(มีเนื้อหาบางส่วนจากเรื่องปราบรักร้ายนายมาเฟีย)
“อยู่รอกินข้าวด้วยกันกับป้าก่อนนะ” ถ้าผู้ใหญ่ชวนแบบนี้เธอก็คงไม่มีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธได้แล้วแหละมั้ง
“เอ่อ..คือ..ได้ค่ะ”
19:00น.
“คุณแม่ครับ..” เสียงทุ้มดังขึ้นมาแต่ไกลและเสียงนี้มาพร้อมกับจังหวะฝีเท้าที่กำลังเดินเร่งเข้ามา ดวงตาคู่สวยหันไปมองยังเสียงนั้นแล้วก็พบเข้ากับ..เขา
นะนั่น คุณพายุนี่ว่าแต่เขามาที่นี่ได้ยังไงหรือว่าเขาจะเป็นลูกชายของคุณป้า ต้องใช่สิก็เขาเรียกคุณป้าว่าแม่นี่
นี่ฉันควรจะต้องดีใจใช่ไหมที่เขาคือลูกชายของเพื่อนสนิทแม่ฉัน แล้วแบบนี้ถ้าแม่เป็นเพื่อนกันจะทำให้ฉันกับเขามีสิทธิ์ได้สนิทกันไปด้วยหรือเปล่า
“คุณแม่มีเรื่องอะไรเหรอครับถึงเรียกผมให้เข้ามา” พายุเดินสาวเท้าเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็วและใจร้อนเขาไม่แน่ใจว่าแม่ของเขามีธุระด่วนอะไรหรือเปล่าถึงได้เรียกเขาเข้ามาอย่างเร่งรีบด่วนจี๋แบบนี้
“มาแล้วเหรอลูก นี่หนูลินดาเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่เอง” แม่พายุส่งยิ้มให้กับลูกชายตัวเองและเริ่มแนะนำฉันที่ยืนอยู่ข้างกายของท่านให้ลูกชายของเธอได้ทำความรู้จัก
“เธอ!” คุณพายุมองมาที่ฉันก็ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าฉันก็คือผู้หญิงคนนั้นคนที่ไปนำเสนอไวน์ที่บริษัทของเขาเมื่อคืนนี้
“ค่ะ ลินดาเองค่ะคุณพายุ” ลินดายิ้มออกมาด้วยความรู้สึกดีใจเธอรู้สึกมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งและคิดว่าจะขอลองดูอีกสักตั้ง
“รู้จักกันแล้วเหรอเด็กๆ” แม่พายุถามด้วยความสงสัยที่เห็นว่าลูกชายเธอกับลูกสาวเพื่อนดูเหมือนว่าจะรู้จักกัน
“รู้จักค่ะ บริษัทของลินส่งไวน์ให้กับทางร้านของคุณพายุค่ะคุณป้า” ลินดาหันหน้าไปบอกคุณแม่พายุด้วยใบหน้าที่ดูเขินอายเล็กน้อย
“อ่อแบบนี้นี่เอง ไปกินอาหารเย็นกันเถอะเด็กๆ” แม่พายุพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้และลุกขึ้นยืนบอกกับหนุ่มสาวทั้งคู่ให้ไปกินอาหารเย็นกันได้แล้วเพราะตอนนี้แม่บ้านได้จัดโต๊ะเสร็จเป็นที่เรียบร้อย
“แล้วคุณพ่อไม่อยู่เหรอครับ” เมื่อเดินมาถึงยังโต๊ะรับประทานอาหาร พายุเลือกที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามกับลินดา เขาถามหาผู้เป็นพ่อไม่แน่ใจว่าอยู่ข้างบนห้องหรือออกไปข้างนอก
“วันนี้คุณพ่อเขามีนัดกับเพื่อนเก่าน่ะลูก ออกไปทานอาหารกันข้างนอก” แม่พายุตอบให้ลูกชายได้หายสงสัยว่าคุณพ่อของเขาไปไหนกันแน่ เธอหันไปบอกกับลินดาให้นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเธอ
“นั่งเลยนะหนูลินดา”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า” ลินดายิ้มรับและค่อยๆลากเก้าอี้ออกมาเล็กน้อยเธอค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้
“เรียกแม่ก็ได้ลูก ลูกเพื่อนสนิทก็เหมือนลูกสาวของแม่นั่นแหละ”
“ค่ะคุณแม่” เมื่อได้ยินคุณป้าบอกแบบนั้นเธอจึงเรียกตามที่เธอได้บอก
“แม่ก็ลืมไปเลยว่าที่บ้านหนูผลิตไวน์ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ” แม่พายุเริ่มชวนลินดาพูดคุยอีกครั้งเมื่อเห็นว่าทั้งพายุและลินดาต่างก็เงียบไม่ยอมพูดคุยกัน
“ใช่ค่ะคุณแม่ว่าแต่คุณพายุชอบกินอะไรเหรอคะ” ลินดาที่เห็นว่าแม่พายุถามก็ส่งยิ้มบางๆพร้อมทั้งเอ่ยถามไปยังชายหนุ่มเจ้าของผับที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอ
“หืม” แม่พายุมองไปที่ลินดาทันที
“เรียกพี่สิลูกเรียกคุณซะดูห่างเหินเชียว” แม่พายุเอ่ยปากบอกให้ลินดาเรียกพายุลูกชายของเธอว่าพี่เพราะเธอรู้ว่าลินดานั้นอายุน้อยกว่าพายุถึง 2ปี
“ก็ได้ค่ะ ว่าแต่พี่พายุชอบกินอะไรเป็นพิเศษเหรอคะ”ลินดาพยักหน้าเล็กน้อยยกมือขึ้นเอาเส้นผมคาดไปที่ใบหูของตัวเองจริงๆแล้วใจเธออยากเรียกเขาว่า ‘พี่’ แบบนี้มาตั้งนานแล้วแต่แค่ไม่มีโอกาสเท่านั้น
“ผมกินได้หมดครับ” พายุตอบกลับด้วยคำสั้นๆไม่อยากลงรายละเอียดในเรื่องส่วนตัวอะไรมากนัก
“วันหลังน้องลินเอาไวน์เข้าไปให้พี่พายุลองชิมดูดีไหมคะ น้องลินขอคอนแทคติดต่อพี่ได้ไหมคะ” ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ชอบชวนคนอื่นคุยเธอจึงชวนพี่เขาพูดคุยด้วยเรื่อยๆ ส่วนเขาพายุที่เป็นพวกเงียบขรึมไม่ค่อยชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้าและไม่สนิทจึงตอบปัดกลับไป
“ติดต่อผ่านทางลูกน้องผมเหมือนเดิมก็ได้นี่ครับ” ชายหนุ่มบอกกับลินดาไปตามตรง เขาไม่ต้องการที่จะติดต่อเธอโดยตรงเพราะรู้ว่าเธอคนนี้พูดเยอะพูดมากแล้วยิ่งถ้ามีคอนแทคกันเธอต้องทักมาหาเขาทุกวันอย่างแน่นอน
“ทำไมละคะ” ลินดาทำหน้าออดอ้อนแอบนอยด์อยู่ไม่น้อยที่เขากล้าปฏิเสธและไม่ยอมให้คอนแทคกับเธอแต่ไม่เป็นไรเอาไว้ขอกับทางคุณแม่ของพี่พายุเอาก็ได้
“ผมไม่สะดวกให้เบอร์คนอื่น!” คนที่พูดตรงและพูดชัดเจนมาโดยตลอดอย่างพายุก็บอกกับเธอไปตามตรงอย่างที่ใจคิด เขาต้องการความเป็นส่วนตัวและไม่ชอบให้เบอร์กับใครถ้าไม่สนิท
แม่หน้าเสียในทันทีทำไมลูกชายของเธอถึงไม่ไว้หน้าใครขนาดนี้
“คนอื่นอะไรกันนี่ลูกสาวเพื่อนของแม่นะ..พายุ!” แม่พายุรีบปรามลูกชายของเธอเองเพราะกลัวว่าพายุอาจจะพูดอะไรต่อมิอะไรที่ไม่สมควรออกมาอีก
“ผมอิ่มแล้วขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะครับ” พายุวางช้อนส้อมลงบนจานพลางหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ดมุมริมฝีปาก เขาเบื่อเรื่องแบบนี้ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณแม่ของเขาถึงชอบเจ้ากี้เจ้าการเรื่องแบบนี้กันนัก
เรื่องที่ชอบหาผู้หญิงมาแนะนำให้กับเขา...
พายุลุกขึ้นยืนบอกกับคุณแม่แล้วเดินออกจากโต๊ะอาหารออกไปยังรถยนต์ของเขาทันที
“ดะ เดี๋ยวสิ! ตาพายุ~” แม่พายุพยายามตะโกนเรียกลูกชายของเธอแต่เขาก็ไม่หันกลับมา ผู้เป็นแม่ยิ้มแห้งหันไปบีบมือขอโทษลินดาแทนลูกชายของเธอเอง ผู้เป็นแม่ย่อมรู้นิสัยของลูกชายตัวเองเป็นอย่างดี
“แม่ต้องขอโทษหนูลินดาแทนพี่พายุเขาด้วยนะลูก พี่เขาเป็นคนแบบนี้เองแล้วแม่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรดี”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่ ต่อไปเดี๋ยวลินดาก็ชินไปเอง ทานกันต่อเถอะนะคะ” ลินดาบีบมือให้กำลังใจแม่พายุกลับเบาๆเพราะเธอก็พอรู้มาบ้างว่าเขาเป็นคนแบบไหน
‘คอยดูเถอะฉันจะทำให้พี่ตกหลุมรักฉันให้ได้เลยคอยดูเถอะหยิ่งดีนัก’ ลินดาฉุกคิดในใจคอยดูนะเธอจะต้องทำให้พี่พายุหันกลับมามองเธอให้ได้เลยแม้ว่าเขานั้นจะมีแฟนแล้วก็ตาม...
“พรุ่งนี้หนูว่างไหมลูกแม่อยากชวนให้ไปกินข้าว ไปกับพี่พายุด้วย” แม่พายุเอ่ยขึ้นอีกครั้งเธออยากให้ลูกชายได้ลองไปทานข้าวกับลูกสาวเพื่อนของเธอสักครั้ง
“ว่างค่ะ” ลินดาตอบเพียงเท่านั้นก่อนที่จะตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
แบบนี้เธอต้องกล่าวคำขอบคุณแม่ของพี่เขาไหม...
ช่วงพักเที่ยงวันต่อมา
“สวยหรือยังเนี่ย” หญิงสาวนั่งอยู่ในรถเอ่ยขึ้นมือเล็กเปิดตลับแป้งเพื่อส่องกระจกและเมื่ิอเห็นว่าตัวเองสวยและดูดีแล้วเธอจึงเปิดประตูก้าวเท้าลงจากรถของตัวเองอย่างสบายใจ
เธอสาวเท้าเดินเข้ามาในบริษัทของพี่พายุแล้วและเธอว่าเธอเห็นคุณแม่และพี่พายุเหมือนกำลังจะพูดคุยอะไรกันอยู่นะแต่เอ๊ะนั่นน้องชะเอมนี่
ผู้หญิงของพี่พายุเขา...