม่เข้าท่า นางไม่อยากใช้ชีวิตหลบซ่อนอีกแล้ว เมื่อได้ชีวิตใหม่ชาตินี้ก็ขออยู่อย่างคนธรรมดาก็แล้วกัน บ่าวที่แม่นมเลือกนั้นมีทั้งพ่อบ้าน สาวใช้ข้างกายสองคน บ่าวทำความสะอาดและทำอาหารสามคน คนขับรถม้าและคนสวนอีกสองคน เยี่ยนฟางตรวจดูแต่ละคนก็นับถือสายตาของแม่นมจางที่มองคนได้ทะลุปรุโปร่ง ทั้งหมดเป็นบ่าวในตระกูลใหญ่มาก่อน แต่ได้นับโทษบ่าวทั้งหมดจึงถูกส่งตัวให้เป็นทาสต่อ นางซื้อของใช้ที่จำเป็นทั้งหมด เสื้อผ้า เครื่องนอน ข้าวสาร เครื่องปรุงต่างๆ แล้วยังซื้อรถม้าไว้ใช้อีกด้วย เมื่อกลับถึงเรือนก็พบกับนายช่างสร้างเรือนพอดี นางให้ปรับปรุงเรือนหลังกับเรือนข้างเสียก่อน เพราะมีเจ้านายเพียงคนเดียวเรือนพักของบ่าวจึงค่อยทำที่หลัง ให้บ่าวอยู่ในเรือนหลักเสียก่อน วันนี้จึงได้ทำความสะอาดทั้งหมดเพื่ออยู่กันไปก่อน เมื่อมีพ่อบ้านจางกับแม่นมจาง บ่าวที่เหลือจึงทำงานกันอย่างเรียบร้อย สาวใช้ข้างกายสองคนที่แม่นมจัดไว้ให้นางต้ังชื่อใหม่ว่า เสี่ยวชิงกับเสี่ยวชิน สาวใช้ทำความสะอาดเรือนชื่อ เสี่ยวผิงกับเสี่ยวถิง แม่ครัวชื่อเสี่ยวจิน คนขับรถม้าชื่อเสี่ยวไห่ คนดูแลสวนชื่อเสี่ยวเจา เหตุการณ์ทางจวนท่านเจ้าเมืองมิได้ราบรื่นเช่นเรือนของเยี่ยนฟาง เยี่ยนซินรับไม่ได้กับใบหน้าที่มีแต่รอยแผล นางอาละวาดจนบ่าวไพร่ไม่อยากจะเข้าหา กู้หลิวหลางเมื่อได้ข่าวเปลี่ยนตัวเจ้าสาวเขาก็ไม่ยินยอม นายท่านกู้ที่แก้ไขเรื่องราวไม่ได้ต้องยอมข่มความโกรธที่มีจวนเจ้าเมืองไว้ หากไม่ต้องพึ่งพาบารมีท่านเจ้าเมืองการเปลี่ยนตัวเจ้าสาวครั้งนี้เขาคงไม่ยินยอมเช่นกัน กู้หลิวหลางให้คนของตนสืบหาที่อยู่ใหม่ของเยี่ยนฟาง เขาอยากพบนางอยากถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หากนางยังรักมั่นในตัวเขาอยู่เขายินดีจะรับนางเข้าจวนต่อให้เป็นเพียงอนุแต่เขาก็พร้อมที่จะดูแลนาง ถนอมนางอย่างดี เขากับเยี่ยนฟางมิใช่เพิ่งรู้จักหรือเพิ่งเริ่มรักนาง เขารักนางมาตั้งแต่เด็ก เรื่องที่เกิดขึ้นเขาให้คนสืบมาแล้วยิ่งเห็นใจนางมากขึ้น และยิ่งรังเกียจเยี่ยนซินจนมิอาจจะยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ได้ ข่าวลือเรื่องท่านเจ้าเมืองส่งคุณหนูใหญ่เยี่ยนกลับไปอยู่บ้านเดิมของมารดาไม่นานก็ปิดไว้ไม่มิด ในโรงน้ำชาล้วนจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างสนุกปาก บ้างว่าคุณหนูใหญ่เป็นโรคร้ายต้องเดินทางไปรักษาตัว บ้างว่าเพราะคุณชายกู้กับคุณหนูรองเยี่ยนมีใจให้กันจนต้องเปลี่ยนตัวเจ้าสาวคุณหนูใหญ่ตรอมใจรับไม่ได้เลยขอกลับไปพักบ้านเดิมของมารดา แต่ที่คนให้ความสนใจไม่น้อยคือคุณหนูใหญ่ลอบพบบุรุษคุณชายกู้จับได้จึงขอเปลี่ยนตัวเจ้าสาว แต่ที่คนภายนอกไม่รู้ข้อเท็จจริงคือเรื่องที่เกิดขึ้น บุรุษสามคนที่นั่งอยู่ในโรงน้ำชาต่างมองหน้ากันโดยมิได้พูดสิ่งใด คนเป็นนายมีเพียงใบหน้าดำคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด เขาเพิ่งจะรับรู้ได้ว่าในคืนนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นในเรือนเล็กคือจวนท่านเจ้าเมืองแต่ที่เขาไม่รู้คือคิดที่เขาข่มเหงคือคุณหนูใหญ่เยี่ยน เรื่องนี้เพิ่มความยุ่งยากให้แก่เขาเสียแล้ว ยิ่งรู้ข่าวภายในจวนจากสายที่ทิ้งไว้ว่านางโดนขับไล่ออกจากตระกูลโดยมิได้สืบสาวเรื่องแต่อย่างใด "ส่งคนไปตามหาที่อยู่ของนาง" กว่าเขาจะเอ่ยปากพูดได้ คนสนิททั้งสองก็แทบจะกลั้นหายใจรอรับโทสะของเจ้านายจนเกือบจะขาดใจจริง หลินจางหย่ง รองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ตนได้รับคำสั่งให้เดินทางมาหาข้อมูลของขุนนางที่ร่วมมือกับแคว้นเซี่ยเพื่อทำสงครามกับแคว้นฉี แต่เขานึกไม่ถึงว่าตนที่ปลอมตัวเป็นพ่อค้าจนเข้ามาในจวนท่านเจ้าเมืองได้ จะถูกคนวางยากำหนัดในน้ำและอาหาร จนเกิดเรื่องในเรือนท้ายจวนขึ้น อาจจะเป็นเพราะหน้ากากมนุษย์ที่ตนใช้ทำให้คนของคุณหนูรองหมายตาเลือกตนเข้า หน้ากากที่หลินจางหย่งสวมในคืนนั้น เป็นชายมีอายุห้าสิบปี หน้าตาน่าเกลียดจนคนไม่กล้าจะมองด้วยซ้ำ คนที่รับเคราะห์จากความอิจฉาของสตรีเรือนหลังจึงตกเป็นของคุณหนูใหญ่เยี่ยนที่ไม่รู้เรื่องราว หลินจางหย่งคิดว่าหากนางว่านอนสอนง่ายเขาจะรับนางไว้เป็นอนุ ถึงอย่างไรก็เป็นเขาที่ทำผิดต่อนางถึงจะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นก็ตาม ตัวเขามีสตรีที่ทางบ้านเลือกไว้ให้แล้ว ถึงจะยังไม่ได้หมั้นหมายแต่เขาก็ไม่คัดค้าน รอให้งานนี้จบเสียก่อนบิดามารดาของตนก็คงจะเข้าไปคุยกับฝ่ายหญิง ไป๋ฉินเยว่ คือหญิงสาวที่ตระกูลหลินเลือกไว้ให้เขา บิดาของนางเป็นรองเจ้ากรมการคลัง ฐานะย่อมเหมาะสมกับผู้รองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรอย่างเขา เขาที่ไม่สนใจสตรีหรือมีสตรีในดวงใจ ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธคนที่บิดามารดาจัดหาไว้ให้ เยี่ยนฟางนางมิได้รับรู้สถานการณ์ทางเมืองหานตงเลย ตอนนี้นางกำลังให้พ่อบ้านไปจัดการเรื่องเปลี่ยนแซ่ของนางจากแซ่เยี่ยนเป็นแซ่จาง และเปลี่ยนนามเป็นลี่ฟาง จางลี่ฟาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม