บทที่ 4

1462 คำ
จางลี่ฟาง ย้ายมาอยู่เมืองหานโจวได้เกือบสองเดือนตอนนี้นางเริ่มคิดจะทำการค้าแล้ว นางมีร้านค้าสินเดิมของมารดาอยู่สองร้านในเมืองหานโจว ตอนนี้นางจึงออกจากบ้านเพื่อไปดูร้านค้าและสำรวจตลาดว่าตนในเมืองมีความเป็นอยู่เช่นไร นางเดินสำรวจแทบจะทุกตรอกซอยจนเหนื่อย เสี่ยวชิงกับเสี่ยวชินที่เห็นเช่นนั้นก็ประคองคุณหนูของตนไปยังโรงน้ำชา แต่เดินไปได้ไม่ไกลตัวของลี่ฟางก็อ่อนยวบล้มพับไป สาวใช้ทั้งสองรีบอุ้มนางไปยังโรงหมอที่อยู่ใกล้ทันที หมออู่จับชีพจรแล้วส่ายหน้า เป็นเพราะท่านหมออู่มองทรงผมของลี่ฟางที่เป็นสตรียังมิออกเรือนแต่ตอนนี้นางตั้งครรภ์เสียแล้ว หากครอบครัวของนางรู้เข้าคงจะไม่เก็บเด็กไว้ให้ออกมาเป็นที่อับอาย เขาอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ สาวใช้ทั้งสองที่เห็นสีหน้าของท่านหมอไม่ดีก็หวาดกลัวว่าคุณหนูของตนจะเป็นโรคร้ายต่างนั่งน้ำตาคลอเพื่อรอคำตอบ "คุณหนูของพวกเจ้าตั้งครรภ์ นางเพียงอ่อนเพลียเท่านั้นอีกไม่นานก็ฟื้นขึ้น ข้าจะจัดยาบำรุงให้" เขากล่าวจบก็ลุกออกไป แต่ยังอดเหลือบมองมิได้ สตรีที่เป็นโฉมสะควรญคงโดนลมปากของบุรุษล่อลวงก่อนแต่งเสียแล้ว หมออู่ที่ไม่มีบุตรหลานก็ปลงตก ตัวเขามีภรรยาที่รักใคร่กันดี แต่จนใจที่ตนไม่มีบุตรไว้สืบสกุล ตัวเขาก็ไม่คิดจะมีอนุ ทางครอบครัวก็เร่งเรื่องนี้มาตลอดจนต้องพาภรรยาย้ายจากเมืองหลวงมาอยู่ที่เมืองหานโจวแทน ก่อนหน้าที่ตนจะย้ายมาอยู่ในเมืองที่สงบและสวยงามเช่นหานโจวตัวเขาเคยเป็นถึงหมอหลวงในวัง เป็นเพราะทนความกดดันของตระกูลไม่ไหวจึงได้ทิ้งลาภยศและใช้ชีวิตสงบที่นี่ ลี่ฟางฟื้นขึ้นมาก็รู้สึกเพลียอยู่ นางจำได้แค่ว่าตัวนางเหนื่อยจนอยากจะหลับแล้วหลังจากนั้นก็ไม่รู้เรื่องอีกเลย "คุณหนูท่านฟื้นแล้ว" สาวใช้ทั้งสองรีบเข้ามายืนข้างเตียง เสี่ยวชินรินชาร้อนส่งให้ ลี่ฟางเห็นท่าทางกระอักกระอ่วนของทั้งคู่ "ข้าเป็นอะไร" "คุณหนู ท่าน ท่านตั้งครรภ์เจ้าค่ะ" เป็นเสี่ยวชิงที่เอ่ยปากตอบขึ้น ลี่ฟางยังมีสีหน้าเรียบเฉย เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของนาง สาวใช้ยิ่งเป็นกังวลเข้าไปใหญ่เพราะคิดว่าคุณหนูตกใจจนไม่มีสติ "กลับจวนก่อนค่อยคุยกัน" นางให้เสี่ยวชิงไปรับยาพร้อมจ่ายเงินค่าตรวจ ลี่ฟางเดินออกไปขอบคุณท่านหมออู่พร้อมสอบถามถึงอายุครรภ์และการดูแล "ขอบคุณท่านหมอมากเจ้าค่ะ" ลี่ฟางคารวะท่านหมออู่อย่างอ้อนช้อยตามแบบคุณหนูในห้องหอ นางยังมีความทรงจำเดิมของเยี่ยนฟางเรื่องนี้จึงนับว่าไม่ยากเกินไป หมออู่พิจารณาเด็กสาวตรงหน้าที่ได้ฟังเรื่องการตั้งครรภ์ก็ไม่มีท่าทีตกใจหรืออาทรเรื่องใด มีเพียงท่าทีสบายๆ มุมปากยิ้มเล็กน้อยเหมือนฟังเรื่องทั่วไป "เจ้าเป็นหญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน แล้วจะบอกครอบครัวว่าเช่นไร" ตัวหมออู่ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงได้แสดงความห่วงใยนางออกมา อาจจะเป็นเพราะท่าทางของนางที่ทำราวไม่มีสิ่งใดในโลกนี้จะทำอันใดนางได้ "เรื่องนี้ท่านหมอมิต้องกังวลเจ้าค่ะ ตัวข้านั้นโดนขับไล่ออกจากตระกูลมาได้เกือบสองเดือนแล้ว ตอนนี้ข้ากลับมาใช้แซ่ของมารดาพร้อมเป็นเจ้าบ้านเองแล้วเจ้าค่ะ" ลี่ฟางคิดว่าท่านหมอคงกลัวครอบครัวของนางจับนางถ่วงน้ำ หากเป็นเช่นนั้นเขาคงได้ให้ยาขับเลือดนางแน่ นางจึงได้บอกเหตุการณ์คราวๆของนางเพื่อหวังว่าเขาจะได้ไม่ต้องให้ยาขับเลือดนาง "หากมีเรื่องอันใด มาหาข้าที่โรงหมอได้ตลอด ข้าแซ่อู่ มีนามตัวเดียวมาเหว่ย เรียกข้าหมออู่หรือปู่อู่ก็ได้" อาจจะเป็นเพราะเขาสงสารนางที่เป็นหญิงสาวต้องออกมาใช้ชีวิต จึงนึกจะเห็นใจมิได้ "ท่านปู่อู่ ข้าแซ่จาง จางลี่ฟาง เรียกข้าลี่ฟาง ฟางเออร์ก็ได้เจ้าค่ะ" นางตอบรับทันที ในภพนี้หากจะมีคนคอยช่วยเหลือนางย่อมเต็มใจที่จะรับน้ำใจไว้ อีกอย่างเป็นเพียงแม่นางน้อยที่โดนตระกูลทอดทิ้งจะมีสิ่งใดให้หมออู่ต้องการหลอกลวงนาง ลี่ฟางออกจากโรงหมอก็มุ่งหน้ากลับเรือนทันที นางอดคิดมิได้ว่าน้ำเชื้อบุรุษผู้นั้นช่างดีเสียจริงเพียงแค่ครั้งเดียวก็ทำให้นางตั้งครรภ์ได้แล้ว นางไม่ได้กังวลแต่อย่างใดเพียงแต่ต้องเร่งหาเงินเพื่อเก็บไว้เลี้ยงดูเด็กน้อยเสียแล้ว นางมิได้เสียใจที่มีบุตรเพราะไม่ว่าจะเป็นชีวิตก่อนหรือตอนนี้สิ่งที่นางโหยหามากที่สุดก็คือครอบครัว ในเมื่อสิ่งที่ได้มาคือเลือดเนื้อเชื้อไขของนางโดยแท้จริงก็ไม่จำเป็นจะต้องกังวลสิ่งใด บุรุษที่ใดชื่อว่าเป็นบิดาของเด็กนางก็ไม่รู้ว่าเป็นใครแล้วก็จำหน้ามิได้เสียด้วย มองเห็นได้ลางๆบุรุษคนนั้นมีอายุค่อนข้างมาก ไม่อีกกี่ปีก็ตายคงจะไม่เสียเวลาตามหานางแน่ และเขาคงไม่มีทางรู้ว่าเพียงคืนนั้นนางก็ตั้งครรภ์เสียแล้ว ลี่ฟางอดจุปากไม่ได้ อายุก็ปาจะเข้าโลงแล้วยังสามารถทำได้นางตั้งครรภ์ได้ ตอนเป็นหนุ่มคงมีลูกมีเมียเต็มบ้านไปหมดเป็นแน่ เมื่อกลับถึงเรือนแม่นมจางก็รีบเข้ามาหานางทันที สอบถามเรื่องที่ออกไปดูร้าน ถามนางกินอะไรหรือยัง เหนื่อยหรือไม่ ลี่ฟางมองแม่นมจางด้วยสายตาที่อ่อนลง อยู่ด้วยกันมาเกือบสองเดือนแม่นมจางรักและห่วงนางเป็นเรื่องจริง "แม่นม ท่านเข้ามาคุยกับข้าในเรือนก่อน ข้ามีเรื่องต้องบอกท่าน" นางให้สาวใช้ทั้งสองรออยู่ด้านนอก ลี่ฟางจับมือแม่นมมากุมไว้ แม่นมจางรู้ว่าคุณหนูของนางเปลี่ยนไปมากเมื่อออกมาจากจวนท่านเจ้าเมืองแต่ก็เป็นเรื่องดีที่คุณหนูของนางไม่ต้องคอยหวาดกลัวคนพวกนั้นแล้ว แต่วันนี้คุณหนูของนางมีสีหน้าหนักใจ เรื่องที่คุณหนูจะบอกทำให้นางอดกังวลไม่ได้ "แม่นมข้าตั้งครรภ์เจ้าค่ะ" แม่นมจางหน้าซีดแทบจะหงายหลังหล่นจากเก้าอี้ เรื่องนี้ตอนที่นางรับรู้ว่าคุณหนูโดนรังแกก็ยังนึกกังวลว่าจะเกิดขึ้น แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณหนูของนางไม่มีอาการให้เห็น นางจึงคลายความกังวลลง "ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี" แม่นมจางพำพึมราวกับคนไม่มีสติ ลี่ฟางต้องเข้าไปกอดปลอบพรางลูบหลังให้นางสงบสติลง ลี่ฟางอดจะหัวเราะออกมาไม่ได้ คนที่ต้องโดนปลอบต้องเป็นนางมิใช่หรือ เหตุใดตัวนางต้องคอยปลอบแม่นมด้วย "ไม่ต้องอันใดทั้งนั้น แม่นมต้องช่วยข้าดูแลเด็กคนนี้ให้ดีก็เท่านั้น" "แล้ว แล้ว หากคุณชายน้อยโตมาถามหาบิดา คุณหนูจะตอบว่าเช่นใดเจ้าคะ" ลี่ฟางอมยิ้มมองหน้าแม่นม "ยังไม่ทันได้ออกมา ท่านก็รู้เสียแล้วว่าเป็นคุณชายน้อย" นางอดที่จะเย้าไม่ได้ "คุณหนูท่าน เห้อออ" แม่นมมองค้อนลี่ฟาง ไม่ว่าจะเวลาใดคุณหนูของนางก็ไม่กังวลต่อเรื่องใดเลย "หากวันใดเขาถามขึ้นมา ก็ให้ทุกคนตอบไปว่าบิดาของเขาตายเสียแล้ว" นางนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างสบายๆ ตอบอย่างไม่ใส่ใจ ตัวนางเคยเป็นเด็กกำพร้า ร่างนี้ยังกำพร้ามารดา ก็เติบโตมาได้ บุตรของนาง นางต้องดูแลอย่างดีอยู่แล้ว "ฮัดเช้ย..." หลินจางหย่งจามทั้งวันจนผู้ใต้บังคับบัญชาที่มาด้วยตามหมอมาดูอาการ ท่านหมออู่ แม่นมจาง บ่าวไพร่ในเรือนของลี่ฟางล้วนแต่สาปแช่งบุรุษที่ทำให้คุณหนูของตนตั้งครรภ์ แต่คนที่ทำยังไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าสตรีที่เขานอนด้วยเพียงคืนเดียวตั้งครรภ์เสียแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม