ร่างสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร รูปร่างหนาเต็มไปด้วยมัดกล้ามเพราะเขาชอบออกกำลังกายเป็นประจำ นัยน์ตาคู่คมดุจเหยี่ยวที่จ้องจะขย้ำเหยื่อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูป สันกรามคมชัด องค์ประกอบโดยรวมของคนตรงหน้าทำให้หญิงสาวเผลอคิดว่าตัวร้ายหล่อกว่าที่จิตนาการไว้ แต่ไม่ว่าจะหล่อแค่ไหนผู้ชายคนนี้ก็ร้ายกาจเกินกว่าที่ทุกคนจะคิดภาพออก เขาคือคนที่ ‘สมมง’ กับบทตัวร้ายมากที่สุด
ทศวรรษมีนิสัยที่โหดเหี้ยม ป่าเถื่อน ใจร้อน และชอบพูดจาทำร้ายจิตใจคู่หมั้นผู้น่าสงสารตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เขาคือลูกชายเจ้าของธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางพาราที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสงขลาและใหญ่เป็นอันดับสองของภาคใต้ ทศวรรษเป็นทายาทรุ่นปัจจุบันที่ได้รับตำแหน่งดูแลกิจการต่อจากบิดาของเขา
คนที่เป็นคู่หมั้นของเธอขึ้นชื่อว่าคือเจ้าสัวของภาคใต้ดี ๆ นี่เอง ทว่าใคร ๆ ก็รู้ว่าทศวรรษมีนิสัยอย่างไร ลูกน้องทุกคนต่างเกรงกลัวเขากันทั้งนั้น นอกจากทำธุรกิจผลิตและส่งออกยางพาราเป็นหลัก ทศวรรษยังเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่ในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จักเขาดี
เขาคือตัวละครสำคัญในนิยายเรื่องนี้ เพราะนอกจากจะรับบทตัวร้ายที่เกลียดคู่หมั้นเข้าไส้ แต่เขาดันรัก ‘นางเอก’ ของเรื่องจนหมดหัวใจจึงเป็นเหตุให้ตัวร้ายต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้นางเอกมาครอง และกำจัดคู่หมั้นทิ้ง
‘แพรไหม’ คือนางเอกของนิยายเรื่องนี้ อีกฝ่ายเป็นหญิงสาวกำพร้าที่ปากกัดตีนถีบตัวเองจนได้เรียนหนังสือ เมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แพรไหมเป็นสายรหัสเดียวกับทศวรรษ ทั้งคู่จึงรู้จักกัน ทำให้ชายหนุ่มหลงรักนางเอกของเรื่องตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่งตอนนี้ที่เรียนจบมาหลายปีแล้ว ความรักก็ไม่เคยลดน้อยลงเลย
แต่พล็อตตายตัวของนิยาย...นางเอกก็ต้องคู่กับพระเอก แพรไหมได้เจอเข้ากับ ‘อาคิน’พระเอกของเรื่องที่เป็นคุณหมอสุดหล่อที่เก่งกาจ ความรักก็ค่อย ๆ กำเนิดขึ้น นิยายเรื่องนี้มีอุปสรรคขวางกั้นก็คือตัวร้ายของเรื่องที่พยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้นางเอกมาครอบครอง ทศวรรษรักแพรไหมมาก...แตกต่างจากอิงดาว คู่หมั้นที่เขาจำเป็นต้องหมั้นหมายด้วยเพราะถูกครอบครัวบังคับ
แต่จะว่าถูกคลุมถุงชนเต็มปากก็ไม่ได้ เพราะอิงดาวหลงรักทศวรรษ ลูกชายเพื่อนสนิทมารดาตั้งแต่เธอยังเด็ก แม่ของทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน ในเมื่อทั้งสองตระกูลสนิทสนมกันมานาน ลูกชายและลูกสาวแต่งงานกันก็นับว่าเป็นเรื่องดี อย่างที่บอก อิงดาวเป็นคนที่โชคดี เธออยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่างแม้กระทั่งเรื่องที่ต้องการแต่งงานกับทศวรรษทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยรักเธอเลย อิงดาวขอพ่อแม่ว่าอยากลงเอยกับผู้ชายคนนี้ และพ่อแม่ก็ตามใจเธอ ด้วยความที่แม่ของเธอและแม่ของทศวรรษเป็นเพื่อนสนิทกัน แถมอิงดาวยังเป็นที่รักของบ้านทศวรรษ ทำให้คุณนาย ‘ละมัย’ แม่ของทศวรรษบังคับลูกชายโดยให้เหตุผลถึงเรื่องของชาติตระกูลที่เราสองบ้านเป็นดองกันจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ทั้งคู่ ชายหนุ่มค้านแบบหัวเด็ดตีนขาดว่ายังไงก็จะไม่มีวันแต่งงานกับอิงดาว ทว่าสุดท้ายทั้งสองก็เข้า ‘พิธีหมั้น’ กันโดยยังไม่แต่ง การหมั้นเป็นความคิดของตัวร้ายที่เสนอมารดา โดยให้เหตุผลว่าลองอยู่กันไปก่อน ถ้าเวิร์คก็แต่งทีหลัง เนื้อเรื่องในนิยายบอกแค่ว่าอิงดาวยอมตกลงหมั้นกับทศวรรษ หลังจากหมั้นหมายกันเสร็จ หญิงสาวก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเขา และยังแยกห้องนอนจนถึงทุกวันนี้ ตัวละครอิงดาวรู้ทุกอย่างแม้กระทั่งว่าคู่หมั้นของตัวเองรักใครอยู่ แต่เธอก็ยอมเข้ามาอยู่ที่นี่เพื่อวันหนึ่งทศวรรษอาจจะหันมารักเธอบ้าง
น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกว่าเป็นได้แค่คนที่เกลียดเข้าไส้ เพราะนอกจากทศวรรษจะเกลียดอิงดาวเพราะรู้ว่าเธอคือต้นเหตุของความคิดที่อยากแต่งงานกับเขา ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตกลงปลงใจกัน
อีกเหตุผลที่เขาเกลียดเธอคือบทบาทของอิงดาวในนิยายนั้น...แม้ภายนอกจากเป็นสาวหวานมารยาทดี ทว่าข้างในคิดร้ายกับแพรไหม นางเอกของเรื่องเพราะคือศัตรูหัวใจ อิงดาวสั่งคนไปแกล้งแพรไหมจนอีกฝ่ายได้รับอุบัติเหตุ เนื้อเรื่องคือทศวรรษจับได้ว่าอิงดาวคือคนที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้ตอนนี้ร่างสูงมาหยุดตรงหน้าเธอ
ด้วยท่าทางที่โหดเหี้ยมไม่คิดปิดบัง
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอทำอะไรไว้”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยรอดไรฟัน ภายในห้องนอนของเธอ ถึงข้างนอกจะเป็นอิงดาวคนเก่าที่ต่อหน้าใสซื่อแต่ข้างในร้ายลึก ทว่าข้างในไม่ใช่อิงดาวคนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ในเมื่อมัทได้มาอยู่ในร่างใหม่ มีชีวิตใหม่ และชีวิตของคนเหล่านี้ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่เธอเคยอ่านมาแล้ว เพราะฉะนั้นเธอก็จะเอาตัวรอดในร่างนี้ให้ได้ แม้จะยังช็อคอยู่ก็ตาม
ใบหน้าหวานเสียลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคของผู้ชายตรงหน้า ดวงตากลมกลอกซ้ายขวาเพื่อนึกให้ออกว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร
อาจจะเป็นเรื่องนั้น เรื่องที่อิงดาวคนเก่าส่งคนไปแกล้งแพรไหมที่เป็นนางเอกจนอีกฝ่ายตกน้ำระหว่างไปให้อาหารปลาในวัด ทศวรรษที่รักแพรไหมสุดหัวใจก็ไปสืบหาว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังจนได้มารู้ว่าคือคู่หมั้นของตัวเอง
“ฉัน เอ้ย! อ...อิง”
“...”
“อิงไม่เข้าใจว่าพี่ทศพูดเรื่องอะไร”
ท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ของคนตัวเล็กทำให้นัยน์ตาคมหรี่ลง ต่างจากเธอที่ปั้นหน้าให้นิ่งมากที่สุด เมื่อกี้เกือบหลุดสรรพนามไปแล้ว ยังดีที่จำได้ว่าอิงดาวแทนตัวเองว่าอะไร และเรียกคู่หมั้นว่าอะไร
“แม่ฉันไม่อยู่ ไม่ต้องเล่นละคร”
“...”
“ฉันจะบอกอะไรให้ ถึงโลกนี้ไม่มีแพร ฉันก็ไม่รักเธอ”
“...”
“ผู้หญิงเสแสร้ง ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง อย่าว่าแต่แต่งงานเลย แค่หมั้น ฉันก็โคตรขยะแขยง”
“...”
“ไปขอโทษแพรไหมซะ”
อิงดาวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ รู้สึกหน้าชาอีกครั้งเพราะทั้งสีหน้าและคำพูดของตัวร้ายบอกชัดว่าเกลียดคู่หมั้นมากแค่ไหน อิงดาวกลอกสายตาไปมาอีกครั้ง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
“ค่ะ อิงจะไปขอโทษคุณแพรไหม”
“ดี งั้นมา!!”
พรึบ!
“โอ้ย เจ็บ!”
จู่ ๆ ทศวรรศก็กระชากข้อมือเล็กอย่างแรงจนเธอตัวปลิว เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณนายละมัย มารดาของทศวรรษเข้ามาพอดี อีกฝ่ายขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วและเห็นว่าที่ลูกสะใภ้หน้าซีดเหมือนจะป่วยก็ลงไปบอกคนขับรถให้เตรียมตัวเพราะจะพาหนูอิงดาวไปหาหมอ แต่ก็ขึ้นมาเห็นเจ้าลูกชายตัวดีกระชากหนูอิงดาวต่อหน้าต่อตา ทำให้คุณนายละมัยเดินดุ่ม ๆ เข้ามาห้าม
“ตาทศ ทำอะไรน้อง!”
ทศวรรษเห็นแบบนั้นก็ปล่อยข้อมือเล็กออก ตวัดสายตาน่ากลัวมองคู่หมั้นที่ลูบข้อมือตัวเองเพราะความเจ็บ เธอจ้องมองคนตัวสูงกลับ
ป่าเถื่อน รุนแรงกว่าที่คิดเอาไว้!