เหล่าแมลงเต็มตัวนาง

1351 คำ
นางไม่มีเมล็ดข้าวที่จะใช้ปลูก ป้าหวงจึงได้แบ่งจากที่เรือนของนางมาให้ แต่จิ่วเม่ยก็ไม่กล้าเอาเปล่าๆ ป้าหวงจึงได้คิดเงินนางเพียงสองตำลึงเท่านั้น นับว่าไม่มาก เมื่อเทียบกับที่นาของจิ่วเม่ยที่เพิ่มมาอีกเกือบสิบหมู่ ตอนนี้นางจึงมีที่ทำนาถึงสิบหกหมู่ หากจะให้นางทำผู้เดียวคงไม่ไหว ชาวบ้านจึงได้มาช่วยนางทำนาในครั้งนี้ด้วย แต่ต้องรอให้ชาวบ้านจัดการแปลงของตนเองเรียบร้อยเสียก่อน จิ่วเม่ยนางให้ค่าแรงพวกเขาคนละสามสิบอิแปะ เท่ากับราคาค่าจ้างในเมือง เพียงแต่ไม่มีอาหารให้เท่านั้น “ไม่ต้อง เจ้าเก็บเงินไว้ดูลูกเถิด” ป้าหวงและชาวบ้านต่างตำหนินาง “ไม่ได้เจ้าค่ะ พวกท่านช่วยเหลือข้าบ่อยครั้ง แต่ข้าไม่มีสิ่งใดที่จะตอบแทนพวกท่านได้เลย” จิ่วเม่ยมองพวกเขาทุกคนอย่างซาบซึ้ง “เช่นนั้นก็ให้เพียงยี่สิบอิแปะพอ ข้าวกลางวัน พวกข้าจะจัดการกันเอง” เมื่อป้าหวงเอ่ยเช่นนี้ ชาวบ้านที่เหลือต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ในหมู่บ้านหากไม่ใช่พวกเห็นแก่ตัวที่อยู่ไม่กี่เรือน พวกเขาต่างช่วยเหลือกันอยู่แล้ว จึงไม่คิดอยากจะได้เงินจากสองแม่ลูกที่น่าสงสารเช่นนี้ ในเมื่อจิ่วเม่ยนางไม่ยอม ทุกคนจึงได้ทำอย่างที่ป้าหวงว่า ซูเจินน้อยมองพวกเขาพูดอย่างอบอุ่นหัวใจ ในโลกที่นางจากมามีแต่การแข่งขัน น้อยนักที่จะเห็นผู้คนที่มีน้ำใจเช่นนี้ นางอยากจะรีบโตแล้วช่วยพวกเขาทำมาหากินนัก จิ่วเม่ยวางบุตรสาวให้นอนที่ใต้ต้นไม้ นางลงไปช่วยชาวบ้านลงนา ซูเจินนางมองฟ้ามองต้นไม้ใบหญ้ารอบตัวอย่างสนใจ ซูเจินนางไม่ได้ร้องไห้โยเยกวนมารดายามที่นางทำงาน แม้จะหิวจนท้องน้อยๆ เริ่มร้องแล้ว แต่ก็ยังนอนรออย่างเชื่อฟัง น่าแปลกบริเวณที่ซูเจินนอนรอมารดาของนางอยู่ มีเหล่าผีเสื้อ แมลง ผึ้งบินวนที่ตัวนางอยู่ตลอด แต่เหมือนทั้งหมดมาหยอกล้อกับนางแม้แต่ผึ้งก็ยังไม่มีสักตัวที่จะทำร้ายนาง “อาเม่ย!!! ไปดูเจินเออร์ เร็วเข้า” ป้าหวงหันมามองซูเจินที่มีแมลง ผึ้ง ผีเสื้อบินตรอมนางอยู่ นางจึงได้ร้องเสียงดังออกมา จิ่วเม่ยทิ้งของในมือ แล้ววิ่งไปทางบุตรสาวทันที แต่เมื่อเข้าไปไกล แมลงที่เห็นก็ไม่ได้คิดจะผละหนี ทั้งยังบินลงอยู่ด้านข้างอย่างเป็นระเบียบ เมื่อสำรวจเนื้อตัวของบุตรสาวเห็นว่าไม่ได้รับบาดเจ็บที่ใด นางก็มองเหล่า แมลงที่อยู่ด้านข้างตัวบุตรสาวอย่างแปลกใจ ซูเจินนางอยากจะสื่อสารให้มารดาเข้าใจ ใจแทบขาด ว่านิ้วมือของนางมีบางสิ่งที่เกิดขึ้น นางไม่รู้ว่าแสงสว่างที่เกิดขึ้นเหมือนตอนที่อยู่ในป่าเหอหนาน เกิดขึ้นอีกครั้งได้อย่างไร แม้แต่เสียงแมลงที่อยู่รอบตัวนาง นางยังได้ยิน เมื่อครู่ก่อนที่มารดาจะเดินมา นางสามารถสื่อสารผ่านทางจิตกับผีเสื้อตัวใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของแมลงที่บินวนรอบตัวนาง "นายหญิง ท่านมาแล้ว พวกข้ารอท่านมานานเหลือเกิน” “รอข้า รอทำไม” ซูเจินเอ่ยถาม แต่ดูเหมือนว่านางเป็นเพียงเด็กน้อยที่พ่นน้ำลายออกมาเสียมากกว่าที่จะเป็นการเอ่ยพูดกับผีเสื้อ “เพราะมือของท่านจะช่วยฟื้นคืนต้นไม้ในมิตินี่ได้” “ห๊า มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรอ” “เมื่อท่านเติบโตขึ้นจะเข้าใจเจ้าค่ะ แต่ท่านไม่ต้องห่วงตอนนี่ที่ท่านยังช่วยเหลือตนเองไม่ได้ พวกข้าจะคอยอยู่ดูแลท่านเจ้าค่ะ” “ดีดี ข้าจะเรียกเจ้าว่าอะไร” ผีเสื้อสีสันสวยงามมีนามว่า เสี่ยวเตี๋ย จะคอยแจ้งเรื่องสื่อสารกับเหล่าสัตว์ปีก หัวหน้าผึ้ง เสี่ยวมี่ นางจะสื่อสารกับสัตว์มีพิษทุกชนิด หัวหน้ามด เสี่ยวอี่ สัตว์ที่อยู่ใต้ดินและในป่าทั้งหมดจะถูกส่งต่อเรื่องราวต่างๆ จากเสี่ยวอี่ เมื่อเห็นสายตาที่มองมาอย่างสงสัยของจิ่วเม่ย ซูเจินจึงให้ทุกตัวแยกย้ายกันไปก่อน เหลือเพียงแต่เสี่ยวเตี๋ย เสี่ยวมี่ และเสี่ยวอี่ เท่านั้นที่อยู่ข้างนาง “หิวแล้วใช่ไหมลูก” จิ่วเม่ยอุ้มตัวบุตรสาวขึ้นมาป้อนนม เมื่อเห็นว่าแมลงต่างๆ ถอยหายไปจากที่ลูกสาวนอนแล้ว พอจิ่วเม่ยวางซูเจินที่กินอิ่มแล้วและหลับสนิท นางก็กลับไปช่วยชาวบ้านทำงานต่อ ระหว่างที่ซูเจินนางหลับ แมลงทั้งสามก็กลับมาอยู่ที่บนหน้าอกของนางอีกครั้ง ราวกับกำลังเฝ้าเจ้านายตัวน้อยให้นอนหลับอย่างปลอดภัย วันเวลาที่สงบสุขของสองแม่ลูกก็อยู่ไม่นาน หลังจากที่แยกออกมาใช้ชีวิตของตนเองได้เพียงสิบวัน นางไห่ซื่อที่อิจฉาที่ทำกินที่เพิ่มขึ้นอีกนับสิบหมู่ และที่ข้างเรือนของจิ่วเม่ยที่เพิ่มอีกห้าหมู่ ก็ทำให้นางเริ่มคิดแผนการ ยิ่งมีบุตรชายอย่างชุยฟงช่วยวางแผนด้วยแล้ว นางก็เดินทางกลับไปที่บ้านเดิม เพื่อพูดคุยกับน้องชายของนาง “อากวง ข้ามีงานให้เจ้าทำ” นางไห่ซื่อดึงตัวน้องชายไปคุยที่หลังเรือน แล้วบอกแผนการที่นางให้ไปจัดการ ไห่กวง ดวงตาเป็นประกายเมื่อฟังแผนการของพี่สาว เขาเลียริมฝีปากอย่างมุ่งร้าย “หากข้าได้ดี ไม่มีวันเริ่มท่านพี่อย่างแน่นอน” สองพี่น้องมองและยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ ก่อนที่นางไห่จะแยกกลับไปที่หมู่บ้านก่อน ในตอนกลางคืนไห่กวงจะแอบเข้าไปในหมู่บ้าน กลางดึกในคืนนั้น สองแม่ลูกนอนอยู่ภายในห้อง โดยไม่รู้เลยว่าด้านนอกเรือนกำลังมีคนคิดที่จะแอบเข้ามา เป็นไห่กวงที่กำลังเหลียวมองไปรอบๆ เรือน เพื่อหาทางกระโดดเข้ากำแพง ยังดีที่เรือนของจิ่วเม่ย ท่านปู่ท่านย่าของนางพอจะมีเงินจากการค้าขาย จึงได้สร้างกำแพงที่แข็งแรง ทั้งยังสูงกว่าเรือนอื่น ด้วยกลัวว่าสัตว์ป่าจะเข้ามาในหมู่บ้าน แต่ไห่กวงยังมิได้จะลองกระโดดเข้าเรือนของจิ่วเม่ย เสียงบินของผึ้งที่ไม่น่าจะยังมีอยู่ในตอนกลางคืน ก็บินตรงมาทางเขานับร้อยตัว ผึ้งในความดูแลของเสี่ยวมี่ ทำรังอยู่ที่ต้นไม้หน้าเรือนของจิ่วเม่ย เมื่อเห็นท่าทางลับๆ ล่อๆ ของไห่กวง มันก็รีบไปแจ้งเสี่ยวมี่ที่อยู่ด้านในเรือนทันที พอเสี่ยวมี่ออกมาด้านนอก พร้อมกับเสี่ยวเตี๋ย จึงให้ฝูงผึ้งเข้าจัดการกับไห่กวง จะได้ไม่รบกวนเวลานอนของนายหญิงของตน นางจะได้โตเร็วๆ “โอ๊ยยย” เสียงร้องของไห่กวงที่หน้าเรือน ทำให้จิ่วเม่ยต้องลุกออกไปดูว่าเป็นเสียงของผู้ใด แต่เมื่อออกมาชะเง้อคอดู ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่ที่หน้าเรือนของนาง จิ่วเม่ยเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่นางจะเดินกลับไปนอนข้างบุตรสาวตามเดิม ไห่กวงวิ่งหนีฝูงผึ้งไปยังเรือนของพี่สาว เมื่อจิ่วเม่ยนางออกมาจึงไม่ได้เห็นเขา ไห่กวงโดนผึ้งต่อยไปที่ใบหน้าและเนื้อตัวไม่น้อยกว่าสิบแห่ง เสี่ยวมี่ไม่ได้สั่งให้ลูกน้องของตนต่อยเขาเพิ่มแล้ว เพียงแต่ยังไล่ตามไปจนถึงเรือนของนางไห่ซื่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม