บ่าวในจวนถือกล่องของขวัญไม้จันทน์หอมแกะสลักสวยงามมาให้ไป๋ซูเจียว
"คุณชายใหญ่ส่งมาให้เจ้าค่ะ บอกว่าให้ฮูหยินเปิดดูพร้อมคนตระกูลไป๋เจ้าค่ะ" ไป๋ซูเจียวใจกระตุก นางให้คนไม่ตามพี่ชายกับไป๋จินเยว่มาที่จวนโดยด่วน ที่นางมิได้เปิดออกดูทันทีมิใช่กลัวลูกเลี้ยง แต่เพราะหลินฮุ่ยหมินนั่งอยู่ด้วย
หลินฮุ่ยหมินรู้แล้วว่าด้านในกล่องคือสิ่งใด เพราะบุตรชายส่งจดหมายมาแจ้งตนเรียบร้อยแล้ว ที่เขานั่งอยู่ด้วยเพราะอยากเห็นงิ้วที่คนตระกูลไป๋แสดงกัน ที่เขาต้องแต่งไป๋ซูเจียวมาเป็นฮูหยินรองเพราะมารดาของตนรับปากสหายซึ่งเป็นมารดาของไป๋ซูเจียวไว้ ตอนแรกนางจะแต่งเข้ามาในฐานะภรรยาเอก แต่เขาที่ออกไปตรวจราชการต่างเมืองพบรักกับแม่ของหลินจางหย่งเสียก่อน
เขายังยืนกรานไม่รับอนุภรรยา จนเมื่อมารดาของหลินจางหย่งเสียชีวิต ฮูหยินผู้เฒ่าหลินจึงบังคับให้ตนรับไป๋ซูเจียวเข้าจวนมา
คนตระกูลไป๋เมื่อได้ข่าวก็รีบมาที่จวนตระกูลหลินทันที พี่ชายของไป๋ซูเจียวคิดว่าว่าที่บุตรเขยส่งของกำนัลมาให้ ก่อนมาที่จวนตระกูลไป๋เขายังได้รับจดหมายจากคนของเขาที่ส่งให้ติดตามหลินจางหย่งไปหานโจว ในจดหมายแจ้งเพียงว่า หลินจางหย่งเดินทางไปเยี่ยมบุตรชายของสหายที่เมืองหานโจว
"เจียวเออร์ เจ้าเรียกพี่มาด้วยเรื่องอันใด" หากตระกูลไป๋ไม่ตกต่ำเขาไม่มีทางเขามาเหยียบจวนตระกูลหลินที่เคยหักหน้าตระกูลไป๋โดยแต่งไป๋ซูเจียวเป็นฮูหยินรองเด็ดขาด
"ท่านพี่ หย่งเออร์ส่งของกำนัลมาให้ บอกกล่าวเพียงให้เปิดพร้อมท่านพี่กับเยว่เออร์เจ้าค่ะ" ไป๋ซูเจียวหันไปมองหลินฮุ่ยหมินเพื่อขออนุญาตเปิดกล่อง เมื่อหลินฮุ่ยหมินพยักหน้า ไป๋ซูเจียวก็เอื้อมมือไปเปิดด้วยตนเอง
"ว้ายยยยยยย" เสียงกรีดร้องของนายบ่าวร้องลั่นไปทั่วเรือนหนัก
"บ้าไปแล้ว" บิดาของไป๋จินเยว่ถึงกับสบถออกมา
หลินฮุ่ยหมินปรายตาไปมองพร้อมยกแก้วชาขึ้นจิบเล็กน้อย ท่าทีเสียขวัญของคนตระกูลไป๋ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น แม้ภายนอกจะแสดงสีหน้าเรียบเฉย
"หลินฮุ่ยหมิน นี่หมายความว่าอย่างไร" นายท่านไป๋ชี้นิ้วมือที่สั่นเทาไปที่กล่องไม้จันทน์หอม
"ข้าคิดว่าพวกท่านน่าจะรู้ดี" หลินฮุ่ยหมินหมุนแก้วชาเล่นอย่างไม่สนใจท่าทีของนายท่านไป๋ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นก็หันมาบอกไป๋ซูเจียวว่า
"เรื่องงานแต่งของหย่งเออร์รอให้เขากลับจากหานโจวมาจัดการ แล้วเจ้าก็อย่าได้คิดยื่นมือเข้ามายุ่งอีก" เขาสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
ไป๋ซูเจียวล้มลงนั่งกับพื้น เพียงแค่ความสงสัยของนางทำให้การหมั้นหมายของสองตระกูลสิ้นสุดลง หากนางไม่ล้ำเส้นหลินจางหย่งเช่นทุกครั้งคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หากหลินฮุ่ยหมินโมโหถึงกับหย่าขาดกับนาง บุตรชายของนางจะทำเช่นไร
"ข้าไม่ยอมให้มีการถอนหมั้นเกิดขึ้นแน่นอน" นายท่านไป๋กล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อจากไปอย่างโมโห ถึงเขาจะไม่พอใจตระกูลหลินเพียงใด แต่จะให้ยกเลิกงานหมั้นย่อมไม่ยินยอม
ไป๋ซูเจียวหมดแรงที่จะคิดอ่านสิ่งใดต่อ นางรู้ว่าพี่ชายของนางไม่ยอมให้เกิดการถอนหมั้นแน่นอน แต่หากจะให้บุตรชายนางแต่งแทนนางก็ไม่อยากให้เกิดเช่นกัน บุตรชายของนาง หลินตงชาง มีอนาคตไกล นางอยากให้บุตรของตนแต่งกับตระกูลที่พึ่งพาได้ มิใช่ตระกูลที่ตกต่ำเช่นตระกูลไป๋ของนาง
ไป๋จินเยว่กลับถึงเรือนก็ล้มป่วยทันที นางตกใจกลัวจนขวัญเสีย นางไม่คิดว่าหลินจางหย่งจะโหดร้ายเช่นนี้ แล้วยิ่งกับตระกูลของนางที่มีการหมั้นหมายกันแล้ว หากจะส่งคนไปสืบว่าคู่หมั้นของตนไปที่ไหนทำอะไร นางก็คิดว่าสิ่งที่นางกับครอบครัวทำไม่ผิด
ทางด้านหลินจางหย่งที่กำจัดคนลอบติดตามได้แล้วก็เดินทางต่ออย่างราบรื่น หลินหยางมารอรับนายของตน เขาเช่าบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านใกล้กับตระกูลจาง เพื่อสะดวกให้นายของเขาไปพบบุตรชาย
เสี่ยวเจาที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกก็เห็นขบวนรถม้าของหลินจางหย่งเข้ามาในหมู่บ้านพอดี เขาจำหลินหยางได้ จึงนำเรื่องที่เห็นไปแจ้งกับลี่ฟาง
"รนหาที่ตาย" ลี่ฟางกัดฟันพูด นางลืมชายสารเลวผู้นี้ไปเสียแล้ว ครั้งนี้เขามาอยู่ในเรือนร้างท้ายหมู่บ้านหากนางไม่โง่ก็รู้ว่าเขาคงรู้เรื่องบุตรชายฝาแฝดเสียแล้ว
นางคงจะขังเด็กทั้งสองให้อยู่แต่ในเรือนก็มิได้ หากเป็นซีห่าวยังคงหาตำราเล่มใหม่ดึงความสนใจเขาได้ แต่ซีฮันที่ชอบหนีออกไปเล่นในหมู่บ้านนางคงควบคุมเขาไว้ได้ไม่กี่วัน แค่คิดก็ปวดหัว หรือจะต้องให้นางวางเพลิงไล่คน
มื้ออาหารตอนเย็นนางจึงนำเรื่องนี้มาปรึกษาบิดากับมารดาบุญธรรม หากใช้วิธีของนางคงได้กินข้าวคุกแน่ หมออู่ที่ได้ยินก็นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ฮูหยินอู่อยากจะหาไม้ไปตีหัวชายสารเลวที่ทำบุตรสาวนางท้องแล้วเพิ่งคิดจะมาตอนนี้ (เขามาไปก่อนแล้วแม่ แต่แค่จะรับลูกสาวแม่ไปเป็นอนุเท่านั้น)
"เจ้าอย่าเพิ่งคิดมากฟางเออร์ รอดูก่อนว่าเขามาครั้งนี้เพื่อเหตุใด" หมออู่ที่คิดว่า ทหารมาใช้ขุนพลต้าน น้ำมาใช้ดินกลบ(ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ให้พลิกแพลงไปตามสถานการณ์)
"ข้าล้วนฟังท่านพ่อเจ้าค่ะ" นางไม่มีความคิดในตอนนี้จึงต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน หากจะมาแย่งลูกกับนางก็ลองดูว่านางจะจัดการชายสารเลวอย่างเขาเช่นใด