ถูกเสี่ยวมี่จัดการ

1337 คำ
เสียงร้องของไห่กวงที่วิ่งจากท้ายหมู่บ้านไปจนเรือนของตระกูลชุยที่กลางหมู่บ้าน ปลุกให้ชาวบ้านที่ต่างเข้านอนไปแล้วลุกขึ้นออกมาดูอย่างสงสัย “นั่นมันน้องชายนางไห่ซื่อมิใช่หรือ” หนึ่งในชาวบ้านที่ออกมาดูมองไปที่ไห่กวงที่วิ่งผ่านหน้าไป “มาทำอันใดยามนี้” พวกเขาต่างเดินตามไปอย่างสงสัย “ท่านพี่ ท่านพี่ เปิดประตูเร็วเข้า” ไห่กวงตะโกนร้องเรียกพี่สาวอยู่ที่หน้าเรือน นางไห่ซื่อลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างแปลกใจ นางคุยกับน้องชายไว้แล้วว่า พรุ่งนี้นางจะพาชาวบ้านไปที่เรือนของจิ่วเม่ย เพื่อให้พวกเขาเห็นกับตา ว่าทั้งคู่ลอบนัดพบกัน “นั่นเสียงอากวงมิใช่รึ” ต้าหลางลุกตามเมียขึ้นมานั่ง ก่อนที่จะเดินออกจากเรือนเพื่อไปดู พอเปิดประตูเรือนเท่านั้น นางไห่ซื่อก็กรีดร้องออกมา เมื่อเห็นผึ้งบินอยู่รอบตัวน้องชาย ใบหน้าของเขาเริ่มจะบวมเป็นหัวหมูแล้ว เสี่ยวมี่เห็นนางไห่ซื่อ ก็สั่งให้ผึ้งที่บินล้อมไห่หวง บินไปต่อยที่ปากของนางทันที “โอ๊ยยย” นางไห่ซื่อกรีดร้องออกมาอย่างเสียขวัญ ทั้งปัดป้องและวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในเรือน “เกิดเรื่องอันใดขึ้น” ชาวบ้านไปตามลุงหวงที่เป็นผู้นำหมู่บ้านมา เพราะไห่กวงไม่ใช่คนในหมู่บ้าน หากเกิดเรื่องร้ายกับเขาย่อมไม่ดี อีกอย่างเขาอยากจะรู้ว่าไห่กวงมาทำอะไรที่หมู่บ้านในตอนมืดค่ำเช่นนี้ ชาวบ้านมองตามฝูงผึ้งไปอย่างประหลาดใจ เพียงแค่ลุงหวงมาถึง ก็หนีหายไปเสียแล้ว ต่างมองเขาอย่างชื่นชม คนที่เพิ่งมายังไม่รู้เรื่องแต่ได้รับสายตาเช่นนี้ถึงกับกระอักกระอ่วนใจเลยทีเดียว แต่ก่อนที่จะมีผู้ใดเอ่ยเล่าสิ่งที่เห็นให้หัวหน้าหมู่บ้านได้รู้เรื่องราว ต่างก็ต้องไปตามตัวหมอมาดูอาการของสองพี่น้องเสียก่อน เพราะไห่กวงหมดสติไปเสียแล้ว “ไปทำอันใดมา ถึงได้โดนผึ้งต่อยมากมายเช่นนี้” ท่านหมอซง ได้แต่ส่ายหน้า เขาเป็นเพียงหมอเท้าเปล่าที่มีความรู้เล็กน้อยเท่านั้น ได้แต่ส่ายหน้าและให้ส่งไห่กวงเข้าไปหาหมอในเมืองแทน ซิ่วอิงแอบมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ที่ห้องของนางอย่างหวัดกลัว ยิ่งเห็นปากของมารดา นางก็อดที่จะสั่นสะท้านไม่ได้ พอผึ้งบินเข้ามาใกล้ นางก็กรีดร้องแล้วกลับเข้าไปอยู่ในห้องแทน ต้าหลางจำต้องเช่าเกวียนวัวของชาวบ้าน แล้วรีบพาสองพี่น้องเข้าไปในเมืองทันที ชาวบ้านที่เห็นไห่กวงวิ่งมาจากท้ายหมู่บ้านก็บอกเรื่องที่ตนรู้ให้ลุงหวงฟัง ลุงหวงรีบเดินไปที่ท้ายหมู่บ้านเพื่อดูว่าเกิดเรื่องกับจิ่วเม่ยและบุตรสาวหรือไม่ เพราะไห่กวงเป็นน้องชายของไห่ซื่อ ชื่อเสียงของเขาก็ไม่ค่อยจะดีนัก จิ่วเม่ยสะดุ้งตื่นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกอยู่ที่หน้าเรือน นางตบหลังของซูเจินที่สะดุ้งตื่นเช่นกันให้นางนอนต่อ ก่อนจะลุกออกไปดูผู้ที่มาเยือน “มีเรื่องอันใดเจ้าคะ” เมื่อเปิดประตูเรือนออกไปจิ่วเม่ยก็ต้องประหลาดใจ เพราะมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่อยู่หน้าเรือนของนาง “เจ้าเป็นอันใดหรือไม่” ลุงหวงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “ไม่เจ้าค่ะ” จิ่วเม่ยทำหน้ามึนงง นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ลุงหวงถึงได้ถามนางเช่นนี้ “ชาวบ้านเห็นไห่กวงวิ่งมาจากท้ายหมู่บ้าน หากเจ้าไม่เป็นอันใดก็ดีแล้ว” จิ่วเม่ยเบิกตากว้าง ตัวของนางสั่นสะท้านออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อได้ยินว่าไห่กวงวิ่งจากท้ายหมู่บ้านไปที่เรือนของพี่สาวเขา “จริงหรือเจ้าคะ เมื่อครึ่งชั่วยามได้ ข้าได้ยินเสียงร้องที่หน้าเรือน แต่พอออกมาดูกลับไม่พบสิ่งใด ข้าจึงได้กลับไปนอนต่อ” ลุงหวงใบหน้าเคร่งเครียดขึ้น เมื่อได้ยินสิ่งที่จิ่วเม่ยบอก แสดงว่าไห่กวงมาที่เรือนของนางจริง หากไม่ถูกฝูงผึ้งต่อยเข้าเสียก่อน ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับสองแม่ลูก “ไม่มีเรื่องอันมดแล้ว เจ้ากลับเข้าเรือนเถิด ไป ไปแยกย้ายไปพักผ่อน พรุ่งนี้ยังต้องทำนาอีก” ลุงหวงโบกมือไล่ทุกคน เขาไม่อยากให้จิ่วเม่ยกังวลมากกว่าเดิม ต้องรอให้ไห่กวงกับนางไห่ซื่อหายดีเสียก่อน ค่อยสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่เขาก็พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว ว่าสองพี่น้องไม่มีทางพูดความจริงอย่างแน่นอน กว่าต้าหลางจะนำเกวียนกลับมาคืนก็เกือบสายแล้ว นางไห่ซื่อปากบวมเป่งจนพูดไม่เป็นภาษา นางหลบอยู่แต่ในห้องไม่กล้าออกมาเพราะอับอายชาวบ้านคนอื่น ส่วนไห่กวงตอนนี้ยังต้องอยู่ที่โรงหมอ ไม่อาจพากลับมาด้วยได้ แม้ไม่มีอาการร้ายแรง แต่ใบหน้าของเขาก็บวมจนดูไม่ออกว่าเป็นผู้ใด ตอนเช้าซูเจินนางยังตามมารดาไปนอนที่ใต้ต้นไม้ข้างนาเช่นเดิม เสี่ยวมี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นางฟังอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของเด็กน้อยดังไปทั่วจนชาวบ้านที่กำลังทำนาต่างพากันยิ้มตาม จิ่วเม่ยและคนอื่นเริ่มจะชินเสียแล้ว ที่เห็นราวแมลง นก บินวนอยู่ใกล้ๆ กับซูเจิน ในตอนแรกก็หวาดกลัวว่าจะเกิดอันตรายแต่หลายวันเข้าเห็นว่าไม่เป็นอันใด จึงได้วางใจลง ทำงานของพวกนางต่อ จิ่วเม่ยเริ่มจะชินแล้ว แม้แต่อยู่ในเรือนนางยังเห็นมด ผีเสื้อ และผึ้งอย่างละตัว อยู่ข้างกายบุตรสาวตลอด หากนางมองไม่ผิดทั้งสามตัวเป็นตัวเดิม นางอดจะสงสัยไม่ได้ ว่าเหตุใดไห่กวงถึงได้โดนผึ้งต่อยได้ แต่เมื่อมองผึ้งตัวน้อยที่นอนอยู่บนอกบุตรสาว จิ่วเม่ยก็จ้องมองมันอย่างสงสัย แต่นางก็ต้องสลัดเรื่องที่คิดทิ้งไป จะเป็นไปได้อย่างไร ที่แมลงพวกนี้กำลังทำหน้าที่ปกป้องนางและบุตรสาวอยู่ ในแต่ละวันของซูเจินก็ไม่มีเรื่องใดที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนางจะกินแล้วนอนเท่านั้น ส่วนไห่กวงก็ไม่กล้ามาที่หมู่บ้านอีกเลย นางไห่หวงพอมีความคิดที่อยากจะจัดการกับสองแม่ลูก นางก็ต้องพบกับเรื่องร้าย หากไม่โดนมดรุมกัด ในตอนกลางคืนก็โดนหนูแอบเข้ามากัดเท้าของนางในห้องนอน แม้ต้าหลางจะหาทางกำจัด และไล่แมลง สัตว์เลื้อยคลานในเรือนทุกหนทาง แต่ก็มิอาจหมดไป จนทั้งสองแทบไม่มีเวลาไปจัดการเรื่องอื่นเลย ชุยฟงก็ไม่กลับมาอยู่ที่เรือน โดยหาข้ออ้างพักอยู่ที่สำนักศึกษา แต่ความจริงแล้วตัวเขาไปพักอยู่กับสหายและทำเรื่องเลวร้ายอยู่ในเมือง ชุยซิ่วอิง นางยังมิได้ออกเรือน จึงมิอาจย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ ห้องของนางก็มีหนู แมลงเข้าไปอยู่บ่อยครั้ง เสียงกรีดร้องที่ออกมาจากเรือนตระกูลชุย ชาวบ้านเรือนข้างเคียงเริ่มจะชินเสียแล้ว ไม่รู้ว่าคนทั้งเรือนไปลบหลู่เทพเจ้าองค์ใด ถึงได้พบแต่เรื่องโชคร้าย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม